คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
เราว่าคุณทั้งสามคน (คุณ แฟนคุณ และผู้หญิงคนใหม่) อยู่ในห้วงที่เรียกว่า ไม่มีใครยอมรับความจริง
คือผู้หญิงทั้งสองคนดูจะเจ็บปวดมาก แต่ไม่ยอมรับว่าผู้ชายคนนี้เขาคงไม่เลือกใคร เพราะเขารักตัวเองมากที่สุด
ส่วนผู้ชายก็ไม่ยอมรับว่าการกระทำของตัวเขาเองมันเป็นสิ่งที่ทำให้คนที่เขาคิดว่าเขารักเจ็บปวดมาก
เขานึกเองว่าคุณทั้งสองคนรับได้ เขาก็เลยพูดหรือทำอย่างไรก็ได้ให้ชีวิตไปต่อแบบสามคนผัวเมีย
คุณทั้งสามคนไม่ยอมรับความจริงและหวังแต่ว่าท้ายที่สุดเหตุการณ์มันจะเป็นอย่างที่คุณต้องการ
คือผู้หญิงทั้งสองคนหวังว่าผู้ชายสุดท้ายจะเป็นของคุณ ส่วนผู้ชายก็คิดว่าสุดท้ายคงเลิกรบกันแล้วอยู่กันสามคนผัวเมีย
และคุณทั้งสามคนก็การกระทำตรงข้ามกับคำพูดหมด
คุณบอกว่าคุณเจ็บปวด โดนนอกใจ แทบจะทนไม่ได้ (แต่โดยการกระทำคุณไม่ไปไหน ยังอยู่กับเขา ซึ่งแปลว่ารับได้)
ส่วนเขาก็บอกว่าเลือกคุณ ซึ่งพอไปหาอีกคนก็คงจะบอกว่าเลือกเขา (แต่โดยการกระทำคือจะเก็บไว้ทั้งสองคนนั่นแหละ)
ส่วนเธอคนนั้นปากก็ว่าเป็นคนมาทีหลัง เจ็บจัง (แต่โดยการกระทำก็ไม่หยุดที่จะไปยุ่งกับสามีคนอื่น)
เราว่าคุณอาจจะยังไม่ต้องเลิกกับเขาก็ได้นะ แต่คุณต้องเริ่มยอมรับความจริง
ถ้าเขาสองคนไม่ออกมาที่ความจริง คุณก็ต้องออกมาก่อน
คุณต้องพิจารณาว่า สมมติว่าสามีคุณเลือกที่จะอยู่กันแบบนี้สามคนผัวเมีย
(ซึ่งมันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดหรือถูก หรือไม่ก็ตาม)
คุณจะทำอย่างไร สมมติคุณเปลี่ยนเขาไม่ได้แล้ว และเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันจะเป็นตลอดไป คุณจะทำอย่างไร
คุณจะยอมรับมัน หรือจะเดินจากไป
ปัญหาคือคุณยังตัดสินใจเองไม่ได้เลย
สิ่งที่คุณพยายามจะทำ เช่นไปรายงานที่ที่ทำงานของผู้หญิงคนนั้น หรือไปคุยกับผู้หญิงคนนั้น
ยังเป็นการกระทำของคนที่ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
คือไปคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันจะเปลี่ยนผลลัพธ์ให้เขากลับมารักและอยู่กับคุณ
แต่ไม่ได้คิดเตรียมใจในแง่ว่า ถ้าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ล่ะ เราจะทำอย่างไร
เราว่าบางทีความจริงมันก็น่ากลัวมากๆ เพราะคุณไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไร
คิดว่าถ้าเราเลิกกับเขาแล้วไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เราคงทำใจไม่ได้
ถ้าต้องเสียเขาให้กับผู้หญิงคนนั้น ให้เธอได้สมหวัง เราคงเจ็บปวดอยู่คนเดียว
ถ้าเราไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้วมันทำให้เขาไม่พอใจ เขาเลือกผู้หญิงคนนั้น จะทำอย่างไร
คุณเลยหวาดกลัว และ ทุกข์ทรมานมากๆ เพราะคุณกลัวจะเสียเขาไป คุณคิดว่าการเสียเขาไปนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่ คอขาดบาดตาย ถ้ามันเกิดขึ้นคุณต้องแย่แน่ๆ คุณลองพิจารณาความกลัวตรงนี้ในใจคุณให้ดีก่อน อย่าเพิ่งยอมให้มันมาควบคุมการกระทำของคุณ
ถ้าเราเป็นคุณ เราคงจะ เริ่มที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวนั้น เราจะลองอยู่กับมันดู
วันที่เขาไม่อยู่ เราจะลองคิดดูว่า สมมติว่าเขาไม่กลับมาอีกแล้ว เราจะทำอย่างไร?
