ผมทำงานเป็น Creative Design และทำอาชีพเสริมคือ Tarot Reader หรือหมอดูนั่นเเหละครับ ตลอดเวลา 8 ปีที่เป็นหมอดู ได้ดูดวงให้คนเยอะมากๆ ผมไม่เคยเชื่อเรื่องชะตากรรม ดังนั้นในการดูไพ่ ผมจึงใช้โอกาสนี้ในการเรียนรู้จากลูกค้าที่ประสบความสำเร็จในชีวิตด้วย (นี่หลักฐาน
http://www.vittarot.com)
ลูกค้าที่น่ารักของผมท่านหนึ่งอาศัยอยู่ในที่ประเทศอเมริกาบอกกับผมว่าที่อเมริกาตอนนี้คนตกงานกันระนาว คนไทยว่าหางานยากแล้ว คนอเมริกาหาเงินหางานในบ้านตัวเองยากกว่า เศรษฐกิจเน่า องค์กรต่างๆมีตำแหน่งงานที่จำกัดจำเขี่ย นี่ยังไม่รวมนนักศึกษาจบใหม่และรุ่นใหญ่ที่ตกงานกันอยู่ก่อนหน้า เป็นสงครามเลือดของคนที่อยากมีงานทำ
ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้ผมได้ยินเรื่องราวของคนที่ตกงานเยอะมาก แค่เฉพาะคนตกงานกระทันหันที่มาดูไพ่กับผมก็หลายคนแล้ว เชื่อไหมครับ คนตกงานส่วนใหญ่ที่ผมรู้จัก ล้วนไม่คิดว่าตัวเองจะตกงาน คุณอาจจะขำ ตลก สบประมาท เรื่องแค่นี้คุณรู้แต่ทำไมคนเหล่านั้นไม่รู้ อันนี้อย่ามองเป็นเรื่องตลกไปนะครับ คนสูบบุหรี่ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งปอด คนไม่ออกกำลังกายส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อว่าตัวเองจะอ่อนแอ คนที่ไม่ยอมกินผักก็ไม่เชื่อว่ากำลังทำร้ายร่างกายตัวเอง คนที่ดีกับคนอื่นมากกว่าคนในบ้านมากก็ไม่เชื่อว่าวันหนึ่งพ่อแม่ตัวเองต้องตาย เรื่องแบบนี้เป็นความคิดที่มีกันเยอะมาก แล้วประสาอะไรกับเรื่องตกงานในสังคมไทย จริงมั้ย…???
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ในโลกยุคไหน แต่ผมกล้าการันตีจากประสบการณ์เลยว่ายุคนี้เป็นยุคที่การเป็นลูกจ้างยากกว่าการเป็นนายตัวเอง ใช่ ผมกำลังชักชวนคนอื่นให้มาทำของง่าย หลายๆคนอยากมีอิสระ อยากจะทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ อยากจะใช้ชีวิตโดยไม่ต้องอิงอยู่กับนาฬิกา 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น อยากจะลาออกมาใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการอย่างแรง ทุกคนมีสิทธิ์ฝัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ คำถามคือเพราะอะไร ผมมีคำตอบ
จากที่ผมสังเกตุ หลายคนที่เป็นนายตัวเองไม่ได้ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีความสามารถ แต่ปัญหาคือคนเหล่านั้นเขาไม่รู้เคล็ดลับดีๆที่คนที่เป็นนายตัวเองส่วนใหญ่รู้ การจะเป็นนายตัวเองได้นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คุณจะต้องมีการวางแผน ต้องลองผิดลองถูก ต้องมีการทำการตลาด การขาย การดูแลลูกค้าการสร้าง Connection มากมาย พูดง่ายๆเลยนะครับ การเป็นนายตัวเองคือการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง ถ้าคิดว่าการออกมาเป็นนายตัวเองคือการทำอะไรชุ่ยๆก็ได้ นี่คือคิดผิดอย่างแรง ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม มันคือธุรกิจ ไม่ใช่การเป็นนายตัวเองโดยไม่มีการทำอะไรทั้งนั้น
วิธีที่คุณจะได้ใช้ชีวิตแบบนับเวลาถอยหลังเพื่อแปลงร่างไปสู่การเป็นตัวเองง่ายที่สุดนั้น คุณจำเป็นต้องทำการบ้านในฉบับแบบที่ว่าที่นายตัวเองต้องทำ ถ้าคุณลองหาทางการเป็นนายตัวเองหลายวิธีแล้วแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ บทความนี้ผมเขียนขึ้นมาเป็นความหวังสุดท้ายสำหรับคนที่ต้องการเป็นนายตัวเองอย่างแท้จริง ในบทความวิธีการเป็นนายตัวเองใน 1 ปีนั่นเป็นเงื่อนไข วิธีออกจากสนามประจำนั่นเป็นวิธีคิด แต่บทความนี้เป็นวิธีทำ
