วันที่ 09 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 12:22:10 น.
เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษก ปชป. กล่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 ในกรอบวงเงิน 2.575 ล้านล้านบาท ว่า อยากให้ คสช.ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ในการพิจารณาโครงการลงทุน เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่คำนึงถึงฐานเสียงหรือผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งในโครงการรถไฟความเร็วสูง พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าหากจำเป็นต้องทำ เส้นทางแรกที่ควรทำคือ กทม.-หนองคาย ที่โยงไปถึงจีนซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ จะเชื่อมโยงให้ไทยเป็นประตูสู่อาเซียน นำสินค้าจีน ไปยังมาเลเซียและอินโดนีเซียได้ภายใน 24 ชั่วโมง ถือว่าคุ้มค่าการลงทุนทางด้านเศรษฐกิจ จึงขอฝากไปยังผู้เกี่ยวข้อง ว่าหากสามารถประสานไปยังรัฐบาลจีน เพื่อให้มีการร่วมลงทุนในการพัฒนา จะทำให้เราสามารถประหยัดงบประมาณ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินกู้ ซึ่งเรื่องนี้อำนาจพิเศษสามารถทำได้
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการรถไฟรางคู่ เป็นโครงการที่ริเริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มาสานต่อ แต่โครงการนี้ถูกพับไปโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่เอาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไปอยู่ในแผนกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จึงอยากให้คสช.พิจารณาลงทุนในโครงการที่คุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจอย่างแท้จริง อย่าเอาเงินเป็นตัวตั้ง ซึ่งพรรคเห็นด้วยหากจะมีการทำรถไฟรางคู่ 10 สาย เชื่อมหัวเมืองใหญ่ๆจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าและประหยัดพลังงานได้ สำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ขณะนี้กฎหมายหมดอายุไปตั้งแต่เดือน มิถนายน2556แล้ว ดังนั้นการลงทุนไม่ควรใช้เงินเป็นตัวตั้ง แต่ควรดูโครงการที่พัฒนาด้านแหล่งน้ำ และการเกษตรเป็นหลัก เนื่องจากจุดประสงค์ของการใช้งบประมาณนี้เพื่อป้องกันน้ำท่วมและภัยแล้ง จึงขอให้ใช้ยุทธศาสตร์ที่ทำให้น้ำทุกหยดที่ตกลงบนแผ่นดิน ได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทั้งการพัฒนาอ่างเก็บน้ำในชนบท การวางระบบท่อ การผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ การจัดโซนนิ่งทางด้านการเกษตร การจัดตั้งธนาคารที่ดิน โฉนดชุมชน การเก็บภาษีที่ดิน และภาษีมรดก หากนำโครงการเหล่านี้มาปัดฝุ่น ประเทศไทยจะมีอนาคตที่สดใสและพร้อมรับการเลือกตั้งในโอกาสต่อไป
“ส่วนประเด็นเรื่องการปฏิรูปพลังงานที่มีการเสนอให้ยกเลิกกองทุนน้ำมันนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องควรทำให้เกิดความกระจ่างว่า การใช้กฎหมายเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมัน เป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่ กองทุนนี้มีจุดประสงค์ เพื่อตรึงราคาพลังงานในระยะสั้น แต่ในระยะหลังมีการนำไปใช้เพื่อตรึงราคาในระยะยาว เป็นการหวังผลทางการเมือง อย่างไรก็ตามหากมีการยกเลิกกองทุนน้ำมัน จะทำให้นโยบายพลังงานทดแทนได้รับผลกระทบ เช่น อี 85 และแก๊สโซฮอล์ มีราคาสูงขึ้น ดังนั้นทุกฝ่ายควรร่วมกันวางแผนอย่างเต็มรูปแบบว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ในส่วนของ ปชป.จะเสนอแนวทางการปฏิรูปพลังงานหลังจากที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับพรรคการเมืองโดยพรรคจะเดินหน้าสู่แผนปฏิรูป 7 ด้านที่เคยประกาศไว้” โฆษก ปชป.กล่าว