ถ้าเป็นเรา เราคงอยากจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขนะ ถ้าเขาไม่กลับมาแล้ว
งั้นวันนี้เราก็จะลองซ้อมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดู ลองซิว่าเราจะสามารถมีความสุขโดยไม่มีเขาได้ไหม
เราคงจะลองคิดดูว่าอะไรที่เราเคยอยากทำแต่ไม่ได้ทำ ใครที่เราอยากเจอ แต่ไม่ได้เจอ
เราจะไปทำสิ่งนั้น เราจะทำเป็นลืมๆ เขาบ้าง ปล่อยวางเขาจากใจเรา ไม่ให้ความสุขของเราไปผูกกับเขา
ตอนแรกมันก็คงยากมาก เราก็คงจะร้องไห้โฮออกมาเป็นพักๆ เพราะเราคงเสียใจมากที่ต้องเสียคนที่รักมายี่สิบปี
เราคงนึกถึงเรื่องเก่าๆ แสนเสียดายเวลาและความรักที่มีให้
แต่พอเช็ดน้ำตาเสร็จเราก็จะสมมติต่อ และพยายามต่อที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขแม้ว่าจะต้องอยู่กับสิ่งที่กลัวที่สุด
ก็เขาไปแล้ว จะฟูมฟายอย่างไรก็คงไม่ช่วย เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามเดินต่อเท่านั้น
วันที่เขากลับมาบ้าน เราก็จะใช้ชีวิตตามปกติ เป็นภรรยาที่ดีคนเดิม
พอวันที่เขาไม่อยู่อีก เราก็เริ่มใช้ชีวิตสมมติใหม่
ถ้าเราทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จิตใจเรามันจะคลายเงื่อนที่ผูกอยู่กับเขา
เขาจะทำอะไร หวานกับใคร ก็ไม่สามารถจะทำให้ใจเราทุกข์ได้
เพราะเราเรียนรู้ที่จะมีความสุขด้วยตัวของเราเอง กับคนที่แคร์เรามากกว่า
เราว่านี่คือจุดเริ่ม คุณยังไม่ต้องเลิกกับเขา แต่ต้องเริ่มปรับใจตัวเองในลักษณะนี้
ถ้าคุณรู้ว่า แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะจบแบบเลวร้ายที่สุด (คุณเสียเขา) คุณก็ยังโอเค คุณยังอยู่ได้ ยังสุขได้
เมื่อนั้นเราว่าคุณจะเลิกใช้ชีวิตด้วยความกลัว ผู้หญิงคนนั้นเขาจะยังกลัวอยู่ที่จะเสียสามีคุณ
แต่คุณจะต้องหยุดความกลัวนั้น คุณจะเข้มแข็งกว่าเขา คุณจะชนะ
คุณคะ คุณไม่สามารถที่จะควบคุมการตัดสินใจของแฟนคุณได้ ถ้าเขาเลือกจะไป คุณก็ทำอะไรไม่ได้
คุณควบคุมไม่ให้เขามีลูกด้วยกัน ก็ไม่ได้
คุณควบคุมการกระทำของผู้หญิงคนนั้น ก็ไม่ได้