สิ่งที่คุณกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้ ผมหยิบยกประสบการณ์ลูกค้าของผมที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างรายได้ทางที่สอง และประสบความสำเร็จจากการสร้างชีวิตด้วยการเป็นนายตัวเอง กับเงื่อนไขการเตรียมพร้อมปูเส้นทางไปสู่การเป็นนายตัวเอง เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกๆวันที่คุณตื่นไปทำงาน คุณทำเพื่ออนาคตของตัวเอง
โดยหลักการที่ผมค้นพบ ผมสอนและใช้เปลี่ยนชีวิตลูกค้าหลายคนของผมให้มีรายได้ทางที่สองมาแล้ว วันนี้ผมเอามาให้ทุกท่านได้อ่านกันฟรีๆ อะไรนะ…!?! สงสัยเหรอว่าผมเอามาให้อ่านกันฟรีๆผมจะได้อะไร ถ้าบทความนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ ผมจะได้สิ่งที่สูงกว่าเงิน ใช่ ผมจะได้หัวใจของคุณไงครับ อยากได้จริงๆนะ
ผมขอบอกตรงนี้เลยว่าถ้าคุณยังไม่มีสิ่งเหล่านี้ เเละเวลาผ่านไปเรื่อยๆแล้วคุณทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ จงหยุดความคิดการเป็นนายตัวเองซะ มันเป็นไปไม่ได้ อยากเป็นนายตัวเอง เริ่มอ่านเดี๋ยวนี้
อย่าเสียเวลาค้นหาว่าคุณขาดอะไร แต่ให้ค้นหาว่าคุณมีอะไร
ผมเคยคุยกับลูกค้าท่านหนึ่ง เขาอยากเป็นนายตัวเองมาก เขาถามผมว่าเขาอยากจะเปิดร้ายขายลูกชิ้น เขาจะทำสำเร็จหรือไม่ แน่นอนครับ ไพ่บอกว่าเขาจะล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า หลังจากนั้นเขาจึงถามเกี่ยวกับไอเดียการทำธุรกิจอีกมากมาย และไพ่ก็มักจะจบลงด้วยการบอกว่าไม่ ไม่ ไม่ ไม่ สุดท้ายผมหมดความอดทน จึงถามเธอว่าเธอทำงานอะไร ซึ่งเธอบอกมาว่าเธอทำงานเกี่ยวกับ Shipping นำเข้าส่งออก ผมเลยเล่าเรื่องลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากการเป็นนายตัวเองหลายคนให้เธอฟัง พร้อมกับลองจับไพ่ให้เธอว่าถ้าเธอทำนำเข้าส่งออกเป็นของตัวเองจะเป็นอย่างไร สุดท้ายไพ่บอกว่านี่คือไพ่ตายที่จะทำให้เธอกลายเป็นนายตัวเอง คุณเองก็เหมือนกัน ถ้าคุณอยากเป็นนายตัวเอง วิธีที่ง่ายที่สุด เร็วที่สุด ก็คือเอาอาชีพของคุณที่คุณทำอยู่แล้วเอามาเป็นเครื่องมือหาเงินจากการเป็นนายตัวเองซะ อย่าเสียเวลาไปหาสิ่งที่คุณไม่มีและต้องใช้เวลาสร้างใหม่อีกนาน
ค้นหาคนที่มีชีวิตแบบที่คุณอยากมี
สิ่งๆหนึ่งที่คนส่วนใหญ่พลาดคือการมองหาไอดอลที่ยิ่งใหญ่แล้ว ประสบความสำเร็จที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณเอื้อมไม่ถึงมาเป็นไอดอลอย่างเดียว เคล็ดลับอย่างหนึ่งของผมคือ ให้คุณค้นหาไอดอลจากคนธรรมดาที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมาย แต่เขามีชีวิตในแบบที่คุณอยากได้ จากนั้นถามเขาว่าเขาทำได้อย่างไร และช่วยให้เขาได้คำแนะนำคุณได้หรือเปล่า อย่าดูถูกคำถามประเภทนี้นะครับ คำถามแบบนี้เปลี่ยนชีวิตคนมามากแล้ว การถามไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด คนที่ไม่กล้าแม้แต่จะโชว์ความไม่รู้ตัวเอง ไม่กล้าถาม ห่วงหน้าตามากกว่าอนาคต อันนี้ตามสบายครับ
เลิกลีลาเถอะครับ อยากรู้ว่าจะรอดหรือไม่รอด ลุยเลย…???
