พระเจ้ามีจริงหรือ? คำถามนี้มีหลายคำตอบ
มีสองทางที่มนุษย์สามารถตระหนักและรับรู้ถึงพระเจ้าได้คือ 1.ทางตรง 2.ทางอ้อม
มนุษย์รู้จักพระเจ้าทางอ้อมได้แก่
1.เรารู้จักพระเจ้าผ่านทางธรรมชาติ
พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินโลกทั้งหมด”
พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ให้เป็นศูนย์กลางของโลกนี้และทุกสิ่งบนโลกถูกสร้างเพื่อมนุษย์ เราจะพบว่าทุกสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ต่างมีประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งสิ้น เช่นต้นไม้ต่างๆก็ให้ผลผลิตที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ยาที่ทำจากพืชหรือแม้แต่กระทั้งอากาศที่มนุษย์ไว้ใช้หายใจที่เกิดจากต้นไม้ที่ให้อ็อกซิเจนแก่มนุษย์
ดอกไม้ต่างๆที่สวยงาม ธรรมชาติที่ไม่อาจหาได้จากดาวดวงอื่นเพื่อให้มนุษย์เกิดความรื่นรมย์ในชีวิตบนโลกที่พระเจ้าประทานให้ (ก่อนที่มนุษย์จะทำบาปและทำให้โลกตกต่ำ-เอาไว้กล่าวถึงในบทความต่อไป)
คำถามก็คือ ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเองแล้วทำไมทุกสิ่งบนโลกต่างเป็นคุณและประโยชน์ต่อมนุษย์บนโลก? สัตว์มีไว้ใช้งาน พืชและต้นไม้ใช้เป็นอาหารและสร้างที่อยู่อาศัย ดวงอาทิตย์มีไว้เพื่อมนุษย์ในการดำรงชีวิต ดวงจันทร์มีไว้ให้มนุษย์ไว้พักผ่อน
วัตถุประสงค์ของการดำรงอยู่ของสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับพระคำภีร์ที่แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเราพระเจ้าเป็นผู้สร้างเพื่อให้มนุษย์มีชีวิตที่ดี เช่นเดียวกับพ่อและแม่ที่จัดซื้อและเตรียมสิ่งของต่างๆอย่างดีไว้ให้ลูกที่กำลังจะเกิดมา ไม่มีพ่อและแม่คนไหนที่อยากให้ลูกเกิดมาในความยากลำบาก และนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้ว่าโลกนี้มีพระเจ้าเพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้สำหรับมนุษย์ทุกคน
พระเจ้ามีจริงหรือ? หนึ่งแง่คิด เชิญแลกเปลี่ยน
มีสองทางที่มนุษย์สามารถตระหนักและรับรู้ถึงพระเจ้าได้คือ 1.ทางตรง 2.ทางอ้อม
มนุษย์รู้จักพระเจ้าทางอ้อมได้แก่
1.เรารู้จักพระเจ้าผ่านทางธรรมชาติ
พระคัมภีร์ได้กล่าวว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินโลกทั้งหมด”
พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ให้เป็นศูนย์กลางของโลกนี้และทุกสิ่งบนโลกถูกสร้างเพื่อมนุษย์ เราจะพบว่าทุกสิ่งที่อยู่บนโลกนี้ต่างมีประโยชน์ต่อมนุษย์ทั้งสิ้น เช่นต้นไม้ต่างๆก็ให้ผลผลิตที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ยาที่ทำจากพืชหรือแม้แต่กระทั้งอากาศที่มนุษย์ไว้ใช้หายใจที่เกิดจากต้นไม้ที่ให้อ็อกซิเจนแก่มนุษย์
ดอกไม้ต่างๆที่สวยงาม ธรรมชาติที่ไม่อาจหาได้จากดาวดวงอื่นเพื่อให้มนุษย์เกิดความรื่นรมย์ในชีวิตบนโลกที่พระเจ้าประทานให้ (ก่อนที่มนุษย์จะทำบาปและทำให้โลกตกต่ำ-เอาไว้กล่าวถึงในบทความต่อไป)
คำถามก็คือ ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเองแล้วทำไมทุกสิ่งบนโลกต่างเป็นคุณและประโยชน์ต่อมนุษย์บนโลก? สัตว์มีไว้ใช้งาน พืชและต้นไม้ใช้เป็นอาหารและสร้างที่อยู่อาศัย ดวงอาทิตย์มีไว้เพื่อมนุษย์ในการดำรงชีวิต ดวงจันทร์มีไว้ให้มนุษย์ไว้พักผ่อน
วัตถุประสงค์ของการดำรงอยู่ของสิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับพระคำภีร์ที่แสดงให้เห็นว่าธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเราพระเจ้าเป็นผู้สร้างเพื่อให้มนุษย์มีชีวิตที่ดี เช่นเดียวกับพ่อและแม่ที่จัดซื้อและเตรียมสิ่งของต่างๆอย่างดีไว้ให้ลูกที่กำลังจะเกิดมา ไม่มีพ่อและแม่คนไหนที่อยากให้ลูกเกิดมาในความยากลำบาก และนี่คือหนึ่งในเหตุผลที่มนุษย์สามารถเข้าใจได้ว่าโลกนี้มีพระเจ้าเพราะพระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดไว้ให้สำหรับมนุษย์ทุกคน