เราแน่ใจว่าสิ่งที่เรากระทำมันเรียกว่า "การเสียสละเล็กๆน้อย"
เรื่องมีอยู่ว่าบ่ายแก่ๆของวันหยุดที่ผ่านมา น่าจะเรียกว่าค่อนข้างเย็นแล้วมากกว่า
ทำกิจวัตรประจำวันหยุดเรียบร้อย อาบน้ำ ลงมาทานข้าว ทานเสร็จ อารมณ์อยากบังเกิด
อยากกินเค้กค่า มาอยากอะไรตอนนี้!!! เลยไปร้านประจำ ไปถึงแอบตกกะจายยยย
บระเจ้า!! เหลือชิ้นเดียวเค้กมะพร้าวช้านนนนนนนน เจ้าของร้านบอกว่าวันนี้มีคนพร้อมใจกันกินเค้กมะพร้าว
แหมมมมมใจตรงกันวันนี้เนี่ยนะ
เอาชิ้นนี้ค่ะ พูดจบเพียง 2 วิเท่านั้น มีคุณป้ามาจากไหนไม่ทราบ ท่าทางกระหืดกระหอบ
"หนูๆป้าขอได้ไม๊เค้กชิ้นนี้ ขอซื้อนะ"
เอิ่มอกอีแป้นจะแตก ดีนะไม่มีให้แตกเล็กไปหน่อย เลยมองหน้าป้า มองตาแก และมองลึกลงไป
ลึกลงไป ลึกลงไป คล้ายๆโคนันก็ไม่ปาน แล้วพบว่าดวงตาคู่นั้นเป็นดวงตาของการเว้าวอนสุดๆ
ป้าคะ please ค่ะ โปรดอย่าทำเยี่ยงนี้เลย แงๆหนูก็อยากกินนะ โฮๆๆๆร้องไห้ในใจแพ้พพพพพ
ในที่สุดค่ะ
ปล่อยมันไป ปล่อยมันไป เพลง let it go ที่ประกอบการ์ตูนเรื่องโปรด
Frozen ลอยมาเชียวค่ะ ประหนึ่งช้านเป็นเอลซ่าหรืออันนายังไงยังงั้น เกี่ยวกันป่ะ ฮ่าๆๆ จริงๆคง
ไม่เกี่ยวกัน แต่วินาทีนั้นมันต้องเป็นเพียงนี้แหละ ฟังทุกวัน!!! หลานเปิด ฮึ่มๆ let it go let it go
"ค่ะ" ตอบตกลงคุณป้าไปสั้นๆ แต่ในใจแสนจะทรมาน ประหนึ่งกล้วยกำลังจะเข้าปากช้าง หุหุ
ไม่เป็นไรร้านเค้กที่เซ็นทรัลพระราม 3 รอช้านนนนนอยู่ พร้อมกับทำท่าปังแมนด์เตรียมบินไป
จุดหมาย ถ้าไม่ได้กินเค้กช้านจะลงแดงตายวันนี้แหละ ขอบคุณเซ็นทรัลนะคะที่อยู่ใกล้บ้านอิฉัน
ป้ามาขอบใจแล้วบอกเหตุผลประกอบการของป้าว่าได้กำไรเท่าไร เย้ยยยยยยยไม่ใช่แระ เหตุผล
ที่ป้าขอเค้กชิ้นนี้เฟร้ย
"หลานป้าบ่นว่าอยากกินเค้ก และเค้าชอบเค้กมะพร้าวหมือนหนูจ้ะ
ป้าเลยออกมาซื้อให้ กลัวว่าถ้าไม่ได้กลับไปหลานจะผิดหวังเอา"
โอวววววววววพระเจ้าจอร์ชป้าเมพสุดๆ
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า "ความรัก" สินะ ป้าน่ารักมากค่ะ
แล้วเพื่อนๆล่ะคะเสียสละครั้งสุดท้ายเรื่องไหนกันบ้างและเมื่อไรกันคะ ?
