พอดีมีโอกาสได้พบเจอคริสเตียนท่านหนึ่ง ไม่ได้สนิทกันมากมาย ก็ได้เล่าให้เขาฟังว่า ผมเพิ่งรับบัพติศมาไป

ตอนนี้ก็หาเวลาไปเรียนคำสอนที่โบสถ์คาทอลิกอยู่ เพราะรู้สึกว่า ยังไม่เต็มอิ่ม อยากรู้ลึกมากกว่านี้

เขาก็คุยกับผมเรื่องถวายสิบลดว่า "นี่รู้มั้ย? ถวายสิบลดนี่ เราได้เท่าไหร่ ต้องคืนท่าน 10% นะ ถ้าไม่ให้ ถือว่าไม่ให้ใจพระเจ้า"

ผมถึงกับ Stunt ไป 5 วินาที แต่ 5 วินาทีของผมนี่ เหมือนยาวเป็นชั่วโมงเลย คืออ่าน Bible ก็ไม่ได้เยอะ แต่ก็อ่านปฐมกาลจนึงเลวีนิติ และสลับพันธสัญญาใหม่ ก็อ่านถึงโรมแล้ว

ผมก็จำได้แค่การถวายสิบลดเป็นแนวความคิดที่มาจากพระคัมภีร์เดิม การถวายสิบลดเป็นกฎข้อบังคับสำหรับคนอิสราเอลทุกคน คนอิสราเอลจะต้องถวาย 10% ของทุกสิ่งที่เขาหามาได้และเพาะปลูกได้ไว้ที่พลับพลา/พระวิหาร (เลวีนิติ 27:30)

เลย Search หาเพิ่ม ก็เจอแค่

ฮีบรู [7:2] อับราฮัมก็ได้ถวายของหนึ่งในสิบแห่งของทั้งปวงแก่เมลคีเซเดค เมลคีเซเดคนั้นเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งความชอบธรรม ตามความหมายของนามของท่าน และเป็นกษัตริย์แห่งสันติสุข ตามความหมายของชื่อเมืองซาเลม

ที่พอจะใกล้เคียง เรื่องถวายนี่ ผมไม่ซีเรียส เรามาคริสตจักร ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายหมด น้ำไฟ อาหารเที่ยงฟรี และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ไม่ได้มีแค่สาธารณูปโภค ซึ่งก็มีงานพันธกิจ ที่คริสตจักรที่ผมสังกัดอยู่ ได้ออกไปทำ และมานั่งแบ่งปันกัน ซึ่งก็ทราบดีว่า ทำแต่ละอย่าง มันก็ใช้เงินหมด

แต่ที่บอกว่า "ถ้าไม่ให้ ถือว่าไม่ให้ใจพระเจ้า" ผมก็เงิบกับความคิดเขา เลยได้แต่นิ่งและคิดในใจว่า

"ถ้า Gu เกิดมาจน Gu ไม่ให้ใจพระเจ้าหรอวะ?" กับ "ถ้า Gu หาเงินมาได้ แต่รายจ่ายในเดือนหนึ่ง มันล้นเกินอัตรา พระเจ้าจะสาปแช่งมั้ย?"

แถมมาบอกว่าต้อง 10% อีก พันธสัญญาใหม่ก็ไม่ได้กล่าวเลย สุดท้ายก็ได้แต่ "ครับๆๆๆๆ"

และก็รีบจบการสนทนาไปเรื่องอื่นทันที แต่ก็ไม่ได้ถามว่าเขาสังกัดกับคริสตจักรไหน ทั้งนี้ผมเข้ามาร่วมมิสซากับโบสถ์คาทอลิก เขาก็เดินถือถุงเรี่ยไรนะ

แต่ไม่เคยกล่าวเลยว่าให้ถวาย 10% แม้แต่คริสตจักรที่ผมสังกัดอยู่ก็ยังบอกอีกว่า "ถวายแล้ว ต้องถวายด้วยใจชื่นชมยินดีนะ ถ้าใจไม่ชื่นชม อย่าถวาย"

ช่วยไขข้อสงสัยให้ผมทีครับ ขอบคุณครับ