ลำดับการเลือกตั้งลองสะกิดแผลพวกขี้แพ้ ออกมาดูว่ามันหวาดผวา เข็ดขยาดกับการเลือกตั้งกันขนาดไหน
เลือกตั้ง 2548 เป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายที่ทักษิณชนะเลือกตั้ง ด้วยการกวาดที่นั่งในสภา 377 เสียง จาก 500 เสียง
เลือกตั้ง 2549 ทักษิณยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสิน พรรคประชาวิบัติ รู้ตัวว่าต้องแพ้ราบคาบอีก เลยบอยคอตไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง หลังจากนั้นก็เกิดการรัฐประหาร
เลือกตั้ง 2550 พรรคประชาวิบัติ กระดี๊ กระด๊า กระสันจะลงเลือกตั้งเป็นอย่างยิ่ง เพราะความได้เปรียบจากกติกาใหม่ที่สมาชิกนิติบัญญัติพวกเดียวกันเองปรับเปลี่ยนเขตการเลือกตั้งให้พรรคประชาวิบัติได้เปรียบคู่แข่ง ประการสำคัญคือ นักการเมืองคู่แข่งตัวสำคัญๆ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเรียบวุด เหลือคู่แข่งลงสนามแต่พวกหน้าใหม่ เกรดบี แถวสอง โนเนม แต่ผลเลือกตั้งกลับตาลปัตร เพราะ นักการเมืองโนเนมกวาดที่นั่งมาเป็นอ้นดับหนึ่งในสภาเกือบเกินครึ่ง ทิ้งห่างพรรคประชาวิบัติแบบขาดลอย มองไม่เห็นฝุ่น
เลือกตั้ง 2554 ก่อนนั้นพรรคประชาวิบัติวิ่งราวอำนาจแล้วหลบไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เล็งเห็นผลแล้วว่าต้องปรับเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้งอีกรอบเพื่อความได้เปรียบในการลงสนามเลือกตั้ง ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง บวกกับ การถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองของนักการเมืองพรรคคู่แข่ง ทั้งเกรดเอ เกรดบี โดนถอดออกจากสนามจนเกลี้ยง แถมมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ อัดฉีด ถลุงงบประมาณลงรากหญ้าเต็มที่ ครั้งนี้พรรคประชาวิบัติปิดประตูแพ้ ถึงขนาดหากแพ้เลือกตั้งเทพเทือกจะหนีไปขุดรูอยู่ แต่สุดท้ายพรรคประชาวิบัติก็พ่ายแพ้สมันน้อยอย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่พึ่งกระโดดลงสนามการเมืองเพียง 49 วัน แบบล๊อคถล่ม
เลือกตั้ง 2557 พรรคประชาวิบัติเล็งการไกลมองข้ามช๊อตว่าต้องแพ้อีกเหมือนเดิม เลยบอยคอตไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งอีกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 8 ปี แต่ที่ร้ายไปกว่าเดิมนั้นก็คือ ไม่ใช่แค่บอยคอต แต่ต้องขัดขวางการเลือกตั้งให้ถึงที่สุด ( แบบที่เขาเรียกว่าลงสนามก็แพ้ เลยพาลพังสนามมันซะเลย )
ใช้วาทะหรูๆ ต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง พามวลชน เดินลงถนน ปิดสถานที่ราชการ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ ไปสู่ดินแดนที่เป็นรัฐลัมเหลว เปิดทางให้เกิดรัฐบาลที่มาจากช่องทางลัดแบบพิเศษ เพื่อมาร่างกติกาใหม่ เอาเปรียบคู่แข่งอีกนั้นเอง เพราะเห็นตัวอย่างการเลือก ส.ว. โมเด็ล คือ สรรคหา ครึ่งหนึ่ง เลือกตั้งครึ่งหนึ่ง ถ้านำระบบนี้มาใช้กับการเลือกตั้ง ส.ส. คราวนี้พรรคประชาวิบัติ ปิดประตูแพ้ ร้อยเปอร์เซนต์
นี้ไงครับ คำตอบอยู่ตรงท้ายนี้เองว่าทำไมต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง !!!!
ถึงบางอ้อ.......ว่าทำไมต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง .... ?????