มีหลายคนบอกว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จนั้นจะต้องเรียนรู้จากการล้มเหลว ปัญหาคือคนส่วนใหญ่เชื่อว่าความล้มเหลวคือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความเป็นจริงก็คือความล้มเหลวที่คนอื่นพูดถึงนั้น แทบไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่คุณทำเลย ใครจะไปรู้ว่าธุรกิจแรกของคุณอาจจะประสบความสำเร็จก็ได้ ปัญหาคือคุณจะต้องลอง ลอง ลองจนกว่าคุณจะมั่นใจ คนส่วนใหญ่ไม่ยอมลองเขาลุยเลย แต่ผมแนะนำว่าคุณควรจะต้องลองจนกว่าคุณจะมั่นใจ ความมั่นใจไม่ได้เกิดจากการคิดเองเออเอง แต่ความมั่นใจต้องเกิดจากการเรียนรู้ คุณจะเรียนรู้ได้อย่างไรถ้าคุณไม่ลงมือลองทำ ขอยกตัวอย่างลูกค้าผมท่านหนึ่ง เขาเป็นนักบัญชี เขาอยากเป็นนายตัวเองมาก พอไพ่เสนอให้เขาลองทำบัญชีแบบ Freelance คำแรกของเขาคือทำไม่ได้หรอก คู่แข่งเยอะจะตาย ผมแนะนำให้เธอลุยแต่เธอดูเหมือนไม่มั่นใจในตัวเอง และความไม่มั่นใจในตัวเองของเธอนั่นเองที่เป็นอุปสรรคต่อการเป็นนายตัวเองเธออย่างแรง ทั้งๆที่เธอจัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญบัญชีระดับพระกาฬ น่าเสียดายที่เธอไม่ยอมลุย ประเด็นที่ผมต้องการจะสื่อคือ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณจะทำได้หรือไม่ได้ถ้าคุณไม่ลองทำ หมอดูอาจจะช่วยให้ความมั่นใจคุณแต่มันก็แค่ของชั่วคราว สุดท้ายคุณต้องลงตลาดเองอยู่ดี ดังนั้นถ้างานสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้โดยไม่ต้องใช้เงินแล้วคุณกำลังหาวิธีการเป็นนายตัวเอง ผมขอแนะนำให้อย่าลีลา ลุยเลย ถ้ามันยังไม่ดีอย่างที่คิด เราจะได้เรียนรู้ปัญหาก่อนที่จะได้เจอปัญหายามไม่มีเงินเดือนจริงๆ
คุณใช้งานประจำแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าหรือเปล่า
นักธุรกิจท่านหนึ่งบอกกับผมผ่าน Youtube ว่า “ธุรกิจคือการแก้ไขปัญหา” ผมเคยเห็นนะครับ พนักงานประจำที่ใช้งานประจำเหวี่ยงใส่ลูกค้า เอะอะไม่พอใจอะไรเวลาลูกค้ามีปัญหาก็ชักสีหน้าใส่ หงุดหงิด พูดจาห้วนๆ บางคนหนักเลย กวนตรีนลูกค้ากลับด้วย เวลาลูกค้าเดือดร้อนจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทคุณแล้วเฉย ถ้าคุณทำงานในสถานที่ที่อุดมด้วยคนแบบนี้นะครับ ผมแนะนำให้เปลี่ยนงานโดยด่วน งานประเภทนี้ไม่มีอนาคตสำหรับคนที่อยากเป็นนายตัวเอง เพราะถ้าคุณเอาอกเอาใจลูกค้า ทำให้ลูกค้าพึงพอใจ คุณจะถูกเพ่งเล็งจากคนอื่นที่ทำไม่เท่าคุณทันที แล้วคุณจะเลิกนิสัยนี้ไปเลยทั้งๆที่นิสัยนี้คือความสำเร็จของการเป็นนายตัวเองแท้ๆ ดังนั้นถ้าวันนี้งานประจำของคุณต้องเกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรง ขอให้เอาอกเอาใจ คิดหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าคุณตลอดเวลา แต่ถ้างานของคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับลูกค้าอะไรเลย ขอให้พยายามฝึกแก้ปัญหาให้คนอื่นผ่าน internet อย่าง Pantip แทน เพื่อที่จะทำให้คุณปลูกฝังนิสัยการแก้ปัญหา ปลูกฝังหัวใจของการทำธุรกิจ
ทำเงินเดือนให้เหลือได้หรือยัง
