ข้างนอกสุกใส ข้างในเป็นโพรง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ เราอยากแชร์เรื่องราวชีวิตของเราดูบ้าง เผื่อมันจะเป็นกำลังใจให้ผู้อื่นได้ไม่มากก็น้อย
และเรื่องราวของเราอาจจะเป็นการบอกหลายๆคนได้เป็นอย่างดีเลยว่า…
ภายนอกที่ดูสวยงามนั้น ข้างในอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเสมอไปก็ได้
ข้อความต่อจากนี้ไม่มีการปรุงแต่งใดใดนะคะ นี่คือชีวิตเราจริงๆ มันคือความจริงล้วนๆเลยค่ะ
อาจจะเล่าไม่เก่ง พูดวกไปวนมาบ้าง ขออภัยด้วยจ้า
มาเริ่มกันเลยดีกว่า…
เราเป็นเด็กผู้หญิงค่ะ ปัจจุบันอายุ20ปี เรียนที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นมหาวิทยาลัยที่น้องๆหลายคนใฝ่ฝันจะเข้ามาเรียนเลย
เขาว่ากันว่าเป็นมหาวิทยาอันดับต้นๆเลยทีเดียวค่ะ ในมหาวิทยาลัยเราเรียนภาคภาษาอังกฤษ หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า ‘เด็กอินเตอร์’ นั่นแหละค่ะ
ชีวิตดูดีมากๆเลยใช่มั๊ยคะ? ขอลองเล่าเบื้องหลังบ้างนะคะ เบื้องลึกที่แท้จริง ที่มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ค่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อก่อนเราอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางไปจนถึงดีเลยค่ะ พ่อและแม่มีหน้าที่การงานที่ดีและมั่นคง และเรายังมีพี่ชายอีกหนึ่งคนค่ะ
แต่โชคร้าย ครอบครัวที่เหมือนจะสมบูรณ์แบบทุกอย่าง กลับไม่ใช่แบบนั้น บ้านเราเป็นบ้านเล็กค่ะ หรือถ้าพูดกันตรงๆแบบชาวบ้านก็คือแม่เราเป็นเมียน้อย หรือภรรยาที่ไม่ได้มีสิทธิอะไรตามกฎหมายค่ะ ไม่ใช่แค่เราที่รับรู้ และเข้าใจเรื่องนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ทุกคนก็รับรู้และเข้าใจเหมือนกันค่ะ…
เราหมายถึงญาติพี่น้อง คุณปู่ คุณย่า พี่ ป้า น้า อา ลูกน้องพ่อ ทุกคนรักและเอ็นดูเราในฐานะลูกของพ่อคนนึง และไม่เคยมีใครดูถูกเลยค่ะ
ภรรยาของพ่อ หรือคนที่พ่อให้เราเรียกว่าแม่ใหญ่ตั้งแต่เด็กก็รู้เรื่องนี้ค่ะ แต่มันอาจจะเป็นเรื่องยอมรับยากหน่อยค่ะ เราเข้าใจดีว่าแม่เราผิดนะคะ
เขาเองก็มีมาระรานแม่หลายครั้งสมัยยังสาวๆกันอยู่น่ะค่ะ 5555555 แต่ตอนนี้แก่แล้ว ก็ต่างคนต่างอยู่ ตั้งแต่เกิดจนโตเราก็เห็นแม่อยู่ในที่ของตัวเองค่ะ
ด้วยความที่พ่อเราค่อนข้างเป็นคนมีฐานะทางสังคมด้วย เราเองก็เป็นเด็กไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายอะไรนัก ไม่ได้รู้สึกน้อยใจ หรือโทษใครเลย
เราก็ยอมรับในชีวิตค่ะ ถ้ามันเป็นแบบนี้ ก็ต้องแบบนี้แหละค่ะ
สิ่งที่คิดอยู่ตลอดก็คือ สักวันลูกที่พ่อไม่ได้จดทะเบียนยอมรับตามกฎหมายเนี่ยแหละ จะได้ดีให้พ่อดู
พอเราเริ่มโต พ่อก็ยิ่งห่างค่ะ ทางนู้นเขาเริ่มคุมตัวมากขึ้นด้วย พ่อเราก็เริ่มส่งเงินให้แม่เราน้อยลงเรื่อยๆ และมาหาเราน้อยลงเช่นกันค่ะ
เราไม่รู้หรอกแน่ชัดหรอกค่ะว่าพ่อมีปํญหาอะไร แต่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเงิน เท่าที่ได้ยินมาก็คือภรรยาของพ่อน่าจะเป็นคนถือยศ ถือหน้าตาทางสังคมหน่อยค่ะ ยิ่งพ่อเรามีตำแหน่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ยิ่งอยากได้อยากมีมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้เทียบเท่า ให้คนเขาเรียกกันว่าคุณนายได้อย่างสมเกียรติน่ะค่ะ
แต่คงลืมคำนึงถึงรายรับไปหน่อย อยากนั่งรถเบนซ์ อยากใส่เพชร ใส่ทอง ทีนี้ก็คงเหมือนกับอาการชักหน้าไม่ถึงหลังมั้งคะ
พ่อเราเริ่มไม่ส่งเงิน ค่าเทอมแม่เราก็เริ่มต้องเป็นคนหาเงินจ่ายเองตั้งแต่เราอยู่ม.ต้นแล้วค่ะ
เมื่อทางนู้นเริ่มไม่ดูแล เรา แม่ และ พี่ชายก็ต้องดูแลตัวเองกันไปค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอตัวไปอาบน้ำก่อน ถ้ามีคนสนใจ จะมาเล่าต่อนะคะ
