เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 มิ.ย. พ.อ.วันธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า ขอให้เข้าใจว่า ทุกเรื่องที่ คสช. ได้คิดและพิจารณา เกิดจากการรับฟังมาจากหลายกลุ่ม หลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ประกอบด้วย ประชาชน ข้าราชการ กลุ่มที่ปรึกษา รวมทั้งจากสื่อมวลชน และจากข้อร้องเรียนของประชาชน ซึ่งทั้งหมดได้ถูกรวบรวมมา แล้วพยายามนำไปดำเนินการแก้ไข อะไรแก้ไขได้เลยโดยไม่มีผลกระทบหรือเป็นปัญหาก็จะดำเนินการทันที
บางอย่างเริ่มต้นด้วยการชะลอก็พยายามดำเนินการอยู่แล้ว แต่บางอย่างที่ยังมีเรื่องของกฎหมาย และระเบียบควบคุมอยู่ หรือเป็นเรื่องของโครงสร้างทั้งระบบ ก็จะรีบดำเนินการโดยไม่ศึกษาผลกระทบก่อนไม่ได้ เพราะแก้หนึ่งเรื่องอาจมีผลกระทบไปหลายเรื่อง บางเรื่องอาจมีผลกระทบไปถึงโครงสร้างระบบการเงินการคลังของประเทศ รายได้ของรัฐฯ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้น และอีกมากมาย
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแก้โครงสร้างระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงาน เงินชดเชยต่างๆ เรื่องภาษี และรายได้เกษตรกร ในระยะแรกพยายามผ่อนคลายความเดือดร้อนของประชาชนเป็นลำดับแรก ระยะต่อไปเมื่อมีรัฐบาล มีคณะรัฐมนตรี จะได้นำเข้าไปดำเนินการให้ถูกต้อง จนทุกฝ่ายพึงพอใจ
“ขอให้มั่นใจ คสช. ในการบริหารแผนโครงการและงบประมาณภายใต้ความ ถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบได้ จะไม่มีในเรื่องทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ระบบการจัดซื้อจัดจ้างในทุกโครงการสามารถเข้าแข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีระบบผูกขาดใดๆ เรื่องการศึกษาหรืออะไรก็ตามบางอย่างอาจทำได้เลย บางอย่างต้องรอคอยให้ระบบกลไกเดิมได้ทำงาน เพราะที่ผ่านมาระบบอาจทำงานไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเรื่องการเมือง ระบบบริหารราชการ ตัวข้าราชการ และกฎหมาย อาจมีปัญหา วันนี้ปัญหาหรือความเดือนร้อน และข้อข้องใจ ได้รับทราบครบถ้วน เพียงแต่ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา การเร่งรัดมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประเทศชาติในอนาคต” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า คสช. ต้องการแก้ปัญหาให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม ขจัดเรื่องผลประโยชน์ ธุรกิจทับซ้อนให้หมดไปทันที แต่เนื่องจาก ปัญหาได้สะสมมานาน มีเรื่องราวหลายอย่างที่ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง ทำให้ ประชาชนสับสน และไม่เข้าใจ ข้าราชการก็ไม่ดี ไม่แก้ไข ทำให้เกิดความยุ่งยากมาจนถึงปัจจุบัน ขอให้มั่นใจ คสช. มีความตั้งใจจริง มิได้มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างที่หลายกลุ่ม หลายฝ่ายได้กล่าวอ้าง และขอยืนยันว่าจะไม่เริ่มแก้ไขสิ่งที่ผิด สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการที่จะเริ่มทำความผิดขึ้นใหม่ หรือปล่อยให้มีการทำผิดเสียเอง ความคาดหวัง จากการที่ คสช.ได้พยายามดำเนินการมาหรือที่พยายามดำเนินการอยู่ ยากที่จะใช้คำว่า WIN - WIN น่าจะใช้คำว่า ทุกคนได้รับผลประโยชน์ตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ โดยที่เงินงบประมาณของประเทศ ไม่รั่วไหล
รองโฆษกกองทัพพบก กล่าวต่อไปว่า คนไทยหลายคนใจร้อน และรักความยุติธรรม หัวหน้า คสช. เข้าใจ ก็กำลังจะดำเนินการให้อยู่อย่างดีที่สุด เราไม่สามารถแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็น สิบสิบปี ได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน เว้นแต่เรื่องที่ติดขัดนั้นไม่ขัดกฎหมาย ซึ่งเดิมถูกละเว้น ถูกบิดเบือน เราต้องทำให้กฎกติกาเหล่านั้นทำงาน และทำให้ทันสมัยขึ้น
บรรดากลุ่มการเมือง พรรคการเมือง แกนนำ คู่ขัดแย้ง ที่กล่าวถึงในเรื่องเหล่านี้ ขอให้ระมัดระวัง การกล่าวถึง คสช.ในลักษณะที่ไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่น เรากำลังทำงาน ที่ทุกท่านทำมาหลายสิบปีไม่สำเร็จ ให้เป็นรูปธรรมให้ได้โดยเร็ว ใครที่มีส่วนร่วมในการบริหารราชการในอดีต ถือว่าต้องรับผิดชอบทั้งสิ้น