สิ่งที่คุณควบคุมได้ มีอย่างเดียว คือใจคุณเอง ชีวิตคุณเอง ทางเลือกและอนาคตของตัวคุณเอง
ตอนนี้มันอาจจะดูน่ากลัวมากที่จะต้องเสียเขาไปให้ใครไม่รู้
แต่ลองปล่อยให้ใจคุณได้เริ่มปรับตัวก่อน ค่อยๆเดินออกมาอยู่กับความจริงก่อน
ความปล่อยวางจะเข้ามาแทนที่ความกลัว
เราว่าสามีคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
เขาจะเริ่มเห็นว่าความสนใจของคุณไม่ได้จดจ่ออยู่กับความกลัวที่จะเสียเขาไปเหมือนก่อน
เมื่อนั้นเขาเองจะเริ่มเป็นฝ่ายกลัวที่จะเสียคุณไป
และถ้าคุณผู้หญิงที่มาทีหลังเขาคิดไม่ทัน เขาจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของสามีคุณด้วย
เขาอาจจะยิ่งทุรนทุรายกับความรู้สึกว่าสามีคุณดูจะสนใจคุณมากขึ้น
แต่สิ่งที่คุณต้องทำไปเรื่อยๆคือเอาตัวคุณให้หลุดจากวงจรนี้ ให้ความสุขของคุณเป็นอิสระจากคนสองคนนี้
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไร จะหลุดด้วยหรือไม่ มันก็จะไม่ทำให้คุณทุกข์ได้อีก
เวลาคุณทุกข์ คุณนึกว่าสามีคุณหรือผู้หญิงคนนั้น เป็นต้นเหตุของความทุกข์ คุณอยากจะไปเปลี่ยนเขาจะได้หายทุกข์
จริงๆแล้วต้นเหตุของความทุกข์มันอยู่ข้างในตัวคุณเอง มันคือความนึกคิดและใจคุณเอง
พยายามบรรเทาความทุกข์ในใจนั้น โดยบรรเทาที่ต้นเหตุนะคะ
แล้วคุณจะหยุดความทุกข์ได้ เชื่อสิ
คือผู้หญิงทั้งสองคนดูจะเจ็บปวดมาก แต่ไม่ยอมรับว่าผู้ชายคนนี้เขาคงไม่เลือกใคร เพราะเขารักตัวเองมากที่สุด
ส่วนผู้ชายก็ไม่ยอมรับว่าการกระทำของตัวเขาเองมันเป็นสิ่งที่ทำให้คนที่เขาคิดว่าเขารักเจ็บปวดมาก
เขานึกเองว่าคุณทั้งสองคนรับได้ เขาก็เลยพูดหรือทำอย่างไรก็ได้ให้ชีวิตไปต่อแบบสามคนผัวเมีย
คุณทั้งสามคนไม่ยอมรับความจริงและหวังแต่ว่าท้ายที่สุดเหตุการณ์มันจะเป็นอย่างที่คุณต้องการ
คือผู้หญิงทั้งสองคนหวังว่าผู้ชายสุดท้ายจะเป็นของคุณ ส่วนผู้ชายก็คิดว่าสุดท้ายคงเลิกรบกันแล้วอยู่กันสามคนผัวเมีย
และคุณทั้งสามคนก็การกระทำตรงข้ามกับคำพูดหมด
คุณบอกว่าคุณเจ็บปวด โดนนอกใจ แทบจะทนไม่ได้ (แต่โดยการกระทำคุณไม่ไปไหน ยังอยู่กับเขา ซึ่งแปลว่ารับได้)
