Tempy Movies Review วิจารณ์หนัง: In the Mood for Love {Wong Kar-wai}, 2000

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ดนตรีประกอบที่ใช้ซำ้ๆอยู่ไม่กี่เพลง สถานที่ใช้ถ่ายทำก็มีอยู่ไม่กี่ที่ และนักแสดงก็มีอยู่จำนวนน้อยเท่าที่เพียงพอสำหรับการดำเนินเรื่องได้ ซึ่งแสดงถึงความเป็นมินนิมอลิซึม ศิลปะแขนงหนึ่งที่เบ่งบานในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองอันไปตรงกับช่วงเวลาในเรื่องอย่างพอดิบพอดี หรืออีกนัยหนึ่ง ประเทศจีนในช่วงยุคหกสิบถือเป็นจุดถ่ายโอนทางวัฒนธรรมที่สำคัญ กล่าวคือประชาชนไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงจากที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลคอมมิวนิสต์ต้องออกมาหางานทำเพื่อครองชีพตัวเองทำให้เกิดคำว่า "working daughters หรือ working mothers” แต่อย่างไรก็ดีป๊อปคัลเจอร์หลายๆอย่าง เช่น ธุรกิจภาพยนตร์ก็ยังไม่เฟื่องฟู ยังคงเป็นไปตามขนบครรลองดั้งเดิมของจีน

ดังเช่นตัวเอกของเรื่องชายหญิงวัยกลางคนที่ต่างก็มีคนรักของตนอยู่แล้ว ต้องมีเหตุบังเอิญให้มาใกล้ชิดกัน ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองค่อยๆเจริญเติบโตอย่างช้าๆ แต่สังคมจีนสมัยนั้นความรักระหว่างหนุ่มสาวยิ่งเป็นที่จับตามองของคนเฒ่าคนแก่ (ตัวแทนของแนวคิดแบบเก่า) ม่าน กระจก กองหินทับถมกันที่นครวัดซึ่งคอยบดบังสายตาเรา รวมไปถึงกำแพงห้องมันไม่เพียงตัวแทนถึงสิ่งที่ทั้งคู่กำลังนั้นจะต้องเป็นความลับระหว่างทั้งสองไม่อาจแพร่งพรายได้ แต่ยังแสดงถึงการที่พวกเขากำลังพยายามทลายกฎธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติมาดั้งเดิมช้านาน

โดยไม่เป็นที่กังขา สาเหตุที่เกิดความสัมพันธ์ชู้รักต้องห้ามขึ้น (เรารู้สึกว่าสีแดงในหนังที่ปรากฎอยู่บ่อยครั้งแท้จริงควรจะแสดงถึงบรรยากาศความรัก แต่สำหรับเรามันแสดงถึงว่าความรักของทั้งคู่สุดท้ายก็ต้องถูกกีดกั้น) เป็นเพราะชาวจีนยังไม่อาจปรับตัวได้กับการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันใด กิจวัตรที่ยุ่งวุ่นวายที่ยิ่งเพิ่มระยะห่างระหว่างความสัมพันธ์ชีวิตคู่ แต่พอพวกเขาว่างเว้นจากงานกลับต้องอยู่อย่างเดียวดายในห้องเช่า อีกอย่างคนเฒ่าคนแก่ก็ยังไม่อาจทนรับกับจริตตะวันตก เช่นการที่คู่หนุ่มสาวเดินจับมือกันตามท้องถนน ทั้งหมดทั้งมวลจึงทำให้วัฒนธรรมของจีนไม่อาจพัฒนาไปถึงไหนได้

หว่องสามารถสะท้อนภาพไม่เพียงแต่ของสังคมจีนแต่ยังรวมไปถึงประเทศในแถบตะวันออกที่วัฒนธรรมตะวันตกกำลังแทรกซึมเข้ามาผสมรวมกัน การดำเนินเรื่องที่นิ่งเงียบ (ถึงแม้จะมีดนตรีประกอบ แต่ก็มีแต่เพลงเดิมๆ) กิจวัตรที่ซ้ำจำเจ หรือการสูบบุหรี่เมื่อรู้สึกว่าเหงา ช่วยขับเน้นความเปล่าเปลี่ยวที่เข้าแทนที่ความร่าเริงสดใสในหัวใจของชาวกรุงท่ามกลางสังคมที่กำลังถึงคราวแปรเปลี่ยนไปได้อย่างดีเยี่ยม เราในฐานะผู้ชมก็คงพอที่จะทำนายว่าในท้ายที่สุดความสัมพันธ์ของทั้งคู่อย่างไรก็คงไม่อาจเป็นไปได้ ความรักที่เกิดขึ้นคงต้องดำรงอยู่ในสถานะเพียงแค่ความทรงจำ

ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับภาพยนตร์ทางเฟสได้เลยน่ะครับ https://www.facebook.com/survival.king
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่