กับดักของคนเงินเดือนแพงๆคือการเชื่อว่าตัวเองมีศักยภาพที่จะสามารถใช้ชีวิตแบบแบกภาระได้เยอะขึ้น ผมนั่งสังเกตุคนมาเยอะมาก ยิ่งเงินเดือนเยอะเท่าไหร่ ยิ่งบริหารเงินได้ห่วยติดลบเท่านั้น ความคิดที่ว่าเงินเดือนเยอะๆคือรวยกว่าเป็นสิ่งไม่จริง คนเงินเดือนเยอะก็มักจะสร้างภาระให้ตัวเองเยอะด้วย บางคนเงินเดือนสามหมื่นกว่า แต่ดันซื้อรถคันเหยียดล้าน บางคนเงินเดือน 6 หลักแต่ไม่มีเงินเก็บเพราะเอาไปผ่อนนู่นผ่อนนี่ สุดท้ายกว่าจะผ่อนหมดก็หมดแรงพอดี บางคนสร้างหนี้หลายๆแสนทั้งๆที่เงินเดือนยังไม่ถึงสามหมื่น อย่างนี้หมดโอกาสเป็นนายตัวเองแน่นอน ยกเว้นหนี้ท่วมหัวแล้วต้องหักดิบหาเงินมาใช้ก่อนถูกฟ้อง ถ้าคุณอยากเป็นนายตัวเองในเร็ววัน การบ้านเรื่องเงินสำคัญที่สุด เพราะการเป็นนายตัวเองนั้นรายได้ไม่แน่นอนไม่เหมือนมนุษย์เงินเดือน คุณจะต้องบริหารเงินของคุณให้ดี ถ้าวันนี้คุณยังทำรายได้ที่แน่นอนของคุณให้เหลือไม่ได้ อย่าฝันว่าจะเป็นนายตัวเองได้นาน สุดท้ายก็ต้องวิ่งเเจ้นกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเดิม ดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องฝึกสร้างสภาพคล่องให้ตัวเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีการง่ายที่สุดคือให้ใช้เงินเดือนตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง อาทิเช่นเงินเดือน 17,000 บาท ให้ใข้แค่ 15,000 บาท เงินเดือน 30,000 บาท ให้ใช้แค่ 25,000 บาทเป็นต้น เงินส่วนที่เหลือที่ไม่ได้ใช้ให้เอาไปเป็นกองทุนประกันชีวิตตกต่ำยามเป็นนายตัวเอง การประหยัดในช่วงการเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่ได้หมายถึงการลดคุณภาพชีวิต แต่การประหยัดในการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือการเตรียมตัวในการใช้ชีวิตแบบรับผิดชอบความเสี่ยงเต็มที่ เตรียมตัวสู่การแปลงร่างเป็นนายตัวเอง
สมัยก่อนงานเสริมคือทางเลือก สมัยนี้งานเสริมคือทางรอด
ญาติของผมทำงานกินเงินเดือนมาทั้งชีวิต จนกระทั่งเขาตกงานในวัยเกือบๆ 50 กว่าๆ แต่โชคดีของเขาคือระหว่างที่เขาทำงานประจำนั้น เขาสร้างอาชีพเสริมให้ตัวเองด้วยการเลี้ยงฟาร์มแมวไปด้วย ด้วยความที่ทำแบบคนไม่ร้อนเงินในสมัยมีงานทำ ญาติของผมจึงเน้นให้ข้อมูลลูกค้ามากกว่าการขายแมวให้ลูกค้าเสียอีก ในไม่ช้าญาติของผมกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านแมวให้ตัวเอง และกลายเป็นคนที่ตกงานบนฟูกเพราะมีอาชีพที่สองรองรับการตกงานของตัวเองอยู่แล้ว พออ่านตรงนี้พอจะเห็นภาพไหมครับ การทำอาชีพเสริมหรือการหารายได้ทางที่สองคือหลักประกันชีวิตการทำงานเดียวที่คุณจะสามารถสร้างเอาไว้เพื่อรองรับวันที่คุณตกต่ำ ดังนั้นวิธีการที่เร็วที่สุดในการที่คุณจะสร้างแบรนด์ให้ตัวเองคือการเริ่มทำอาชีพเสริมก่อนที่อาชีพหลักของคุณจะหมดอายุลง ลองจินตนาการดูนะครับว่าถ้าคุณทำธุรกิจด้วยเหตุผลว่ามันเป็นเชือกเส้นเดียวที่คุณมีจะเกิดอะไรขึ้น คุณคงทำธุรกิจด้วยความกดดัน เครียด และพยายามจะขายแหลกลาน แต่ถ้าคุณทำงานประจำไปด้วยแล้วทำธุรกิจไปด้วย ผมมั่นใจ 100% ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะสบายใจที่จะคุยและปรึกษากับคุณมากกว่าเพราะคุณไม่ได้คาดคั้นจะเอาเงินจากเขาเพียงอย่างเดียว แต่คุณทำเพราะมันเป็นทางเลือกนั่นเอง