เราได้อะไรจากสังคมราคาแพง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ เราอยากแชร์เรื่องราวชีวิตของเราดูบ้าง เผื่อมันจะเป็นกำลังใจให้ผู้อื่นได้ไม่มากก็น้อย
และเรื่องราวของเราอาจจะเป็นการบอกหลายๆคนได้เป็นอย่างดีเลยว่า…
ภายนอกที่ดูสวยงามนั้น ข้างในอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นเสมอไปก็ได้
ข้อความต่อจากนี้ไม่มีการปรุงแต่งใดใดนะคะ นี่คือชีวิตเราจริงๆ มันคือความจริงล้วนๆเลยค่ะ
อาจจะเล่าไม่เก่ง พูดวกไปวนมาบ้าง ขออภัยด้วยจ้า
มาเริ่มกันเลยดีกว่า…
เราเป็นเด็กผู้หญิงค่ะ ปัจจุบันอายุ20ปี เรียนที่มหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง เป็นมหาวิทยาลัยที่น้องๆหลายคนใฝ่ฝันจะเข้ามาเรียนเลย
เขาว่ากันว่าเป็นมหาวิทยาอันดับต้นๆเลยทีเดียวค่ะ ในมหาวิทยาลัยเราเรียนภาคภาษาอังกฤษ หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า ‘เด็กอินเตอร์’ นั่นแหละค่ะ
ชีวิตดูดีมากๆเลยใช่มั๊ยคะ? ขอลองเล่าเบื้องหลังบ้างนะคะ เบื้องลึกที่แท้จริง ที่มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ค่ะ
ย้อนกลับไปเมื่อก่อนเราอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางไปจนถึงดีเลยค่ะ พ่อและแม่มีหน้าที่การงานที่ดีและมั่นคง และเรายังมีพี่ชายอีกหนึ่งคนค่ะ
แต่โชคร้าย ครอบครัวที่เหมือนจะสมบูรณ์แบบทุกอย่าง กลับไม่ใช่แบบนั้น บ้านเราเป็นบ้านเล็กค่ะ หรือถ้าพูดกันตรงๆแบบชาวบ้านก็คือแม่เราเป็นเมียน้อย หรือภรรยาที่ไม่ได้มีสิทธิอะไรตามกฎหมายค่ะ ไม่ใช่แค่เราที่รับรู้ และเข้าใจเรื่องนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ทุกคนก็รับรู้และเข้าใจเหมือนกันค่ะ…
เราหมายถึงญาติพี่น้อง คุณปู่ คุณย่า พี่ ป้า น้า อา ลูกน้องพ่อ ทุกคนรักและเอ็นดูเราในฐานะลูกของพ่อคนนึง และไม่เคยมีใครดูถูกเลยค่ะ
ภรรยาของพ่อ หรือคนที่พ่อให้เราเรียกว่าแม่ใหญ่ตั้งแต่เด็กก็รู้เรื่องนี้ค่ะ แต่มันอาจจะเป็นเรื่องยอมรับยากหน่อยค่ะ เราเข้าใจดีว่าแม่เราผิดนะคะ
เขาเองก็มีมาระรานแม่หลายครั้งสมัยยังสาวๆกันอยู่น่ะค่ะ 5555555 แต่ตอนนี้แก่แล้ว ก็ต่างคนต่างอยู่ ตั้งแต่เกิดจนโตเราก็เห็นแม่อยู่ในที่ของตัวเองค่ะ
ด้วยความที่พ่อเราค่อนข้างเป็นคนมีฐานะทางสังคมด้วย เราเองก็เป็นเด็กไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายอะไรนัก ไม่ได้รู้สึกน้อยใจ หรือโทษใครเลย
เราก็ยอมรับในชีวิตค่ะ ถ้ามันเป็นแบบนี้ ก็ต้องแบบนี้แหละค่ะ
สิ่งที่คิดอยู่ตลอดก็คือ สักวันลูกที่พ่อไม่ได้จดทะเบียนยอมรับตามกฎหมายเนี่ยแหละ จะได้ดีให้พ่อดู
พอเราเริ่มโต พ่อก็ยิ่งห่างค่ะ ทางนู้นเขาเริ่มคุมตัวมากขึ้นด้วย พ่อเราก็เริ่มส่งเงินให้แม่เราน้อยลงเรื่อยๆ และมาหาเราน้อยลงเช่นกันค่ะ
เราไม่รู้หรอกแน่ชัดหรอกค่ะว่าพ่อมีปํญหาอะไร แต่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องเงิน เท่าที่ได้ยินมาก็คือภรรยาของพ่อน่าจะเป็นคนถือยศ ถือหน้าตาทางสังคมหน่อยค่ะ ยิ่งพ่อเรามีตำแหน่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เขาก็ยิ่งอยากได้อยากมีมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อให้เทียบเท่า ให้คนเขาเรียกกันว่าคุณนายได้อย่างสมเกียรติน่ะค่ะ
แต่คงลืมคำนึงถึงรายรับไปหน่อย อยากนั่งรถเบนซ์ อยากใส่เพชร ใส่ทอง ทีนี้ก็คงเหมือนกับอาการชักหน้าไม่ถึงหลังมั้งคะ
พ่อเราเริ่มไม่ส่งเงิน ค่าเทอมแม่เราก็เริ่มต้องเป็นคนหาเงินจ่ายเองตั้งแต่เราอยู่ม.ต้นแล้วค่ะ
เมื่อทางนู้นเริ่มไม่ดูแล เรา แม่ และ พี่ชายก็ต้องดูแลตัวเองกันไปค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอตัวไปอาบน้ำก่อน ถ้ามีคนสนใจ จะมาเล่าต่อนะคะ