คือ ผมเรียนอยู่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
แล้วระหว่างเรียน ก็ทำทุกอย่างครับ ทั้งกิจกรรมชมรม กิจกรรมคณะ กิจกรรมส่วนมหาลัย(นิดหน่อย) แล้วก็ควบเรียนรักษาเกรดไปด้วย ตอนแรกๆ ก็รู้สึกว่าผมทำได้ แต่พอหลังๆ เริ่มจะไม่ไหวครับ เพราะมันรู้สึกว่าเยอะเกินไป เหมือนขาดอิสระ ไปกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ กับผมเลย
เริ่มจากปัญหาแรก คือ ผมทำกิจกรรมชมรม ตั้งแต่ปี 1 ครับ พอจะถอนตัวออกมา แทนที่จะตัดกันขาดได้ กลับเป็นว่า ผมต้องมาเกี่ยวข้องกับชมรมนั้น มาตลอด ทั้งๆ ที่ผมบอกทุกคนในชมรม ว่า"ขอถอนตัวออกมานะ ช่วงนี้เกรดมันล่วงแปลกๆ กิจกรรมก็ทำมาเกือบอิ่มแล้ว ตอนนี้ขอเพลาๆลงก่อนนะ" แต่ผลที่ตามมาคือ ไม่ว่าจะมีงาน หรือกิจกรรมอะไร คนในชมรมก็มาตามผมไปร่วมตลอด ด้วยเหตุผลที่ ว่า "เรามีคนไม่เยอะ มาช่วยกันหน่อย" สุดท้ายผมก็ต้องไปช่วยอยู่ดี เพราะเล่นลูกน้ำตาไหล เหมือนจะร้องไห้นะครับ(ผมเป็นพวกแพ้น้ำตาผู้หญิงครับ) [ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยปฏิเสธสักครั้งนะครับ ผมทำมาตลอด แต่เขาก็อ้างโน่น อ้างนี้มาตลอด จนผมปฏิเสธไม่ลงสักครั้งเลย]
ปัญหาต่อมา กิจกรรมคณะ เหมือนเคยครับ บทเก่ามาอีกแล้ว เพราะงานมันมักจะเข้าผมตอดเลย ไม่ว่าอยู่ไหน คือ มันก็เหมือนกับทำกิจกรรมชมรมหละครับ คือเวลาที่คณะมีงาน หรือกิจกรรมอะไร เพื่อนก็ไม่เคยที่จะลืมชวนผม ไปช่วยทุกครั้ง ทั้งๆที่ไม่เคยถามว่าตอนนี้ว่างไหม สะดวกไหม อ้างแต่เหตุผลที่ว่า "เรามีคนไม่เยอะ มาช่วยกันหน่อย งานจะได้เสร็จ" [มาแนวเดิมอีกแล้ว] ซึ่งก็เหมือนเดิมครับ ปฏิเสธไม่ลง เพราะผมก็เห็นใจ พวกมันที่ทำงาน ให้ทางคณะ เยอะเหมือนกัน (แต่เวลาได้หน้า พวกมันได้หน้า เพราะผมอยู่เบื้องหลังตลอดครับ)
และปัญหา สุดมหึมา คือปัญหาทางการเรียน ครับ คือผมก็เป็นพวกที่เรียนได้ในระดับปานกลางนะครับ แต่ชอบที่จะถามอาจารย์ ผู้สอน จนคุยกับอาจารย์ได้ในระดับหนึ่ง แล้วผมก็รู้สึกดี เวลาได้คุยกับผู้ใหญ่ ผมรู้สึกว่า เวลาคุยกับอาจารย์แล้ว ผมเหมือนเด็กคนหนึ่งที่ ชอบฟังผู้ใหญ่คุยประสบการณ์ ที่เคยพบมาให้ฟัง และทุกอย่างดูเหมืนจะไปได้สวย แต่ปัญหาก็เกิดตามมา เมื่อ ผมสนิทกับอาจารย์ผู้สอนบางคน จนอาจารย์ให้เบอร์ติดต่อเวลาผมมีปัญหาทางการเรียน ทั้งๆที่ปกติ อาจารย์จะให้กับประธานชั้นปี หรือไม่ก็หัวหน้าห้อง พอผมมีเบอร์อาจารย์แล้ว แทนที่จะได้อยู่แบบสงบสุข กับเหมือนหาเรื่องมาให้ผม อีกเช่นเคย เพราะเวลาที่เพื่อนมันมีปัญหาในเรื่องงาน เรื่องการเรียน เมื่อไหร่ พวกมันก็จะติดต่อผม ให้ผมติดต่อประสานงาน กับอาจารย์ ซึ่งในบางครั้ง มันก็ให้ผมติดต่ออาจารย์ทั้งๆ ที่เวลาที่ติดต่อมันไม่ใช่เวลาที่เหมาะเลย จนบางครั้งผมก็โดนอาจารย์ว่าให้ (ตำหนิเรื่องไม่รู้กาลเทศะ) ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดผมเลย แต่ทำไมผมต้องมาโดนว่าด้วย(ไม่เข้าใจ) ส่วนเรื่องปฏิเสธ ก็เคยทำนะครับ ทำบ่อยด้วย แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม เพราะมัน ก็อ้างว่า ผมนี้แหละ ที่สามารถคุยกับอาจารย์ได้ หรือไม่ก็ผมเป็นคนเดียวที่อาจารย์ยอมบอกทุกอย่าง ทั้งๆที่ พวกมันไม่เคยเลย ไม่เคยที่ จะเข้าไปคุยกับอาจารย์แกสักครั้ง เป็นแบบนี้มาตลอด จนอาจารย์ไม่ว่าทุกคน ยกตำแหน่ง หัวหน้าห้องให้ผมไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่หัวหน้าห้องมันก็มีอยู่แล้ว (แต่หัวหน้าห้องผมก็ไม่เคยสนใจอะไรทั้งนั้น มันสนใจแต่เกรด กับเรื่องของมันนั้นแหละ)
สรุปสุดท้าย ผมรู้สึกว่า ผมเรียนมหาวิทยาลัย นี้ เหมือนผมเรียนอยู่กับเด็ก เด็กที่ไม่ยอมที่จะยอมโต เลย เพราะมันรู้สึกว่า เด็กพวกนี้ มันต้องให้คนช่วยเหลือตลอดเลยหรอ ทำไมต้องมาพึ่งกันด้วย ทั้งๆที่บางครั้งไม่อยากยุ่ง ทำไมต้องหาเรื่องมาให้หนักสมอง หนักใจ อยู่เสมอด้วย ผมก็ไม่เข้าใจ นะ ว่าคนอื่นเขาจะคิดอย่างไรกัน แต่สำหรับผมมันเหมือน ความรู้สึกที่มี มันถูกเก็บเอาไว้ เพราะไม่มีคนที่มาใส่ใจตัวผมสักคนเลย แต่ละคนที่อยู่รอบตัวผม ก็หาแต่ประโยชน์ หรือความสุขใส่แต่ตัวเองทั้งนั้น ในขณะที่เวลามีความทุกข์ก็ เอาผมมาเกี่ยวข้อง จนผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ไปในบางครั้ง
ผมก็เลยอยากถามว่า เคยไหมครับ มีใครที่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้ไหมครับ แล้วจะหาทางแก้ได้ยังไงดีครับ (...)
[แชร์ประสบการณ์ครับ] เคยไหมครับ เคยเจอประสบการณ์แบบนี้ไหมครับ
แล้วระหว่างเรียน ก็ทำทุกอย่างครับ ทั้งกิจกรรมชมรม กิจกรรมคณะ กิจกรรมส่วนมหาลัย(นิดหน่อย) แล้วก็ควบเรียนรักษาเกรดไปด้วย ตอนแรกๆ ก็รู้สึกว่าผมทำได้ แต่พอหลังๆ เริ่มจะไม่ไหวครับ เพราะมันรู้สึกว่าเยอะเกินไป เหมือนขาดอิสระ ไปกับสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ กับผมเลย
เริ่มจากปัญหาแรก คือ ผมทำกิจกรรมชมรม ตั้งแต่ปี 1 ครับ พอจะถอนตัวออกมา แทนที่จะตัดกันขาดได้ กลับเป็นว่า ผมต้องมาเกี่ยวข้องกับชมรมนั้น มาตลอด ทั้งๆ ที่ผมบอกทุกคนในชมรม ว่า"ขอถอนตัวออกมานะ ช่วงนี้เกรดมันล่วงแปลกๆ กิจกรรมก็ทำมาเกือบอิ่มแล้ว ตอนนี้ขอเพลาๆลงก่อนนะ" แต่ผลที่ตามมาคือ ไม่ว่าจะมีงาน หรือกิจกรรมอะไร คนในชมรมก็มาตามผมไปร่วมตลอด ด้วยเหตุผลที่ ว่า "เรามีคนไม่เยอะ มาช่วยกันหน่อย" สุดท้ายผมก็ต้องไปช่วยอยู่ดี เพราะเล่นลูกน้ำตาไหล เหมือนจะร้องไห้นะครับ(ผมเป็นพวกแพ้น้ำตาผู้หญิงครับ) [ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยปฏิเสธสักครั้งนะครับ ผมทำมาตลอด แต่เขาก็อ้างโน่น อ้างนี้มาตลอด จนผมปฏิเสธไม่ลงสักครั้งเลย]
