[รีวิว] การเดินทางบนรถเมลอินเดีย

ก่อนเริ่มเรื่องราวในวันนี้ ผมขออนุญาติกล่าว สวัสดีครับ กับผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามจากกระทู้ (ประสบการณ์ครั้งแรก ณ งานแต่งงานคนอินเดีย: http://pantip.com/topic/32046779 ) ของผมน่ะครับ ผมขอขอบคุณสำหรับกำลังใจและคำแนะนำจากทุก ๆ ท่านในกระทู้ที่ผ่านมาน่ะครับ
    และสวัสดีผู้อ่านท่านใหม่ ๆ ทุกท่าน
             การเดินทางในประเทศอินเดียนั้น สำหรับ คนต่างประเทศอย่างผม ช่วงแรกที่ผมมา เป็นอะไรที่ยากมากๆ ผมไม่กล้าออกไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นอันขาด เพราะกลัวผู้คนในประเทศเค้า ไม่คุ้นที่ เวลาเดินไปไหนมาไหนในเมือง หน้าตาเราไม่เหมือนเค้าเลย เวลาเดินออกไปกับเพื่อนๆ คนอินเดียชอบมามองหน้า จ้องหน้าเกือบทุกคน ผมก็ไม่เข้าใจ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่ชินแล้ว พอเวลาผ่านไปซักพัก เริ่มปรับตัวเข้ากับชีวิตที่ประเทศอินเดียได้แล้ว ก็กล้าที่จะออกไปไหนมาไหนคนเดียวได้แล้ว

ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึงการเดินทางในวันนี้ของผม

เรื่องราวในวันนี้ จะเป็นอย่างไร มาติดตามไปพร้อมๆ กันกับผมน่ะครับ    
การคมนาคมของคนอินเดียตามชนบทที่ผมเคยเห็นนั้น ยังคงใช้เกวียนโดยมีวัว 1-2 ตัว ลากบ้างน่ะครับ และก็มี มอเตอร์ไซค์ , รถยนต์ , รถ Van , รถบัส(หรือเรียกว่า รถเมล์) แต่การคมนาคมหลักๆ ในเมืองบังกาลอนี้ เท่าที่ผมเคยสัมผัสมามีอยู่ 5 รูปแบบ คือ

1.    รถส่วนตัว – มีทั้ง มอเตอร์ไซค์, รถยนต์ , รถเกวียน(วัวลาก, ม้าลาก, ฯลฯ[ผมเคยเห็นเพียงแค่นี้แหละครับ] )
2.    รถ Auto - ลักษณะคล้ายๆ กับ ตุ๊ก ๆ บ้านเราน่ะครับ เพียงแต่ว่า คิดราคาโดยใช้ meter และแล้วแต่จะตกลงกันครับ
3.    รถไฟดีเซล วิ่งระหว่างเมืองระยะทางใกล้และไกล
4.    รถไฟฟ้า (คล้าย ๆ กับ BTS บ้านเราแหละครับ)  รถแบบนี้วิ่งในเมือง
5.    รถไฟฟ้ารางไฟบนหัวรถ – รถแบบนี้ วิ่งระหว่างเมืองน่ะครับ
6.    รถ(bus)ประจำทาง หรือ บ้านเราเรียกกันว่า “รถเมล์”



    เช้านี้ ผมก็มายืนรอรถเมล์(ขออนุญาติเรียกว่า รถเมล์ เพื่อผู้อ่านท่านอื่นๆ เข้าใจง่ายขึ้นน่ะครับ) ได้ซัก 10-15 นาที ระหว่างนั้นก็มีรถเมล์ 2-3 คันผ่านไป แต่ยังไม่ใช่สายรถเมล์ที่ผมต้องการจะไปน่ะครับ

    รถเมล์สายที่ผมต้องการเดินทางนั้นจะมาทุกๆ 30 นาที ต่อ 1 คัน
    เผอิญบ้านที่ผมอยู่ค่อนข้างชนบทน่ะครับ รถเมล์ผ่านน้อย (ถ้าวันไหนอยากไปแค่หน้าปากซอยก็นั่งรถ Auto ออกไป ราคา 10 รูปี ถ้าโบกรถเมล์ไปหน้าปากซอยก็ 5 รูปี)



กลัวผู้อ่านบางคนยังไม่เคยเห็นภาพน่ะครับว่า auto หน้าตาเป็นยังไง แต่รุปนี้เป็นแบบ full-load น่ะครับ เดี๋ยวว่างๆ จะหาแบบธรรมดามาให้ดูกันครับ
    



    และแล้วผมก็ได้รถที่ผมต้องการซักที ขอโทษทีน่ะครับ ที่ถ่ายรูปให้ดูไม่ทันเนื่องจากต้องรีบวิ่งและแย่งกันขึ้นรถเมล์น่ะครับ ตอนนี้ผมอยู่บนรถเมล์แล้วครับ ส่วน ผู้ชาย รูปร่างอ้วนท้วมสะพายกระเป๋าหนังสีน้ำตาลที่ยืนอยู่ข้างขวาของรูปภาพ ตรงประตูทางเข้ารถเมล์นั้น คือ กระเป๋ารถเมล์นี่เองครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


    
    ลักษณะรถเมล์ของเมืองบังกาลอ ประเทศอินเดียนั้น สังเกตุน่ะครับ ว่า ที่นั่งด้านหน้าจะว่างแต่ผู้ชายจะไม่เข้ามานั่งน่ะครับ เพราะผู้หญิงจะนั่งด้านหน้าของตัวรถเมล์เท่านั้น (ผู้ชายห้ามมานั่งบริเวณด้านหน้านี้น่ะครับ ซึ่งถือว่า ปลอดภัยเอามาก ๆ)