ปล.วันอังคารสีชมพู จำได้เพราะเคยมีใครบางคนบอกไว้

นี่เป็นเพียงเรื่องเล่าเคล้าความสุขค่ะ
อย่างน้อยนึกมาแว่บหนึ่ง อยากให้คนไทยทุกๆคนเสียสละอะไรบางอย่างกันบ้าง เพื่อความสุขของพ่อหลวง อย่าดราม่ากันนะคะ ^^
ปล.2 แก้ไขคำค่ะ
= เมื่อเราเสียสละเค้กชิ้นโปรดให้กับมนุษย์ที่หลายๆคนเรียกว่า "ป้า" =
เรื่องมีอยู่ว่าบ่ายแก่ๆของวันหยุดที่ผ่านมา น่าจะเรียกว่าค่อนข้างเย็นแล้วมากกว่า
ทำกิจวัตรประจำวันหยุดเรียบร้อย อาบน้ำ ลงมาทานข้าว ทานเสร็จ อารมณ์อยากบังเกิด
อยากกินเค้กค่า มาอยากอะไรตอนนี้!!! เลยไปร้านประจำ ไปถึงแอบตกกะจายยยย
บระเจ้า!! เหลือชิ้นเดียวเค้กมะพร้าวช้านนนนนนนน เจ้าของร้านบอกว่าวันนี้มีคนพร้อมใจกันกินเค้กมะพร้าว
แหมมมมมใจตรงกันวันนี้เนี่ยนะ
เอาชิ้นนี้ค่ะ พูดจบเพียง 2 วิเท่านั้น มีคุณป้ามาจากไหนไม่ทราบ ท่าทางกระหืดกระหอบ
"หนูๆป้าขอได้ไม๊เค้กชิ้นนี้ ขอซื้อนะ"
เอิ่มอกอีแป้นจะแตก ดีนะไม่มีให้แตกเล็กไปหน่อย เลยมองหน้าป้า มองตาแก และมองลึกลงไป
ลึกลงไป ลึกลงไป คล้ายๆโคนันก็ไม่ปาน แล้วพบว่าดวงตาคู่นั้นเป็นดวงตาของการเว้าวอนสุดๆ
ป้าคะ please ค่ะ โปรดอย่าทำเยี่ยงนี้เลย แงๆหนูก็อยากกินนะ โฮๆๆๆร้องไห้ในใจแพ้พพพพพ
ในที่สุดค่ะ
ปล่อยมันไป ปล่อยมันไป เพลง let it go ที่ประกอบการ์ตูนเรื่องโปรด
Frozen ลอยมาเชียวค่ะ ประหนึ่งช้านเป็นเอลซ่าหรืออันนายังไงยังงั้น เกี่ยวกันป่ะ ฮ่าๆๆ จริงๆคง
ไม่เกี่ยวกัน แต่วินาทีนั้นมันต้องเป็นเพียงนี้แหละ ฟังทุกวัน!!! หลานเปิด ฮึ่มๆ let it go let it go
"ค่ะ" ตอบตกลงคุณป้าไปสั้นๆ แต่ในใจแสนจะทรมาน ประหนึ่งกล้วยกำลังจะเข้าปากช้าง หุหุ
ไม่เป็นไรร้านเค้กที่เซ็นทรัลพระราม 3 รอช้านนนนนอยู่ พร้อมกับทำท่าปังแมนด์เตรียมบินไป
จุดหมาย ถ้าไม่ได้กินเค้กช้านจะลงแดงตายวันนี้แหละ ขอบคุณเซ็นทรัลนะคะที่อยู่ใกล้บ้านอิฉัน
ป้ามาขอบใจแล้วบอกเหตุผลประกอบการของป้าว่าได้กำไรเท่าไร เย้ยยยยยยยไม่ใช่แระ เหตุผล
ที่ป้าขอเค้กชิ้นนี้เฟร้ย
ป้าเลยออกมาซื้อให้ กลัวว่าถ้าไม่ได้กลับไปหลานจะผิดหวังเอา"
โอวววววววววพระเจ้าจอร์ชป้าเมพสุดๆ
สิ่งเล็กๆที่เรียกว่า "ความรัก" สินะ ป้าน่ารักมากค่ะ
แล้วเพื่อนๆล่ะคะเสียสละครั้งสุดท้ายเรื่องไหนกันบ้างและเมื่อไรกันคะ ?
ปล.วันอังคารสีชมพู จำได้เพราะเคยมีใครบางคนบอกไว้
อย่างน้อยนึกมาแว่บหนึ่ง อยากให้คนไทยทุกๆคนเสียสละอะไรบางอย่างกันบ้าง เพื่อความสุขของพ่อหลวง อย่าดราม่ากันนะคะ ^^
ปล.2 แก้ไขคำค่ะ