พูดถึง " วีรกรรมทหารกล้า ไม่ได้จริง ๆ " กระทู้มีอิทธิฤทธิ์ล่องหนเรื่อยเลย/มาพูดถึงหายนะของเศรษฐกิจกันดีกว่านะ

ของเค้าศักดิ์สิทธ์จริงครับ .. แตะปุ๊บหายวับไปกับตา



เอาหล่ะครับ...ไม่ว่ากัน ไม่ซีเรียสเพราะวันนี้มันวันของคุณ....


ม่ะ...ชวนเพื่อนสมาชิกเข้าโหมด " คนเสียงดัง  แต่ตังส์ไม่ค่อยมีกันครับ "

ภายใน 3 ปีคร๊าบบบ...พี่น้องเดียวตัวกันรึยัง
สำหรับผม  ตอนนั้น ปี 2560 ลูกสาวจะอยู่ ม.5  ส่วนลูกชายจะอยู่ ม.2
เอาน่ะ.....ขอเก็บตัวประคองชีวิตใน 3 ปีภายได้ร่มเงาของรัฐบาลที่ผมไม่ได้เลือกมาเอาให้ผ่านให้รอกก้อแล้วกัน

งานประจำผม..เป็นงานผลิตและส่งออก  70 %
และ อีก 30 % เป็นงานขายในประเทศที่ต้องเกาะติดกับการท่องเที่ยว การซื้อขายจับจ่ายของผู้คน
แน่นอนผลกระทบหลังจากนี้....หากหลับตามองนึกไปก็พอจะเห็นภาพว่า...

3 ปีข้างหน้า  
ต้องปรับตัวรองรับกับภาพเศรษฐกิจขาลงจากความเงืยบสงัดของการท่องเที่ยว
ดังนั้นงานขายในประเทศ.....กระทบอย่างหนักแน่นอน

เพราะในปัจุบันนี้  
ภาคการค้าการขายในบ้านเมืองเราหยุดชงัก  คนไม่กิน  ไม่เที่ยว  ไม่จ่าย....อยู่ในภาวะเงินฝืด
เป็นแบบนี้เนือย ๆ มาตั้งแต่   ม๊อบเริ่มออกมาเมื่อปลายปีแล้ว
ลากยาวถึงเมษายนช่วงสงกรานต์ที่ปีก่อน ๆ มีคนเข้ามาซื้อขายหน้าร้าน เฉพาะสงกรานต์เป็น 10000 คน...ปีนี้เหลือแค่ 4000 กว่ารายครับ

ส่วนงานด้านการส่งออกนั้น...หลัก ๆ แล้วส่งไป ยุโรป
ก็ได้แต่ภาวนาครับว่า ประเทศเราภายไต้เผด็จการทหารครองอำนาจ  

" เราจะไม่โดนชาติไหน  กลุ่มไหนคว่ำบาตร "
เพราะหากเราโดนคว่ำบาตรนั้น  
มันคือห้ามทำมาค้าขายกันเลยว่างั้น.....
นั่นคือ อาจจะถึงขั้นต้องหยุดการผลิตไปเลย  " รับรองว่าที่นี่มีคนตกงานหลายร้อยคน "

ดังนั้น... 3 ปีข้างหน้านี้..ต้องวางแผนรองรับภาวะเศรษฐกิจแบบนี้....เศรษฐกิจที่มีทหารยืนถือปืนบงการด้านหลัง ห่ะ ๆๆ

ภาครวมของเศรษฐกิจของประเทศ ใน 3 ปีนี้  ในมุมมองของกรรมกรโรงงานแบบผม
ผมคาดว่า....มีแต่จะแย่กับแย่ครับพี่น้องเอ้ยยยยย...
เศรษฐกิจที่จะดีขึ้นนั้น หลัก ๆ จะมาจาก3-4 ส่วน
ผมคิดว่าเรา ๆ ทั้งหลายที่ติดตามการบ้านการเมืองน่าจะพอนึกออก

ส่วนแรกนั้น  คือ.." ภาคการท่องเที่ยวของต่างชาติ "
อย่าลืมว่าเมืองไทยเรานั้น ร่ำรวยเงินตราจากการมาเที่ยงท่องของคนต่างชาติครับ
ข้อนี้ภายไต่ร่มเงาของปลายกระบอกปืน ใน 3 ปีจากนี้  จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามา  จะเหลือมากน้อยแค่ไหน
เพื่อนสมาชิกก็อน่าจะมองภาพออก....