ส่วนเขาก็บอกว่าเลือกคุณ ซึ่งพอไปหาอีกคนก็คงจะบอกว่าเลือกเขา (แต่โดยการกระทำคือจะเก็บไว้ทั้งสองคนนั่นแหละ)
ส่วนเธอคนนั้นปากก็ว่าเป็นคนมาทีหลัง เจ็บจัง (แต่โดยการกระทำก็ไม่หยุดที่จะไปยุ่งกับสามีคนอื่น)
เราว่าคุณอาจจะยังไม่ต้องเลิกกับเขาก็ได้นะ แต่คุณต้องเริ่มยอมรับความจริง
ถ้าเขาสองคนไม่ออกมาที่ความจริง คุณก็ต้องออกมาก่อน
คุณต้องพิจารณาว่า สมมติว่าสามีคุณเลือกที่จะอยู่กันแบบนี้สามคนผัวเมีย
(ซึ่งมันจะเป็นการตัดสินใจที่ผิดหรือถูก หรือไม่ก็ตาม)
คุณจะทำอย่างไร สมมติคุณเปลี่ยนเขาไม่ได้แล้ว และเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันจะเป็นตลอดไป คุณจะทำอย่างไร
คุณจะยอมรับมัน หรือจะเดินจากไป
ปัญหาคือคุณยังตัดสินใจเองไม่ได้เลย
สิ่งที่คุณพยายามจะทำ เช่นไปรายงานที่ที่ทำงานของผู้หญิงคนนั้น หรือไปคุยกับผู้หญิงคนนั้น
ยังเป็นการกระทำของคนที่ไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น
คือไปคิดว่าสิ่งที่คุณทำมันจะเปลี่ยนผลลัพธ์ให้เขากลับมารักและอยู่กับคุณ
แต่ไม่ได้คิดเตรียมใจในแง่ว่า ถ้าเราเปลี่ยนเขาไม่ได้ล่ะ เราจะทำอย่างไร
เราว่าบางทีความจริงมันก็น่ากลัวมากๆ เพราะคุณไม่รู้ว่าตัวเองจะต้องเจอกับอะไร
คิดว่าถ้าเราเลิกกับเขาแล้วไม่ได้เจอกันอีกแล้ว เราคงทำใจไม่ได้
ถ้าต้องเสียเขาให้กับผู้หญิงคนนั้น ให้เธอได้สมหวัง เราคงเจ็บปวดอยู่คนเดียว
ถ้าเราไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นแล้วมันทำให้เขาไม่พอใจ เขาเลือกผู้หญิงคนนั้น จะทำอย่างไร
คุณเลยหวาดกลัว และ ทุกข์ทรมานมากๆ เพราะคุณกลัวจะเสียเขาไป คุณคิดว่าการเสียเขาไปนั้นมันเป็นเรื่องใหญ่ คอขาดบาดตาย ถ้ามันเกิดขึ้นคุณต้องแย่แน่ๆ คุณลองพิจารณาความกลัวตรงนี้ในใจคุณให้ดีก่อน อย่าเพิ่งยอมให้มันมาควบคุมการกระทำของคุณ
ถ้าเราเป็นคุณ เราคงจะ เริ่มที่จะเผชิญหน้ากับความกลัวนั้น เราจะลองอยู่กับมันดู
วันที่เขาไม่อยู่ เราจะลองคิดดูว่า สมมติว่าเขาไม่กลับมาอีกแล้ว เราจะทำอย่างไร?