เลือกตั้ง 2548 เป็นการเลือกตั้งครั้งสุดท้ายที่ทักษิณชนะเลือกตั้ง ด้วยการกวาดที่นั่งในสภา 377 เสียง จาก 500 เสียง
เลือกตั้ง 2549 ทักษิณยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสิน พรรคประชาวิบัติ รู้ตัวว่าต้องแพ้ราบคาบอีก เลยบอยคอตไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง หลังจากนั้นก็เกิดการรัฐประหาร
เลือกตั้ง 2550 พรรคประชาวิบัติ กระดี๊ กระด๊า กระสันจะลงเลือกตั้งเป็นอย่างยิ่ง เพราะความได้เปรียบจากกติกาใหม่ที่สมาชิกนิติบัญญัติพวกเดียวกันเองปรับเปลี่ยนเขตการเลือกตั้งให้พรรคประชาวิบัติได้เปรียบคู่แข่ง ประการสำคัญคือ นักการเมืองคู่แข่งตัวสำคัญๆ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเรียบวุด เหลือคู่แข่งลงสนามแต่พวกหน้าใหม่ เกรดบี แถวสอง โนเนม แต่ผลเลือกตั้งกลับตาลปัตร เพราะ นักการเมืองโนเนมกวาดที่นั่งมาเป็นอ้นดับหนึ่งในสภาเกือบเกินครึ่ง ทิ้งห่างพรรคประชาวิบัติแบบขาดลอย มองไม่เห็นฝุ่น
เลือกตั้ง 2554 ก่อนนั้นพรรคประชาวิบัติวิ่งราวอำนาจแล้วหลบไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร เล็งเห็นผลแล้วว่าต้องปรับเปลี่ยนกติกาการเลือกตั้งอีกรอบเพื่อความได้เปรียบในการลงสนามเลือกตั้ง ด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง บวกกับ การถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองของนักการเมืองพรรคคู่แข่ง ทั้งเกรดเอ เกรดบี โดนถอดออกจากสนามจนเกลี้ยง แถมมีอำนาจรัฐอยู่ในมือ อัดฉีด ถลุงงบประมาณลงรากหญ้าเต็มที่ ครั้งนี้พรรคประชาวิบัติปิดประตูแพ้ ถึงขนาดหากแพ้เลือกตั้งเทพเทือกจะหนีไปขุดรูอยู่ แต่สุดท้ายพรรคประชาวิบัติก็พ่ายแพ้สมันน้อยอย่างยิ่งลักษณ์ ชินวัตรที่พึ่งกระโดดลงสนามการเมืองเพียง 49 วัน แบบล๊อคถล่ม
เลือกตั้ง 2557 พรรคประชาวิบัติเล็งการไกลมองข้ามช๊อตว่าต้องแพ้อีกเหมือนเดิม เลยบอยคอตไม่ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งอีกเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 8 ปี แต่ที่ร้ายไปกว่าเดิมนั้นก็คือ ไม่ใช่แค่บอยคอต แต่ต้องขัดขวางการเลือกตั้งให้ถึงที่สุด ( แบบที่เขาเรียกว่าลงสนามก็แพ้ เลยพาลพังสนามมันซะเลย )
ใช้วาทะหรูๆ ต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง พามวลชน เดินลงถนน ปิดสถานที่ราชการ ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดความวุ่นวายในประเทศ ไปสู่ดินแดนที่เป็นรัฐลัมเหลว เปิดทางให้เกิดรัฐบาลที่มาจากช่องทางลัดแบบพิเศษ เพื่อมาร่างกติกาใหม่ เอาเปรียบคู่แข่งอีกนั้นเอง เพราะเห็นตัวอย่างการเลือก ส.ว. โมเด็ล คือ สรรคหา ครึ่งหนึ่ง เลือกตั้งครึ่งหนึ่ง ถ้านำระบบนี้มาใช้กับการเลือกตั้ง ส.ส. คราวนี้พรรคประชาวิบัติ ปิดประตูแพ้ ร้อยเปอร์เซนต์
นี้ไงครับ คำตอบอยู่ตรงท้ายนี้เองว่าทำไมต้องปฎิรูปก่อนเลือกตั้ง !!!!