สวัสดีค่ะ กลับมาแล้ว ^^ กระทู้นี้เราจะมาเล่าให้ฟังถึงชีวิตการเรียนที่นี่ รวมถึงการอยู่ที่บ้านโฮสด้วยค่ะ
อันนี้กระทู้เก่าทั้ง 2 อันค่ะ เผื่อใครพลาด แฮ่ๆ
http://pantip.com/topic/32014835 "เรียนไป เที่ยวไป ใน England #1 >> ตื่นเมืองผู้ดี"
http://pantip.com/topic/32020175 "เที่ยวไป เรียนไป ใน England #2 >> ฮัลโหลว Reading (เรดดิ้ง)"
ตอนนี้เราเรียนภาษาอังกฤษ General English ที่ Eurospeak, Reading ลงเรียนไว้ 9 สัปดาห์ค่ะ
โรงเรียนที่เราเรียนอยู่ใจกลาง Town Center ของเมืองนี้เลย
โรงเรียนอยู่ในซอยข้างๆ Cath Kidston ค่ะ
ครั้งแรกที่เราไปโรงเรียนนี้ ยอมรับค่ะว่าเดินตาม google map แล้วพบว่าเดินเลยโรงเรียน

เพราะตอนแรกเราคาดหวังว่าต้องเป็นตึก ไม่ก็เหมือนโรงเรียนเด็กน้อยเตรียมเข้าโรงเรียนอนุบาลบ้านเรา มีสนามเล็กๆหน้าโรงเรียน
แต่ทว่า...
ทางเข้าเป็นแบบนี้ เล็กๆ เหมือนกับสถาบันสอนพิเศษบ้านเราซะงั้น แล้วต้องเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนค่ะ
เปิดประตูเข้าไป ทางซ้ายมือก็จะเป็นเค้าเตอร์ reception คิดต่อสอบถามได้ทุกเรื่องเลยค่ะ receptionist น่ารัก
ก่อนเข้าเรียนที่นี่ เราต้องทำการทดสอบก่อนเข้าเรียน ข้อสอบทั่วๆไปค่ะมี 120 ข้อ สอบออนไลน์ได้เลย
เพื่อทางโรงเรียนจะได้วัดระดับภาษาเราได้ว่าเราควรเข้าเรียนกับคลาสไหน เลเวลไหนค่ะ
เอารูปห้องเรียนมาฝากค่ะ

ผญ ด้านขวามือคือครูที่สอนคลาสเราค่ะ
ในหนึ่งคลาสจะมีนักเรียนประมาณ 10-15 คนค่ะ ครูจะเป็นคนอังกฤษ แต่เพื่อนๆนักเรียนจะเป็นต่างชาติ
แต่ในคลาสเรามีเพื่อนมาจากไทยคนนึง (แอบโชคดี) เป็นเพื่อนที่น่ารัก ให้คำปรึกษาดีมากเลยค่ะ
(ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าเค้าหยิ่ง แฮ่ๆ)