ถ้าเป็นเรา เราคงอยากจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขนะ ถ้าเขาไม่กลับมาแล้ว
งั้นวันนี้เราก็จะลองซ้อมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขดู ลองซิว่าเราจะสามารถมีความสุขโดยไม่มีเขาได้ไหม
เราคงจะลองคิดดูว่าอะไรที่เราเคยอยากทำแต่ไม่ได้ทำ ใครที่เราอยากเจอ แต่ไม่ได้เจอ
เราจะไปทำสิ่งนั้น เราจะทำเป็นลืมๆ เขาบ้าง ปล่อยวางเขาจากใจเรา ไม่ให้ความสุขของเราไปผูกกับเขา
ตอนแรกมันก็คงยากมาก เราก็คงจะร้องไห้โฮออกมาเป็นพักๆ เพราะเราคงเสียใจมากที่ต้องเสียคนที่รักมายี่สิบปี
เราคงนึกถึงเรื่องเก่าๆ แสนเสียดายเวลาและความรักที่มีให้
แต่พอเช็ดน้ำตาเสร็จเราก็จะสมมติต่อ และพยายามต่อที่จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขแม้ว่าจะต้องอยู่กับสิ่งที่กลัวที่สุด
ก็เขาไปแล้ว จะฟูมฟายอย่างไรก็คงไม่ช่วย เราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพยายามเดินต่อเท่านั้น
วันที่เขากลับมาบ้าน เราก็จะใช้ชีวิตตามปกติ เป็นภรรยาที่ดีคนเดิม
พอวันที่เขาไม่อยู่อีก เราก็เริ่มใช้ชีวิตสมมติใหม่
ถ้าเราทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จิตใจเรามันจะคลายเงื่อนที่ผูกอยู่กับเขา
เขาจะทำอะไร หวานกับใคร ก็ไม่สามารถจะทำให้ใจเราทุกข์ได้
เพราะเราเรียนรู้ที่จะมีความสุขด้วยตัวของเราเอง กับคนที่แคร์เรามากกว่า
เราว่านี่คือจุดเริ่ม คุณยังไม่ต้องเลิกกับเขา แต่ต้องเริ่มปรับใจตัวเองในลักษณะนี้
ถ้าคุณรู้ว่า แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะจบแบบเลวร้ายที่สุด (คุณเสียเขา) คุณก็ยังโอเค คุณยังอยู่ได้ ยังสุขได้
เมื่อนั้นเราว่าคุณจะเลิกใช้ชีวิตด้วยความกลัว ผู้หญิงคนนั้นเขาจะยังกลัวอยู่ที่จะเสียสามีคุณ
แต่คุณจะต้องหยุดความกลัวนั้น คุณจะเข้มแข็งกว่าเขา คุณจะชนะ
คุณคะ คุณไม่สามารถที่จะควบคุมการตัดสินใจของแฟนคุณได้ ถ้าเขาเลือกจะไป คุณก็ทำอะไรไม่ได้
คุณควบคุมไม่ให้เขามีลูกด้วยกัน ก็ไม่ได้
คุณควบคุมการกระทำของผู้หญิงคนนั้น ก็ไม่ได้
สิ่งที่คุณควบคุมได้ มีอย่างเดียว คือใจคุณเอง ชีวิตคุณเอง ทางเลือกและอนาคตของตัวคุณเอง
ตอนนี้มันอาจจะดูน่ากลัวมากที่จะต้องเสียเขาไปให้ใครไม่รู้
แต่ลองปล่อยให้ใจคุณได้เริ่มปรับตัวก่อน ค่อยๆเดินออกมาอยู่กับความจริงก่อน
ความปล่อยวางจะเข้ามาแทนที่ความกลัว
เราว่าสามีคุณจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
เขาจะเริ่มเห็นว่าความสนใจของคุณไม่ได้จดจ่ออยู่กับความกลัวที่จะเสียเขาไปเหมือนก่อน
เมื่อนั้นเขาเองจะเริ่มเป็นฝ่ายกลัวที่จะเสียคุณไป