ส่วนนี่ก็คือ ป้ายบอกว่า lady เท่านั้นน่ะจ๊ะ นายจ๋า
ประเทศนี้เค้าค่อนข้างซีเรียสเรื่องถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงน่ะครับ เพื่อให้ไม่เป็นปัญหา เค้าเลยจัดการให้ผู้ชายนั่งหรือยืน zone ด้านหลังเท่านั้น ส่วนผู้หญิงยืนหรือนั่ง zone ด้านหน้าเท่านั้นเช่นกันครับ อ่าวแล้วถ้ามากันเป็นคู่ล่ะจะทำยังไง (ขอตอบก่อนเลยครับ) ผู้ชายก็จะไปนั่งข้างผู้หญิงแถวหน้าซะส่วนใหญ่ครับ ไม่ค่อยเห็นผู้หญิงหลุดมานั่งกับผู้ชายด้านหลังรถครับ(จากประสบการณ์ของผมน่ะครับ)    
    


    คราวนี้ผมต้องย้ายมายืนท้ายรถเมล์เลยน่ะครับ เพราะด้านหน้าเดี๋ยวคนขึ้นมาเยอะ จะยืนเอาไม่ได้แล้วครับ อิ ๆ  และก็ยืนหลัง ๆ แหละครับ มีโอกาสได้นั่งกว่า ยืนตรงกลางรถครับ




    หลังจากยืนได้ซักพัก ก็ได้ที่นั่งซักที เป็นการชิงเก้าอี้นั่งที่ดุเดือดพอตัวเลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ส่วนการวางของ ก็สามารถวางได้ตามทางเดินอย่างสะดวกสบายใจ ที่สำคัญที่ผมถ่ายรูปมาด้วยครับ
    


เพราะว่า ผมเผลอไปเหยียบเพื่อข้ามไปยังที่นั่งน่ะครับ พอรู้ตัวอีกที เจ้าของถุงเค้าก็ตะโกน “Hey!!” ผมก็ขอโทษ ขอโพยเค้าใหญ่เลย เพราะความผิดของเราเองที่ไม่ระวังเดินไปเหยียบของเค้าครับ ตอนเหยียบลงไปนุ่ม มาก ๆ แถมตอนยกเท้าออกมา ก็เห็นเหมือนมีน้ำแฉะๆ ตรงรอยเท้าที่ผมเหยียบลงไปด้วย T_T  รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันครับ

    

    สังเกตุไหมว่า ที่นั่งบนรถเมล์คนนี้ เป็นที่นั่งที่หันหน้าเข้าหากัน อิ ๆ เหมาะกับคนที่มาแบบ Team 4 คนมากๆ ครับ คงสนุกน่าดูครับ เสาเหล็กในรถนั้นเป็นสีเหลืองทั้งหมด




หนึ่งในชิ้นส่วนที่ถูกพบว่ามีร่องรอยการถูกใช้งานอย่างโชกโชน จะเป็นแบบนี้เกือบทุกคัน คือ มีชิ้นส่วนไหน สามารถแกะ หรือถอดได้ ก็จะหายไปแบบนี้ครับ



ตอนนี้ผมนั่งอยู่แถวท้ายสุดของรถเมล์ประจำทางน่ะครับ สามารถเห็นทุกอย่างบนรถจากด้านหลังสุดนี้ ที่สังเกตุเห็นก็คือ เก้าอี้ โดยสายของรถเมล์สายนี้ จะออกแบบ (design) ให้หันหน้าเข้าหากันเกือบทั้งคัน (ความเห็นส่วนตัว : ท่าทางคนที่ออกแบบรถเมล์คันนี้ อยากให้ทุกคนได้มองหน้ากันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ตลอดระยะทางน่ะครับ)



ถ่ายด้านขวาของที่นั่งผม เท่าที่สังเกตุ คือ รถเมล์ใช้วัสดุ คล้ายๆ กับแผ่นอลูมีเนียม (อันนี้ ผมไม่แน่ใจน่ะครับว่าเป็นวัสดุอย่างว่า หรือป่าว รบกวนขอผู้รู้(Guru) ช่วยตอบแทนผมหน่อยน่ะครับ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านท่านอื่นครับ)



หลอดไฟแบบตะเกียบยาว ใช้เปิดให้แสงสว่างในรถยามค่ำคืนครับ (หลังจาก 1 ทุ่มเป็นต้นไป)



ภาพถ่าย poronama บนรถเมล์สาย 316D น่ะครับ นี่เป็นภาพสุดท้ายแล้วที่ผมได้ถ่ายบนรถเมล์ 316D ที่สังเกตุอีกอย่างหนึ่งตั้งแต่ขึ้นมาบนรถเมล์จนลงแล้วน่ะครับ
ส่วนเวลาลงจากรถนั้น คนก็จะยืนบางทางเดินแบบในรูปครับ
วิธีการเดินลงแบบถูกวิธีคือ เบียดครับ พร้อมกับพูดคำว่า “excuse me” แค่นั้นครับ คุณสามารถพูด “excuse me” ได้ แต่ถ้าเค้ายังไม่หลบ ก็.....ก็..... เตรียมตัวเดินทางไกลได้เลยครับ แสดงว่า คุณกำลังมีสิทธิ์ที่จะได้กำไรในการเดินทางเพิ่มอีก 1 ป้ายรถเมล์ทันที


(ติดตามต่อ comment ที่ 7 เลยน่ะครับ เนื่องจาก text เยอะไปแว้วครับ T^T)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่