ทุกคนในคลาส ระดับภาษาจะพอๆกับเราเพราะเค้าก็ต่างเทสกันมาแล้ว
คลาสที่เราเรียนเพื่อนๆทุกคนนิสัยดี ส่วนใหญ่มาจากสเปน อิตาลี่ (เพราะเค้าอยู่ใกล้ ละไม่ต้องทำวีซ่า)
ต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกัน ฝึกทักษะการฟังเป็นเลิศเพราะแต่ละคนมีสำเนียง (accent) เป็นของตัวเองทั้งนั้น
ต่างเชื้อชาติยังไม่พอนะคะ ต่างอายุด้วยค่ะ บางคนก็มีลูกมีสามีแล้วก็มาเรียน เพราะอยากใช้ภาษาอังกฤษได้
เราเรียนแบบ full-time ค่ะ คือเรียนทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30-12.45 จะมีเบรกตอน 11.15 ประมาณ 15 นาที
(ทางโรงเรียนก็จะมีห้องสำหรับให้ชงชา กาแฟ มีคุ้กกี้ให้กิน ช่วงเบรก)
บางคนก็มาเรียนแบบ part-time วันเว้นวัน หรือ อาทิตย์ละสองวัน แต่ว่าเวลาเรียนเดียวกันค่ะ
ทางโรงเรียนมีหนังสือให้นะคะ แต่ถ้ามาเข้าคลาสกลางเทอมแบบเรา ครูก็จะแจกเป็นชีทให้
การสอนที่นี่ค่อนข้างประยุกต์ ทันสมัย เน้นการพูด ซึ่งเราจะได้ฝึก speaking ทุกครั้งที่เข้าเรียนกับเพื่อนที่นั่งข้างๆเรา
ครูก็จะมี topic มาให้เราพูดกันทุกครั้ง ละก็สอดแทรกคำศัพท์ใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆให้เราค่ะ
พูดไม่เก่งไม่ต้องกลัวนะคะ อย่าลืมว่าเพื่อนข้างๆก็ความรู้พอกันกับเรา ใส่เต็มที่เลยค่ะ
เรียนที่นี่มีการบ้านทุกวันค่ะ (น้ำตาจะไหล) แต่ว่าจำทำหรือไม่ทำขึ้นอยู่กับเรา ถ้าเราทำส่งครูก็ตรวจให้
แต่ถ้าไม่ทำ ครูก็ไม่ว่าอะไรเลยค่ะ แต่เราคิดว่าควรจะทำ คลาสนึงเราเสียให้เขา 20-25 ปอนด์/ชั่วโมง
หางานให้เขาทำบ้างก็ดี 5555 (อันนี้เพื่อนคนไทยที่เจอในคลาสเป็นคนพูดค่ะ)
เลิกเรียนบางครั้งก็ไป hang out กันกับเพื่อน เดินเล่นในทาวน์ กินข้าวกลางวัน
เสาร์อาทิตย์เราก็นัดกันกับเพื่อนที่เจอกันที่เรียน ไปเที่ยวเมืองใกล้ๆแถวนี้
บางศุกร์เสาร์ก็มีไปผับบ้าง ไนท์คลับบ้าง
ก็สนุกไปอีกแบบ พบเจอเพื่อนใหม่ ได้ฝึกภาษาจริงๆค่ะ

มาเรียนก็อย่าลืมพกอุปกรณ์เครื่องเขียน สมุด ละก็แฟ้มเก็บเอกสารมาด้วยนะคะ

มาต่อกันที่บ้านโฮสบ้างดีกว่า
เราเลือกอยู่กับโฮสแค่ 1 เดือนแรกก่อน เพราะคิดว่าถ้าเราไม่ชอบเราก็สามารถย้ายออกได้อย่างไม่ลำบากใจ
รวมถึงค่าใช้จ่ายการอยู่บ้านโฮสค่อนข้างแพงต่อ 1 เดือน คิดเผื่อว่าอาจจะเจอเพื่อนละย้ายออกมาอยู่กับเพื่อนแทน
แต่ว่าชีวิตในการอยู่บ้านโฮส ตอนแรกแอบกลัวนะคะ กลัวว่าเค้าจะค่อนข้างระเบียบจัด
แต่อันที่จริงแล้วสุขสบายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

โฮสดูแลเราทุกเรื่อง อาหารเช้า ทำอาหารเย็น ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน ทำให้หมดทุกอย่างเลย
ที่บ้านมีอินเตอร์เน็ตให้พร้อมเลยค่ะ
เรามีห้องนอนส่วนตัว ละก็สามารถใช้ครัวเขาได้อย่างเต็มที่ ที่บ้านจะมีอาหารสด/แช่เเข็ง/ขนม กักตุนไว้ให้เพียบค่ะ
เอารูปบ้านโฮสมาฝากค่ะ