และถ้าคุณผู้หญิงที่มาทีหลังเขาคิดไม่ทัน เขาจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของสามีคุณด้วย
เขาอาจจะยิ่งทุรนทุรายกับความรู้สึกว่าสามีคุณดูจะสนใจคุณมากขึ้น
แต่สิ่งที่คุณต้องทำไปเรื่อยๆคือเอาตัวคุณให้หลุดจากวงจรนี้ ให้ความสุขของคุณเป็นอิสระจากคนสองคนนี้
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไร จะหลุดด้วยหรือไม่ มันก็จะไม่ทำให้คุณทุกข์ได้อีก
เวลาคุณทุกข์ คุณนึกว่าสามีคุณหรือผู้หญิงคนนั้น เป็นต้นเหตุของความทุกข์ คุณอยากจะไปเปลี่ยนเขาจะได้หายทุกข์
จริงๆแล้วต้นเหตุของความทุกข์มันอยู่ข้างในตัวคุณเอง มันคือความนึกคิดและใจคุณเอง
พยายามบรรเทาความทุกข์ในใจนั้น โดยบรรเทาที่ต้นเหตุนะคะ
แล้วคุณจะหยุดความทุกข์ได้ เชื่อสิ
แสดงความคิดเห็น
เรื่องเดิมๆ ที่ทำให้ช้ำใจ ขอคำแนะนำหน่อยค่ะ
http://pantip.com/topic/32112890
และ
http://pantip.com/topic/32117507
ที่เราเคยบอกไปว่าสามีไปต่างจังหวัดเพื่อไปหาผู้หญิงคนนั้น ช่วงนั้นเราเจ็บปวดมาก จนที่สุดเราก็พอทำใจได้บ้างแล้ว
เราลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองทุกอย่าง ผมที่เคยยาวถึงก้นเราก็ซอยสั้น ที่ไม่เคยแต่งหน้าแต่งตัวเราก็ลุกขึ้นมาทำ และเราก็รู้สึกสบายใจขึ้นในระดับหนึ่ง
สามีเรากลับมาเมื่อวันอาทิตย์ เราถามเขาไปตรงๆ ว่าทำแบบนี้ไม่แคร์เราแล้วใช่มั้ย ที่ไปต่างจังหวัดกับผู้หญิงคนนั้นเพราะตัดเขาไม่ได้ใช่มั้ย
เขาตอบเราว่า แคร์สิ เขารักเราเหมือนเดิม แล้วเข้ามากอด เราบอกไปว่าเรารู้ทุกอย่างว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเงียบ เราเลยเงียบบ้าง
แล้วเขาก็บอกว่าขอโทษที่ไม่ได้โทรกลับมาเลย เราบอกไปว่าเราไม่ได้สนใจเรื่องจะโทรกลับหรือไม่
แต่ที่เราเป็นแบบนี้เพราะเขาไปเที่ยวกับผู้หญิงอื่นถึงขนาดลางานไป มันคือการนอกใจเรา เขาเงียบอีก เราก็เลยไม่พูดอะไรต่อ
ผ่านไปสักพักเขาเข้ามากอด บอกเราว่าขอโทษ ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่ได้จริงจังด้วย ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สำคัญกับเขา คนที่เขารักและเลือกคือเรา
เราเลยถามไปอีกว่า ถ้าไม่จริงจังก็เลิกสิ ถ้ารักเราก็เลิกกับผู้หญิงคนนั้นให้เรา เขาก็ว่าเดี๋ยวเลิก ยังไงก็ต้องเลิกเพราะคนที่เขาเลือกคือเรา
เราเลยถามไปตรงว่า ถามจริงๆ เธออยู่กับเขาคนนั้นแล้วมีความสุขมั้ย เขาทำให้เธอมีความสุขมากกว่าฉันหรือเปล่า
ถ้าอยู่กับเขาแล้วมีความสุขมากกว่าอยู่กับฉัน ฉันจะหลีกทางให้ เขาตอบว่าไม่ อยู่กับคนนั้นไม่มีความสุขหรอก เขาอยากอยู่กับเรามากกว่า
ถึงจะไม่รู้สึกสบายใจร้อยเปอร์เซ็น แต่เราก็รู้สึกเข้าข้างตัวเองนะว่าเขาพูดจริง