หมอดูขอเล่า : วิธีแปลงร่างให้กลายเป็นนายตัวเองเร็วที่สุด
ลูกค้าที่น่ารักของผมท่านหนึ่งอาศัยอยู่ในที่ประเทศอเมริกาบอกกับผมว่าที่อเมริกาตอนนี้คนตกงานกันระนาว คนไทยว่าหางานยากแล้ว คนอเมริกาหาเงินหางานในบ้านตัวเองยากกว่า เศรษฐกิจเน่า องค์กรต่างๆมีตำแหน่งงานที่จำกัดจำเขี่ย นี่ยังไม่รวมนนักศึกษาจบใหม่และรุ่นใหญ่ที่ตกงานกันอยู่ก่อนหน้า เป็นสงครามเลือดของคนที่อยากมีงานทำ
ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้ผมได้ยินเรื่องราวของคนที่ตกงานเยอะมาก แค่เฉพาะคนตกงานกระทันหันที่มาดูไพ่กับผมก็หลายคนแล้ว เชื่อไหมครับ คนตกงานส่วนใหญ่ที่ผมรู้จัก ล้วนไม่คิดว่าตัวเองจะตกงาน คุณอาจจะขำ ตลก สบประมาท เรื่องแค่นี้คุณรู้แต่ทำไมคนเหล่านั้นไม่รู้ อันนี้อย่ามองเป็นเรื่องตลกไปนะครับ คนสูบบุหรี่ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งปอด คนไม่ออกกำลังกายส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อว่าตัวเองจะอ่อนแอ คนที่ไม่ยอมกินผักก็ไม่เชื่อว่ากำลังทำร้ายร่างกายตัวเอง คนที่ดีกับคนอื่นมากกว่าคนในบ้านมากก็ไม่เชื่อว่าวันหนึ่งพ่อแม่ตัวเองต้องตาย เรื่องแบบนี้เป็นความคิดที่มีกันเยอะมาก แล้วประสาอะไรกับเรื่องตกงานในสังคมไทย จริงมั้ย…???
ผมไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ในโลกยุคไหน แต่ผมกล้าการันตีจากประสบการณ์เลยว่ายุคนี้เป็นยุคที่การเป็นลูกจ้างยากกว่าการเป็นนายตัวเอง ใช่ ผมกำลังชักชวนคนอื่นให้มาทำของง่าย หลายๆคนอยากมีอิสระ อยากจะทำอะไรก็ได้ที่อยากจะทำ อยากจะใช้ชีวิตโดยไม่ต้องอิงอยู่กับนาฬิกา 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น อยากจะลาออกมาใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการอย่างแรง ทุกคนมีสิทธิ์ฝัน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำได้ คำถามคือเพราะอะไร ผมมีคำตอบ
จากที่ผมสังเกตุ หลายคนที่เป็นนายตัวเองไม่ได้ไม่ใช่เพราะเขาไม่มีความสามารถ แต่ปัญหาคือคนเหล่านั้นเขาไม่รู้เคล็ดลับดีๆที่คนที่เป็นนายตัวเองส่วนใหญ่รู้ การจะเป็นนายตัวเองได้นั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ คุณจะต้องมีการวางแผน ต้องลองผิดลองถูก ต้องมีการทำการตลาด การขาย การดูแลลูกค้าการสร้าง Connection มากมาย พูดง่ายๆเลยนะครับ การเป็นนายตัวเองคือการทำธุรกิจอย่างหนึ่ง ถ้าคิดว่าการออกมาเป็นนายตัวเองคือการทำอะไรชุ่ยๆก็ได้ นี่คือคิดผิดอย่างแรง ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม มันคือธุรกิจ ไม่ใช่การเป็นนายตัวเองโดยไม่มีการทำอะไรทั้งนั้น
วิธีที่คุณจะได้ใช้ชีวิตแบบนับเวลาถอยหลังเพื่อแปลงร่างไปสู่การเป็นตัวเองง่ายที่สุดนั้น คุณจำเป็นต้องทำการบ้านในฉบับแบบที่ว่าที่นายตัวเองต้องทำ ถ้าคุณลองหาทางการเป็นนายตัวเองหลายวิธีแล้วแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ บทความนี้ผมเขียนขึ้นมาเป็นความหวังสุดท้ายสำหรับคนที่ต้องการเป็นนายตัวเองอย่างแท้จริง ในบทความวิธีการเป็นนายตัวเองใน 1 ปีนั่นเป็นเงื่อนไข วิธีออกจากสนามประจำนั่นเป็นวิธีคิด แต่บทความนี้เป็นวิธีทำ