ส่วนที่ 2 นั้นคือ " ภาคการลงทุนจากทุนต่างประเทศ "
ภายใน 3 ปีนี้นั้น โครงการลงทุนเฟสใหญ่ ๆ ต่าง ๆ ที่ได้ขอส่งเสริมการลงทุนไปแล้วนั้น
ส่วนหนึ่งก็จะดำเนินการต่อ  บางส่วนอาจจะลดขนาด  ลดเงินลงทุนลงไป
และคงมีหลายโปรเจค  ที่อาจจะหยุด  ยกเลิก ไม่มีการลงทุนเพิ่ม.....รึย้ายไปประเทศอื่นที่มันศิวิไลซ์กว่านี้

และที่แน่ ๆ .. การลงทุนใหม่ ๆ ใน 3 ปีข้างหน้านี้คงไม่ได้มีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนในระบบมากมายเหมือนในยุคเสรี....หุหุ

ส่วนที่ 3   คือ " การลงทุนของภาครัฐ "
ข้อนี้ผมมองว่ารัฐบาลชั่วคราวนั้นคงไม่กล้าที่จะอนุมัติรึตัดสินใจโครงการใหญ่ ๆ อะไรที่เป็นภ่ระผูกพันได้
โครงการเมกกะโปรเจค ทั้งการบริหารจัดการน้ำ  รึโครงการขนส่งมวลชนต่าง ๆ รึแนวทางพัฒนาเมนหลักของประเทศก็คงต้องหยุดชงักไปด้วย
นี่ก็จะเป็นอีกด้านอีกมุมที่จะฉุดเศรษฐกิจประเทศเรา   ให้อยู่กันแบบเกินแกงผักแกงไม้  ปลูกข้างเลี้ยงปลากันกันเอง 3 ปีครับ

ส่วนที่ 4 คือ  " การจับจ่ายใช้สอยของมวลมหาประชาชน "
เมื่อการเที่ยงท่องไม่คึกคัก   การเดินทาง การค้าขาย การจับจ่ายใช้ซื้อเบาบาง
ข้อนี้ก็จะฉุดให้เศรษฐกิจบ้านเมืองเราเฉาตายไปอีกทาง 555++  สมน้ำหน้าคนดีจริง ๆ

มืดมนไหม๊ล่ะครับ  พี่น้อง
ล่าสุดติดตาม GDP ของประเทศเรา ติดลบครั้งแรกในต้นปีนี้เอง 555 ชอบล่ะสิครับคนดีทั้งหลาย
ประเทศเจ๊งไม่ว่า  ข้าไม่มีข้าวแดรกช่างมัน...ฉันขอไล่ทักษิณ+ยิ่งลักษณ์เป็นอันจบ ===== ว่าซั่น บ๊อออ !!

==================================

มาเตรียมตัวเข้าสู่โหมดหายนะกันครับ พี่น้อง...
ข้าวตันละ 5-6000บาท
ยางพารากิโลละ 30 บาท
มันสำปะหลังตันละ 1500 บาท
ไข่ไก่ฟองละ 2 บาท
ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 150 บาท
เงินเดือน ป.ตรี 7250 บาท
น้ำมันเบนซิน E20 ลิตรละ 35 บาท
หมู กิโลละ 80 บาท

โอววววว..............ช้านอยู่ได้  
ช้านนนนนปลูกข้าว เลี้ยงไก่  เลี้ยงปลา  ปลูกพริก  ปลูกมะเขือกินเอง 55567890+++ ฮริ้ววววววววว


ป.ล พี่น้อง  SME กลุ่มขายของกิน ของฝาก ของใช้ ของที่ระลึกทุกท่าน...." วันนี้ท่านเตรียมตัวเจ๊งกันรึยังเอ่ยยยย "
ป.ล 2 ครั้งแรกที่ผมแทกห้องสินธร  ก้อด้วยอยากได้มุมมองจากทางผู้เชี่ยวชาญนะครับ  ..
ห้ามด่าย้อนมานะครับว่า....แทกมาทำไม "พวกบ้าการการเมือง "    เค้ากัววว...555++

ขอบคุณล่วงหน้าน๊าาาา...
...