เราเลยกลับมาพูดดีกับเขาอีกครั้ง ดูแลปรนนิบัติเขาอย่างดี ทำทุกอย่างที่คิดว่าเป็นสิ่งที่ดีที่สุดให้เขา
แต่พอวันจันทร์เขาก็ยังกลับไปคุยกับผู้หญิงคนนั้นเหมือนเดิม ยังคงหวานกันเหมือนเดิม
เราไม่อยากเซ้าซี้ให้เขารำคาญ แต่เราก็เริ่มจะกลับมาทำใจไม่ได้อีกครั้ง
ทั้งๆ ที่เขาพูดกับเราว่ารักเรา เลือกเรา แต่ทำไมถึงตัดผู้หญิงคนนั้นไม่ได้สักที
ที่เราช้ำใจก็คือสามีเรายังเห็นผู้หญิงคนนั้นสำคัญ เมื่อวานเราบอกว่ากลับบ้านเร็วหน่อยได้มั้ย อยากทานข้าวด้วยกัน ไม่ได้ทานด้วยกันมานานแล้ว
เขาก็บอกว่าให้เราทานไปเลยไม่ต้องรอเพราะทานอยู่กับเจ้านายที่ทำงาน
สักพักผู้หญิงคนนั้นโพสขึ้นเฟสบุคว่าทานข้าวอยู่ที่...(มันคือที่เดียวกับที่สามีบอกเราเมื่อครู่)
เราเสียใจ แต่ก็ไม่ได้ร้องไห้อีกแล้ว เราตัดสินใจโทรหาสามี เขาไม่รับสาย โทรหลายสายมาก เขาก็ไม่รับ
ผ่านไปสักครึ่งชั่วโมง เขาโทรกลับมาบอกว่าเดินไปซื้อของให้เจ้านายอยู่เลยไม่ได้รับสายเรา
เราบอกว่า ซื้อทีเป็นชั่วโมงเลยเหรอ ไม่เห็นเหรอว่าเราโทรไปเป็นสิบสาย เขาเงียบ สักพักเขาก็บอกว่ากำลังจะขับรถกลับแล้ว
เราก็ไม่พูดอะไรตัดสายไป ตอนนั้นมันเจ็บมาก เจ็บจนรู้สึกชาไปหมด
เรารักสามีมากนะ เปลี่ยนแปลงทุกอย่างเพื่อเขา
แต่ตอนนี้ความรักที่เคยมี มันกำลังจะเปลี่ยนไปแล้วค่ะ เราเจ็บใจช้ำใจมาก
ที่สำคัญเรารู้สึกเกลียดผู้หญิงคนนั้นมาก ทุกครั้งที่เธอคนนั้นโพสอะไรในเฟสบุค คือจะร่ำร้องว่าความรักทำร้ายเธอ เธอว่าเธอเสียใจ
อยากปล่อยวางจากความรักที่เป็นไปไม่ได้ แต่ผ่านไปสักพักก็โพสว่าเธอรักเขามาก อยากจะอยู่ใกล้อยากจะดูแลเขาแบบนี้ตลอดไป
อยากจะถามเพื่อนๆ ในที่นี้หน่อยค่ะ
สิ่งที่สามีเราพูด มันเชื่อถือได้แค่ไหนคะว่าเขารักเรา เลือกเรา
และถ้าเราจะส่งข้อความไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนั้นในลักษณะพูดคุย มันจะกลายเป็นว่าเราระรานเขาหรือเปล่า
แต่สิ่งที่เขาทำ มันทำร้ายจิตใจเรามาก เพราะเขาจะมาโพสมาเม้นในหน้าเฟสของสามีเราแบบเปิดเผยตลอดเหมือนอยากให้เรารู้
มีเพื่อนบางคนบอกให้เราแจ้งไปทางต้นสังกัดของที่เขาทำงาน(เขาทำงานอยู่สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย)
ซึ่งเราก็ไม่อยากทำร้ายเขาขนาดนั้นหรอก แต่บางทีก็ยอมรับว่าแอบคิดอยากทำอยู่เหมือนกัน
ถามคุณผู้ชายนะคะ(คุณผู้หญิงตอบด้วยก็ได้)
ในกรณีที่เราบอกว่าจะส่งข้อความไปคุยกับผู้หญิงคนนั้น ผู้ชาย(หรือสามีเรา)จะคิดว่าเราไประรานหรือเปล่า
แล้วมันจะมีผลดีผลเสียยังไงกับบ้าง
ยังไงเพื่อนๆ ในที่นี้ช่วยให้คำแนะนำเราหน่อยนะ ว่าเราควรจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไงดี
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