สิ่งที่คุณกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้ ผมหยิบยกประสบการณ์ลูกค้าของผมที่ประสบความสำเร็จจากการสร้างรายได้ทางที่สอง และประสบความสำเร็จจากการสร้างชีวิตด้วยการเป็นนายตัวเอง กับเงื่อนไขการเตรียมพร้อมปูเส้นทางไปสู่การเป็นนายตัวเอง เพื่อให้คุณมั่นใจว่าทุกๆวันที่คุณตื่นไปทำงาน คุณทำเพื่ออนาคตของตัวเอง
โดยหลักการที่ผมค้นพบ ผมสอนและใช้เปลี่ยนชีวิตลูกค้าหลายคนของผมให้มีรายได้ทางที่สองมาแล้ว วันนี้ผมเอามาให้ทุกท่านได้อ่านกันฟรีๆ อะไรนะ…!?! สงสัยเหรอว่าผมเอามาให้อ่านกันฟรีๆผมจะได้อะไร ถ้าบทความนี้สามารถเปลี่ยนชีวิตคุณได้ ผมจะได้สิ่งที่สูงกว่าเงิน ใช่ ผมจะได้หัวใจของคุณไงครับ อยากได้จริงๆนะ
ผมขอบอกตรงนี้เลยว่าถ้าคุณยังไม่มีสิ่งเหล่านี้ เเละเวลาผ่านไปเรื่อยๆแล้วคุณทำสิ่งเหล่านี้ไม่ได้ จงหยุดความคิดการเป็นนายตัวเองซะ มันเป็นไปไม่ได้ อยากเป็นนายตัวเอง เริ่มอ่านเดี๋ยวนี้
อย่าเสียเวลาค้นหาว่าคุณขาดอะไร แต่ให้ค้นหาว่าคุณมีอะไร
ผมเคยคุยกับลูกค้าท่านหนึ่ง เขาอยากเป็นนายตัวเองมาก เขาถามผมว่าเขาอยากจะเปิดร้ายขายลูกชิ้น เขาจะทำสำเร็จหรือไม่ แน่นอนครับ ไพ่บอกว่าเขาจะล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า หลังจากนั้นเขาจึงถามเกี่ยวกับไอเดียการทำธุรกิจอีกมากมาย และไพ่ก็มักจะจบลงด้วยการบอกว่าไม่ ไม่ ไม่ ไม่ สุดท้ายผมหมดความอดทน จึงถามเธอว่าเธอทำงานอะไร ซึ่งเธอบอกมาว่าเธอทำงานเกี่ยวกับ Shipping นำเข้าส่งออก ผมเลยเล่าเรื่องลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากการเป็นนายตัวเองหลายคนให้เธอฟัง พร้อมกับลองจับไพ่ให้เธอว่าถ้าเธอทำนำเข้าส่งออกเป็นของตัวเองจะเป็นอย่างไร สุดท้ายไพ่บอกว่านี่คือไพ่ตายที่จะทำให้เธอกลายเป็นนายตัวเอง คุณเองก็เหมือนกัน ถ้าคุณอยากเป็นนายตัวเอง วิธีที่ง่ายที่สุด เร็วที่สุด ก็คือเอาอาชีพของคุณที่คุณทำอยู่แล้วเอามาเป็นเครื่องมือหาเงินจากการเป็นนายตัวเองซะ อย่าเสียเวลาไปหาสิ่งที่คุณไม่มีและต้องใช้เวลาสร้างใหม่อีกนาน
ค้นหาคนที่มีชีวิตแบบที่คุณอยากมี
สิ่งๆหนึ่งที่คนส่วนใหญ่พลาดคือการมองหาไอดอลที่ยิ่งใหญ่แล้ว ประสบความสำเร็จที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณเอื้อมไม่ถึงมาเป็นไอดอลอย่างเดียว เคล็ดลับอย่างหนึ่งของผมคือ ให้คุณค้นหาไอดอลจากคนธรรมดาที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมาย แต่เขามีชีวิตในแบบที่คุณอยากได้ จากนั้นถามเขาว่าเขาทำได้อย่างไร และช่วยให้เขาได้คำแนะนำคุณได้หรือเปล่า อย่าดูถูกคำถามประเภทนี้นะครับ คำถามแบบนี้เปลี่ยนชีวิตคนมามากแล้ว การถามไม่ใช่เรื่องน่าเกลียด คนที่ไม่กล้าแม้แต่จะโชว์ความไม่รู้ตัวเอง ไม่กล้าถาม ห่วงหน้าตามากกว่าอนาคต อันนี้ตามสบายครับ
เลิกลีลาเถอะครับ อยากรู้ว่าจะรอดหรือไม่รอด ลุยเลย…???