ปัญหาต่อมา กิจกรรมคณะ เหมือนเคยครับ บทเก่ามาอีกแล้ว เพราะงานมันมักจะเข้าผมตอดเลย ไม่ว่าอยู่ไหน คือ มันก็เหมือนกับทำกิจกรรมชมรมหละครับ คือเวลาที่คณะมีงาน หรือกิจกรรมอะไร เพื่อนก็ไม่เคยที่จะลืมชวนผม ไปช่วยทุกครั้ง ทั้งๆที่ไม่เคยถามว่าตอนนี้ว่างไหม สะดวกไหม อ้างแต่เหตุผลที่ว่า "เรามีคนไม่เยอะ มาช่วยกันหน่อย งานจะได้เสร็จ" [มาแนวเดิมอีกแล้ว] ซึ่งก็เหมือนเดิมครับ ปฏิเสธไม่ลง เพราะผมก็เห็นใจ พวกมันที่ทำงาน ให้ทางคณะ เยอะเหมือนกัน (แต่เวลาได้หน้า พวกมันได้หน้า เพราะผมอยู่เบื้องหลังตลอดครับ)
และปัญหา สุดมหึมา คือปัญหาทางการเรียน ครับ คือผมก็เป็นพวกที่เรียนได้ในระดับปานกลางนะครับ แต่ชอบที่จะถามอาจารย์ ผู้สอน จนคุยกับอาจารย์ได้ในระดับหนึ่ง แล้วผมก็รู้สึกดี เวลาได้คุยกับผู้ใหญ่ ผมรู้สึกว่า เวลาคุยกับอาจารย์แล้ว ผมเหมือนเด็กคนหนึ่งที่ ชอบฟังผู้ใหญ่คุยประสบการณ์ ที่เคยพบมาให้ฟัง และทุกอย่างดูเหมืนจะไปได้สวย แต่ปัญหาก็เกิดตามมา เมื่อ ผมสนิทกับอาจารย์ผู้สอนบางคน จนอาจารย์ให้เบอร์ติดต่อเวลาผมมีปัญหาทางการเรียน ทั้งๆที่ปกติ อาจารย์จะให้กับประธานชั้นปี หรือไม่ก็หัวหน้าห้อง พอผมมีเบอร์อาจารย์แล้ว แทนที่จะได้อยู่แบบสงบสุข กับเหมือนหาเรื่องมาให้ผม อีกเช่นเคย เพราะเวลาที่เพื่อนมันมีปัญหาในเรื่องงาน เรื่องการเรียน เมื่อไหร่ พวกมันก็จะติดต่อผม ให้ผมติดต่อประสานงาน กับอาจารย์ ซึ่งในบางครั้ง มันก็ให้ผมติดต่ออาจารย์ทั้งๆ ที่เวลาที่ติดต่อมันไม่ใช่เวลาที่เหมาะเลย จนบางครั้งผมก็โดนอาจารย์ว่าให้ (ตำหนิเรื่องไม่รู้กาลเทศะ) ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดผมเลย แต่ทำไมผมต้องมาโดนว่าด้วย(ไม่เข้าใจ) ส่วนเรื่องปฏิเสธ ก็เคยทำนะครับ ทำบ่อยด้วย แต่สุดท้ายก็เหมือนเดิม เพราะมัน ก็อ้างว่า ผมนี้แหละ ที่สามารถคุยกับอาจารย์ได้ หรือไม่ก็ผมเป็นคนเดียวที่อาจารย์ยอมบอกทุกอย่าง ทั้งๆที่ พวกมันไม่เคยเลย ไม่เคยที่ จะเข้าไปคุยกับอาจารย์แกสักครั้ง เป็นแบบนี้มาตลอด จนอาจารย์ไม่ว่าทุกคน ยกตำแหน่ง หัวหน้าห้องให้ผมไปโดยปริยาย ทั้งๆ ที่หัวหน้าห้องมันก็มีอยู่แล้ว (แต่หัวหน้าห้องผมก็ไม่เคยสนใจอะไรทั้งนั้น มันสนใจแต่เกรด กับเรื่องของมันนั้นแหละ)
สรุปสุดท้าย ผมรู้สึกว่า ผมเรียนมหาวิทยาลัย นี้ เหมือนผมเรียนอยู่กับเด็ก เด็กที่ไม่ยอมที่จะยอมโต เลย เพราะมันรู้สึกว่า เด็กพวกนี้ มันต้องให้คนช่วยเหลือตลอดเลยหรอ ทำไมต้องมาพึ่งกันด้วย ทั้งๆที่บางครั้งไม่อยากยุ่ง ทำไมต้องหาเรื่องมาให้หนักสมอง หนักใจ อยู่เสมอด้วย ผมก็ไม่เข้าใจ นะ ว่าคนอื่นเขาจะคิดอย่างไรกัน แต่สำหรับผมมันเหมือน ความรู้สึกที่มี มันถูกเก็บเอาไว้ เพราะไม่มีคนที่มาใส่ใจตัวผมสักคนเลย แต่ละคนที่อยู่รอบตัวผม ก็หาแต่ประโยชน์ หรือความสุขใส่แต่ตัวเองทั้งนั้น ในขณะที่เวลามีความทุกข์ก็ เอาผมมาเกี่ยวข้อง จนผมไม่เป็นตัวของตัวเอง ไปในบางครั้ง
ผมก็เลยอยากถามว่า เคยไหมครับ มีใครที่เคยเจอประสบการณ์แบบนี้ไหมครับ แล้วจะหาทางแก้ได้ยังไงดีครับ (...)