ปชป.แนะ"คสช."จับมือ"จีน"ลุยโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-หนองคาย อ้างคุ้มค่า
เวลา 10.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษก ปชป. กล่าวถึงกรณีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 ในกรอบวงเงิน 2.575 ล้านล้านบาท ว่า อยากให้ คสช.ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ในการพิจารณาโครงการลงทุน เพื่อประโยชน์ของประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง โดยไม่คำนึงถึงฐานเสียงหรือผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งในโครงการรถไฟความเร็วสูง พรรคประชาธิปัตย์เห็นว่าหากจำเป็นต้องทำ เส้นทางแรกที่ควรทำคือ กทม.-หนองคาย ที่โยงไปถึงจีนซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจ จะเชื่อมโยงให้ไทยเป็นประตูสู่อาเซียน นำสินค้าจีน ไปยังมาเลเซียและอินโดนีเซียได้ภายใน 24 ชั่วโมง ถือว่าคุ้มค่าการลงทุนทางด้านเศรษฐกิจ จึงขอฝากไปยังผู้เกี่ยวข้อง ว่าหากสามารถประสานไปยังรัฐบาลจีน เพื่อให้มีการร่วมลงทุนในการพัฒนา จะทำให้เราสามารถประหยัดงบประมาณ โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินกู้ ซึ่งเรื่องนี้อำนาจพิเศษสามารถทำได้
นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการรถไฟรางคู่ เป็นโครงการที่ริเริ่มมาตั้งแต่รัฐบาลนายชวน หลีกภัย และรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้มาสานต่อ แต่โครงการนี้ถูกพับไปโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่เอาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน ไปอยู่ในแผนกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท จึงอยากให้คสช.พิจารณาลงทุนในโครงการที่คุ้มค่าทางด้านเศรษฐกิจอย่างแท้จริง อย่าเอาเงินเป็นตัวตั้ง ซึ่งพรรคเห็นด้วยหากจะมีการทำรถไฟรางคู่ 10 สาย เชื่อมหัวเมืองใหญ่ๆจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าและประหยัดพลังงานได้ สำหรับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ขณะนี้กฎหมายหมดอายุไปตั้งแต่เดือน มิถนายน2556แล้ว ดังนั้นการลงทุนไม่ควรใช้เงินเป็นตัวตั้ง แต่ควรดูโครงการที่พัฒนาด้านแหล่งน้ำ และการเกษตรเป็นหลัก เนื่องจากจุดประสงค์ของการใช้งบประมาณนี้เพื่อป้องกันน้ำท่วมและภัยแล้ง จึงขอให้ใช้ยุทธศาสตร์ที่ทำให้น้ำทุกหยดที่ตกลงบนแผ่นดิน ได้รับการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ทั้งการพัฒนาอ่างเก็บน้ำในชนบท การวางระบบท่อ การผันน้ำข้ามลุ่มน้ำ การจัดโซนนิ่งทางด้านการเกษตร การจัดตั้งธนาคารที่ดิน โฉนดชุมชน การเก็บภาษีที่ดิน และภาษีมรดก หากนำโครงการเหล่านี้มาปัดฝุ่น ประเทศไทยจะมีอนาคตที่สดใสและพร้อมรับการเลือกตั้งในโอกาสต่อไป
“ส่วนประเด็นเรื่องการปฏิรูปพลังงานที่มีการเสนอให้ยกเลิกกองทุนน้ำมันนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องควรทำให้เกิดความกระจ่างว่า การใช้กฎหมายเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้น้ำมัน เป็นเรื่องที่สมควรหรือไม่ กองทุนนี้มีจุดประสงค์ เพื่อตรึงราคาพลังงานในระยะสั้น แต่ในระยะหลังมีการนำไปใช้เพื่อตรึงราคาในระยะยาว เป็นการหวังผลทางการเมือง อย่างไรก็ตามหากมีการยกเลิกกองทุนน้ำมัน จะทำให้นโยบายพลังงานทดแทนได้รับผลกระทบ เช่น อี 85 และแก๊สโซฮอล์ มีราคาสูงขึ้น ดังนั้นทุกฝ่ายควรร่วมกันวางแผนอย่างเต็มรูปแบบว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ในส่วนของ ปชป.จะเสนอแนวทางการปฏิรูปพลังงานหลังจากที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับพรรคการเมืองโดยพรรคจะเดินหน้าสู่แผนปฏิรูป 7 ด้านที่เคยประกาศไว้” โฆษก ปชป.กล่าว