มีหลายคนบอกว่าธุรกิจจะประสบความสำเร็จนั้นจะต้องเรียนรู้จากการล้มเหลว ปัญหาคือคนส่วนใหญ่เชื่อว่าความล้มเหลวคือสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ความเป็นจริงก็คือความล้มเหลวที่คนอื่นพูดถึงนั้น แทบไม่เกี่ยวอะไรกับสิ่งที่คุณทำเลย ใครจะไปรู้ว่าธุรกิจแรกของคุณอาจจะประสบความสำเร็จก็ได้ ปัญหาคือคุณจะต้องลอง ลอง ลองจนกว่าคุณจะมั่นใจ คนส่วนใหญ่ไม่ยอมลองเขาลุยเลย แต่ผมแนะนำว่าคุณควรจะต้องลองจนกว่าคุณจะมั่นใจ ความมั่นใจไม่ได้เกิดจากการคิดเองเออเอง แต่ความมั่นใจต้องเกิดจากการเรียนรู้ คุณจะเรียนรู้ได้อย่างไรถ้าคุณไม่ลงมือลองทำ ขอยกตัวอย่างลูกค้าผมท่านหนึ่ง เขาเป็นนักบัญชี เขาอยากเป็นนายตัวเองมาก พอไพ่เสนอให้เขาลองทำบัญชีแบบ Freelance คำแรกของเขาคือทำไม่ได้หรอก คู่แข่งเยอะจะตาย ผมแนะนำให้เธอลุยแต่เธอดูเหมือนไม่มั่นใจในตัวเอง และความไม่มั่นใจในตัวเองของเธอนั่นเองที่เป็นอุปสรรคต่อการเป็นนายตัวเองเธออย่างแรง ทั้งๆที่เธอจัดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญบัญชีระดับพระกาฬ น่าเสียดายที่เธอไม่ยอมลุย ประเด็นที่ผมต้องการจะสื่อคือ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณจะทำได้หรือไม่ได้ถ้าคุณไม่ลองทำ หมอดูอาจจะช่วยให้ความมั่นใจคุณแต่มันก็แค่ของชั่วคราว สุดท้ายคุณต้องลงตลาดเองอยู่ดี ดังนั้นถ้างานสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้โดยไม่ต้องใช้เงินแล้วคุณกำลังหาวิธีการเป็นนายตัวเอง ผมขอแนะนำให้อย่าลีลา ลุยเลย ถ้ามันยังไม่ดีอย่างที่คิด เราจะได้เรียนรู้ปัญหาก่อนที่จะได้เจอปัญหายามไม่มีเงินเดือนจริงๆ
คุณใช้งานประจำแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าหรือเปล่า
นักธุรกิจท่านหนึ่งบอกกับผมผ่าน Youtube ว่า “ธุรกิจคือการแก้ไขปัญหา” ผมเคยเห็นนะครับ พนักงานประจำที่ใช้งานประจำเหวี่ยงใส่ลูกค้า เอะอะไม่พอใจอะไรเวลาลูกค้ามีปัญหาก็ชักสีหน้าใส่ หงุดหงิด พูดจาห้วนๆ บางคนหนักเลย กวนตรีนลูกค้ากลับด้วย เวลาลูกค้าเดือดร้อนจากผลิตภัณฑ์ของบริษัทคุณแล้วเฉย ถ้าคุณทำงานในสถานที่ที่อุดมด้วยคนแบบนี้นะครับ ผมแนะนำให้เปลี่ยนงานโดยด่วน งานประเภทนี้ไม่มีอนาคตสำหรับคนที่อยากเป็นนายตัวเอง เพราะถ้าคุณเอาอกเอาใจลูกค้า ทำให้ลูกค้าพึงพอใจ คุณจะถูกเพ่งเล็งจากคนอื่นที่ทำไม่เท่าคุณทันที แล้วคุณจะเลิกนิสัยนี้ไปเลยทั้งๆที่นิสัยนี้คือความสำเร็จของการเป็นนายตัวเองแท้ๆ ดังนั้นถ้าวันนี้งานประจำของคุณต้องเกี่ยวข้องกับลูกค้าโดยตรง ขอให้เอาอกเอาใจ คิดหาวิธีแก้ไขปัญหาให้ลูกค้าคุณตลอดเวลา แต่ถ้างานของคุณไม่ได้เกี่ยวข้องกับลูกค้าอะไรเลย ขอให้พยายามฝึกแก้ปัญหาให้คนอื่นผ่าน internet อย่าง Pantip แทน เพื่อที่จะทำให้คุณปลูกฝังนิสัยการแก้ปัญหา ปลูกฝังหัวใจของการทำธุรกิจ
ทำเงินเดือนให้เหลือได้หรือยัง