เป็นบ้านเล็กๆน่ารักๆ

อันนี้เป็นห้องนอนเราค่ะ เป็นเตียง 2 ชั้น แต่ว่าเราอยู่คนเดียว
ในห้องนอนมีฮีตเตอร์ให้ ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ โต๊ะเขียนหนังสือ(คอม) สบายเลยค่ะ
เราโชคดีได้โฮสใจดีค่ะ เค้าเป็นคนมีระเบียบ แต่ว่าเป็นกันเอง
เราไปดูหนังกัน ขับรถเล่น จิบชายามเย็นกับครอบครัวเค้า
ให้คำปรึกษาเราทุกเรื่อง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบทุกวันเป็นอย่างดี
ให้เวลาส่วนตัวกันเราเต็มที่เลยค่ะ ถ้าเราอยู่ในห้องเรา เค้าก็จะไม่มารบกวนเลย
อีกอย่างเราอยู่กับโฮสแค่ 2 คนเองด้วย โฮสเป็น ผญ ตัวคนเดียวในบ้านค่ะ
แต่ติดตรงที่บ้านโฮสเราค่อนข้างไกลจากที่เรียน ต้องนั่งรถบัสประมาณ 20-30 นาทีเข้าทาวน์ค่ะ
แถวบริเวณบ้าน/หมู่บ้าน ค่อนข้างเงียบ คนที่นี่ส่วนใหญ่อยู่กันแต่ในบ้าน ไม่ค่อยออกมาสุงสิงกันเท่าไหร่
ส่วนใหญ่กลับจากเรียนเราก็ใช้ชีวิตอยู่หน้าคอมฯ

tips เล็กๆน้อยๆ ที่เรามาอยู่บ้านโฮสค่ะ
- เค้าค่อนข้างสะอาด เราต้องพยายามรักษาความสะอาดนิดนึง
- ห้องน้ำที่นี่ส่วนใหญ่ จะอาบแบบฝักบัวในอ่างอาบน้ำ ซึ่งพื้นที่ส่วนอื่นนอกจากอ่างอาบน้ำจะแห้งสนิท
เวลาอาบน้ำทีนึง ต้องระวังไม่ให้น้ำกระเด็นสุดฤทธิ์ค่ะ
- ที่นี่ดื่มน้ำประปาได้เลย แต่จะมีเหยือกที่กรองน้ำได้ ก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นไปอีก

แอบเพิ่มเรื่องสัพเพเหระ นิดนึงนะคะ >/////<
เราได้ไปลอง English Breakfast มาด้วยแหละค่ะ
ต่างจาก American Breakfast ค่ะ ที่นี่เป็น ไส้กรอก (sausage) ไม่ใช่ฮอทดอก (Hot Dog)
มีมะเขือเทศย่าง (grilled tomato) ถั่วขาวในซอสมะเขือเทศ (baked beans) มันฝรั่งทอด (hash browns) รูปสามเหลี่ยมๆ
เสิร์ฟพร้อมชา หรือ กาแฟ แล้วก็ toast ค่ะ
รวมๆแล้วเราให้ 3 ดาวค่ะ เนื่องจากเราไม่ชอบ baked beans รู้สึกเหมือนกำลังกินเต้าเจี้ยวที่มีรสหวานๆเปรี้ยวๆ
ละเบคอนก็เค็มเอามากๆ แต่เรารู้มาเบคอนที่นี่ ส่วนใหญ่แล้วจะเค็ม คงต้องหลักเลี่ยงค่ะ ถ้าไม่ชอบกินเค็ม
แต่ที่เราชอบคือ hash browns ค่ะ ชอบมาก ถึงมากที่สุด ><
English Breakfast ก็มีขายตามร้าน breakfast ทั่วๆไปนะคะ แต่จำราคาไม่ได้แย้ว

