‘เลย์’ หนุนเกษตรกรปลูกมัน สร้างรายได้ชุมชน 1,500 ล้าน

จากที่เห็นที่สัมผัสมากับตัวเอง ต้องบอกเลยว่าอันนี้ดีจริง ชาวสวนแถวนี้เริ่มปลูกกันเยอะขึ้น และมีแนวโน้มจะหันมาปลูกมันกันเพิ่มขึ้นไปอีก

มีคนลงทุนให้ ทั้งค่าเชื้อหัวมัน ค่าปุ๋ย ค่ายาต่างๆ  รับซื้อในราคาสูงสำหรับชาวสวน และ มีประกันราคาให้ด้วยทุกๆปี

ปัญหา และอุปสรรคที่เจอ ปลูกมันฝรั่งในฤดูฝนจะดูแลยากกว่าปลูกในฤดูร้อนมาก

https://www.prachachat.net/economy/news-1897388


เป๊ปซี่โค หนุนเกษตรกรปลูกมันฝรั่ง “เลย์” ภายใต้เกษตรพันธสัญญา สร้างรายได้ให้ชุมชนปีละ 1,500 ล้านบาท ประกันความเสี่ยงป้อนเข้าโรงงาน ชี้ความต้องการเติบโตต่อเนื่องปลูกได้แค่แสนตันต่อปี ขณะที่มีความต้องการใช้ปีละ 2 แสนตัน พร้อมใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย เพื่อลดต้นทุน ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

นางสุริวัสสา สัตตะรุจาวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์และรัฐกิจ ประจำประเทศไทยและอินโดไชน่า บริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด หรือ “เป๊ปซี่โค ประเทศไทย” ผู้ผลิตเลย์ มันฝรั่งทอดกรอบยอดนิยมของเมืองไทย เปิดเผยว่า เป๊ปซี่โค ประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานมันฝรั่งอย่างยั่งยืน ซึ่งได้เริ่มวิจัยและพัฒนาพันธุ์ที่เหมาะสม ก่อนที่จะนำไปส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่ปลูกจริง

พร้อมทั้งส่งต่อความรู้เทคนิคการเพาะปลูกในระบบแบบน้ำหยด การจัดการศัตรูพืชแบบผสมผสาน เพื่อควบคุมโรคและแมลง รวมไปถึงการนำเทคโนโลยี โดรน (Agro Drone Scout) ตรวจสุขภาพพืช ระบบวิเคราะห์ดิน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปลูก

“จากการพัฒนาสายพันธุ์จนได้พันธุ์ที่เหมาะสมที่ทนต่อสภาพอากาศ ทนโรค ให้ผลผลิตสูง ซึ่งใช้ระยะเวลาในการวิจัยพอสมควร หัวพันธุ์ (G3/G4) จะถูกส่งต่อสู่มือเกษตรกร การปลูกมันฝรั่งของเกษตรกรภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญาที่ทำกับ เป๊ปซี่โคในประเทศไทย จะปลูกในช่วงฤดูหนาว หรือฤดูแล้ง โดยเริ่มปลูกประมาณเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของแต่ละปี”

ทั้งนี้ เพื่อต้องการส่งเสริมปลูกมันฝรั่งที่ยั่งยืน บริษัทมีการขับเคลื่อนงานเกษตร ซึ่งเป็นเสาหลักของกลยุทธ์ระดับโลก PepsiCo Positive หรือ pep+ โดยเฉพาะการเกษตรเชิงบวก (Positive Agriculture) ซึ่งไม่ได้หมายถึงการปลูกแบบไม่ทำลาย แต่คือการฟื้นฟูระบบนิเวศให้ดีกว่าเดิม พร้อมส่งเสริมให้มีการยกระดับรายได้และคุณภาพของชีวิตของเกษตรกร เพื่อให้ต้นน้ำของธุรกิจแข็งแรงอย่างยั่งยืน

ซึ่งเป็นแกนกลยุทธ์ธุรกิจ เพราะธุรกิจจะเติบโตได้จริงก็ต่อเมื่อเกษตรกรและโลกเติบโตไปด้วยกัน อีกทั้งเป้าหมายระดับโลกโดยนำแนวทางเชิงฟื้นฟูไปใช้ในพื้นที่เกษตร เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซกระจกอย่างมีนัยสำคัญ และส่งเสริมให้มีการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในห่วงโซ่อุปทาน

อย่างไรก็ดี บริษัทเริ่มส่งเสริมเกษตรกรมานั้นตั้งแต่ปี 2538 ซึ่งมีเกษตรกรภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญามากกว่า 4,800 ครัวเรือน ใน 9 จังหวัด เช่น จังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ลำพูน พะเยา ตาก เพชรบูรณ์ สกลนคร และนครพนม ในพื้นที่ 37,000 ไร่ อีกทั้งยังสามารถส่งเสริมการสร้างรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนราว 1,500 ล้านบาทต่อปี อีกทั้งยังมีต้นแบบฟาร์ม 196 แห่งทั่วภาคเหนือด้วย

นางสุริวัสสากล่าวอีกว่า สำหรับความต้องการมันฝรั่งของโรงงาน เป๊ปซี่โค ประเทศไทย เฉลี่ยปีละ 200,000 ตัน ซึ่งเกษตรกรที่ปลูกภายใต้พันธสัญญาประมาณ 100,000 ตันต่อปี ดังนั้น ความต้องการผลผลิตจากมันฝรั่ง เพิ่มขึ้นทุก ๆ ปี ซึ่งเป๊ปซี่โคพยายามทุกวิถีทางในการเพิ่มวัตถุดิบเพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการต่าง ๆ ที่สนับสนุนเกษตรกรไทย หรือการร่วมมือกับภาครัฐ

อีกทั้งส่งเสริมการนำเทคโนโลยีเข้าช่วย ใช้โมเดลพันธสัญญา ที่มีการตกลงราคา ปริมาณล่วงหน้า ลดความเสี่ยงด้านราคา เกษตรกรเองสามารถวางแผนการเงิน การลงทุนได้ เพื่อเป็นการสร้างความยั่งยืนให้ทั้งบริษัทและเกษตรกรด้วย.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่