กับดักของคนเงินเดือนแพงๆคือการเชื่อว่าตัวเองมีศักยภาพที่จะสามารถใช้ชีวิตแบบแบกภาระได้เยอะขึ้น ผมนั่งสังเกตุคนมาเยอะมาก ยิ่งเงินเดือนเยอะเท่าไหร่ ยิ่งบริหารเงินได้ห่วยติดลบเท่านั้น ความคิดที่ว่าเงินเดือนเยอะๆคือรวยกว่าเป็นสิ่งไม่จริง คนเงินเดือนเยอะก็มักจะสร้างภาระให้ตัวเองเยอะด้วย บางคนเงินเดือนสามหมื่นกว่า แต่ดันซื้อรถคันเหยียดล้าน บางคนเงินเดือน 6 หลักแต่ไม่มีเงินเก็บเพราะเอาไปผ่อนนู่นผ่อนนี่ สุดท้ายกว่าจะผ่อนหมดก็หมดแรงพอดี บางคนสร้างหนี้หลายๆแสนทั้งๆที่เงินเดือนยังไม่ถึงสามหมื่น อย่างนี้หมดโอกาสเป็นนายตัวเองแน่นอน ยกเว้นหนี้ท่วมหัวแล้วต้องหักดิบหาเงินมาใช้ก่อนถูกฟ้อง ถ้าคุณอยากเป็นนายตัวเองในเร็ววัน การบ้านเรื่องเงินสำคัญที่สุด เพราะการเป็นนายตัวเองนั้นรายได้ไม่แน่นอนไม่เหมือนมนุษย์เงินเดือน คุณจะต้องบริหารเงินของคุณให้ดี ถ้าวันนี้คุณยังทำรายได้ที่แน่นอนของคุณให้เหลือไม่ได้ อย่าฝันว่าจะเป็นนายตัวเองได้นาน สุดท้ายก็ต้องวิ่งเเจ้นกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเดิม ดังนั้นคุณจำเป็นที่จะต้องฝึกสร้างสภาพคล่องให้ตัวเองมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วิธีการง่ายที่สุดคือให้ใช้เงินเดือนตัวเองต่ำกว่าความเป็นจริง อาทิเช่นเงินเดือน 17,000 บาท ให้ใข้แค่ 15,000 บาท เงินเดือน 30,000 บาท ให้ใช้แค่ 25,000 บาทเป็นต้น เงินส่วนที่เหลือที่ไม่ได้ใช้ให้เอาไปเป็นกองทุนประกันชีวิตตกต่ำยามเป็นนายตัวเอง การประหยัดในช่วงการเป็นมนุษย์เงินเดือนไม่ได้หมายถึงการลดคุณภาพชีวิต แต่การประหยัดในการเป็นมนุษย์เงินเดือนคือการเตรียมตัวในการใช้ชีวิตแบบรับผิดชอบความเสี่ยงเต็มที่ เตรียมตัวสู่การแปลงร่างเป็นนายตัวเอง
สมัยก่อนงานเสริมคือทางเลือก สมัยนี้งานเสริมคือทางรอด
ญาติของผมทำงานกินเงินเดือนมาทั้งชีวิต จนกระทั่งเขาตกงานในวัยเกือบๆ 50 กว่าๆ แต่โชคดีของเขาคือระหว่างที่เขาทำงานประจำนั้น เขาสร้างอาชีพเสริมให้ตัวเองด้วยการเลี้ยงฟาร์มแมวไปด้วย ด้วยความที่ทำแบบคนไม่ร้อนเงินในสมัยมีงานทำ ญาติของผมจึงเน้นให้ข้อมูลลูกค้ามากกว่าการขายแมวให้ลูกค้าเสียอีก ในไม่ช้าญาติของผมกลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านแมวให้ตัวเอง และกลายเป็นคนที่ตกงานบนฟูกเพราะมีอาชีพที่สองรองรับการตกงานของตัวเองอยู่แล้ว พออ่านตรงนี้พอจะเห็นภาพไหมครับ การทำอาชีพเสริมหรือการหารายได้ทางที่สองคือหลักประกันชีวิตการทำงานเดียวที่คุณจะสามารถสร้างเอาไว้เพื่อรองรับวันที่คุณตกต่ำ ดังนั้นวิธีการที่เร็วที่สุดในการที่คุณจะสร้างแบรนด์ให้ตัวเองคือการเริ่มทำอาชีพเสริมก่อนที่อาชีพหลักของคุณจะหมดอายุลง ลองจินตนาการดูนะครับว่าถ้าคุณทำธุรกิจด้วยเหตุผลว่ามันเป็นเชือกเส้นเดียวที่คุณมีจะเกิดอะไรขึ้น คุณคงทำธุรกิจด้วยความกดดัน เครียด และพยายามจะขายแหลกลาน แต่ถ้าคุณทำงานประจำไปด้วยแล้วทำธุรกิจไปด้วย ผมมั่นใจ 100% ว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะสบายใจที่จะคุยและปรึกษากับคุณมากกว่าเพราะคุณไม่ได้คาดคั้นจะเอาเงินจากเขาเพียงอย่างเดียว แต่คุณทำเพราะมันเป็นทางเลือกนั่นเอง