ที่มา
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd01qSTVNREkxTlE9PQ==&subcatid=
คสช.วอนประชาชนเข้าใจการทำงาน เตือนพรรคการเมือง-แกนนำ-คู่ขัดแย้งระวังคำพูด
บางอย่างเริ่มต้นด้วยการชะลอก็พยายามดำเนินการอยู่แล้ว แต่บางอย่างที่ยังมีเรื่องของกฎหมาย และระเบียบควบคุมอยู่ หรือเป็นเรื่องของโครงสร้างทั้งระบบ ก็จะรีบดำเนินการโดยไม่ศึกษาผลกระทบก่อนไม่ได้ เพราะแก้หนึ่งเรื่องอาจมีผลกระทบไปหลายเรื่อง บางเรื่องอาจมีผลกระทบไปถึงโครงสร้างระบบการเงินการคลังของประเทศ รายได้ของรัฐฯ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้น และอีกมากมาย
พ.อ.วินธัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับการแก้โครงสร้างระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงาน เงินชดเชยต่างๆ เรื่องภาษี และรายได้เกษตรกร ในระยะแรกพยายามผ่อนคลายความเดือดร้อนของประชาชนเป็นลำดับแรก ระยะต่อไปเมื่อมีรัฐบาล มีคณะรัฐมนตรี จะได้นำเข้าไปดำเนินการให้ถูกต้อง จนทุกฝ่ายพึงพอใจ
“ขอให้มั่นใจ คสช. ในการบริหารแผนโครงการและงบประมาณภายใต้ความ ถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ สามารถตรวจสอบได้ จะไม่มีในเรื่องทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ระบบการจัดซื้อจัดจ้างในทุกโครงการสามารถเข้าแข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีระบบผูกขาดใดๆ เรื่องการศึกษาหรืออะไรก็ตามบางอย่างอาจทำได้เลย บางอย่างต้องรอคอยให้ระบบกลไกเดิมได้ทำงาน เพราะที่ผ่านมาระบบอาจทำงานไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเรื่องการเมือง ระบบบริหารราชการ ตัวข้าราชการ และกฎหมาย อาจมีปัญหา วันนี้ปัญหาหรือความเดือนร้อน และข้อข้องใจ ได้รับทราบครบถ้วน เพียงแต่ต้องหาวิธีการที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา การเร่งรัดมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประเทศชาติในอนาคต” รองโฆษกกองทัพบก กล่าว
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า คสช. ต้องการแก้ปัญหาให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม ขจัดเรื่องผลประโยชน์ ธุรกิจทับซ้อนให้หมดไปทันที แต่เนื่องจาก ปัญหาได้สะสมมานาน มีเรื่องราวหลายอย่างที่ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง ทำให้ ประชาชนสับสน และไม่เข้าใจ ข้าราชการก็ไม่ดี ไม่แก้ไข ทำให้เกิดความยุ่งยากมาจนถึงปัจจุบัน ขอให้มั่นใจ คสช. มีความตั้งใจจริง มิได้มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างที่หลายกลุ่ม หลายฝ่ายได้กล่าวอ้าง และขอยืนยันว่าจะไม่เริ่มแก้ไขสิ่งที่ผิด สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการที่จะเริ่มทำความผิดขึ้นใหม่ หรือปล่อยให้มีการทำผิดเสียเอง ความคาดหวัง จากการที่ คสช.ได้พยายามดำเนินการมาหรือที่พยายามดำเนินการอยู่ ยากที่จะใช้คำว่า WIN - WIN น่าจะใช้คำว่า ทุกคนได้รับผลประโยชน์ตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ โดยที่เงินงบประมาณของประเทศ ไม่รั่วไหล
รองโฆษกกองทัพพบก กล่าวต่อไปว่า คนไทยหลายคนใจร้อน และรักความยุติธรรม หัวหน้า คสช. เข้าใจ ก็กำลังจะดำเนินการให้อยู่อย่างดีที่สุด เราไม่สามารถแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็น สิบสิบปี ได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน เว้นแต่เรื่องที่ติดขัดนั้นไม่ขัดกฎหมาย ซึ่งเดิมถูกละเว้น ถูกบิดเบือน เราต้องทำให้กฎกติกาเหล่านั้นทำงาน และทำให้ทันสมัยขึ้น
บรรดากลุ่มการเมือง พรรคการเมือง แกนนำ คู่ขัดแย้ง ที่กล่าวถึงในเรื่องเหล่านี้ ขอให้ระมัดระวัง การกล่าวถึง คสช.ในลักษณะที่ไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่น เรากำลังทำงาน ที่ทุกท่านทำมาหลายสิบปีไม่สำเร็จ ให้เป็นรูปธรรมให้ได้โดยเร็ว ใครที่มีส่วนร่วมในการบริหารราชการในอดีต ถือว่าต้องรับผิดชอบทั้งสิ้น
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd01qSTVNREkxTlE9PQ==&subcatid=