แฮ่ๆ
ตามมาด้วยเมนูนี้เลยค่ะ แอบเป็นของใหม่มากสำหรับเรากับเมนูที่เรียกว่า Panini ค่ะ
คล้ายๆกับ sandwich เป็นขนมปังไม่แข็งละไม่นุ่มจนเกินไป เอาไปย่าง แล้วสอดไส้ได้ตามใจเราชอบค่ะ
แต่ในภาพเป็น Tuna Melt ค่ะ จะมีชีสในนั้นด้วย กัดทียืดเชียว เราทานกับช๊อกโกแลตร้อนในตอนเช้า
เป็นเมนูที่เราหลงรักเลยทีเดียวค่ะ โชคดีที่ลองของแปลก ใหม่ แล้วถูกใจ ยังไงใครมาที่นี่ก็ลองทานดูนะคะ
ราคา Panini จานนี้อยู่ที่ 5 ปอนด์ต้นๆค่ะ
แต่ครั้งนี้เราทานที่คาเฟ่ใน Longacres Garden Centre ใน Bagshot, Surrey ค่ะ พอดีมีโอกาสไปที่นั่น
เป็นเหมือนร้านขายดอกไม้ต้นไม้ขนาดใหญ่(มาก) รวมถึงอุปกรณ์ทำสวน ทั้งยังมีร้านอาหาร
แล้วก็ supermarket เกี่ยวกับของตกแต่งภายในบ้าน อาหาร/ขนม จากฟาร์มค่ะ บรรยากาศดีมากๆค่ะ
ส่วนใหญ่มีแต่ผู้สูงอายุเกษียรวัย มาหาซื้อต้นไม้ดอกไม้ไว้ปลูกยามว่างค่ะ
สำหรับคนรักดอกไม้ต้นไม้ ที่นี่เหมือนสวรรค์เลย
มีรูปมาฝากด้วยค่ะ

ตอนนี้เราค้นพบร้านประจำร้านใหม่ตอนเบรกจากเรียนแล้วก็คือ GREGGS มีพายอร่อยๆขายเพียบเลย
สำหรับคนชอบทานพาย อร่อย และราคาไม่แพงค่ะ ชิ้นนึง 1 ปอนด์นิดๆเอง

วันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เรามีโอกาสไปเดิน Blackbushe Sunday Market ด้วยค่ะ อยู่ใน Camberley, Surrey
เป็นเหมือน ตลาดนัด / เปิดท้ายขายของบ้านเรา เปิดสายๆ จนถึงบ่ายๆ มีของขายทู๊กอย่างเลย ราคาก็ไม่แพงมาก
แล้วก็มีร้านอาหารเช้าบริการทั่วตลาดเลยค่ะ บรรยากาศก็ตามภาพ
เห็นคำว่า Bacon Rolls ในภาพมั้ยคะ คิดว่าเป็นแป้งม้วนๆที่มีเบคอนอยู่ในนั้นกันใช่มั้ย ??
แต่ คุณคิดผิดอีกล่ะค่ะ เราเองก็คิดผิด ตอนซื้อ คนขายส่งแป้งกลมๆมีเบคอนตรงกลางเหมือนเบอร์เกอร์ให้
ก็ งงๆ ว่าเอ๊ะเราสั่ง rolls ไม่ใช่ burger แต่นั่นแหละค่ะ คือสิ่งที่เค้าเรียกว่า rolls ที่ UK

(ตามรูป)

ส่วนใหญ่แล้วอาหารที่นี่ ถ้า eat in / dine in (ทานที่นี่) จะราคาสูงกว่า take away (กลับบ้าน) ค่ะ
ซึ่งต่างจากไทยโดยสิ้นเชิง ลองสั่งกลับบ้านคิดค่ากล่องเพิ่มอีก
แต่ที่นี่ถ้าทานที่ร้านจะแพงเพราะเค้าชาร์ตค่าบริการด้วย
>>> กระทู้หน้าจะพาไปเที่ยวนะคะ ไปง่ายๆ ใกล้ๆ Reading นี่เองค่ะ <<<
# ขอบคุณมากๆสำหรับการติดตามนะคะ
# มีข้อสงสัยสอบถามได้หลังไมค์ได้เลยจ้า
เรียนไป เที่ยวไป ใน England #3 >> ที่อยู่ ที่เรียน
อันนี้กระทู้เก่าทั้ง 2 อันค่ะ เผื่อใครพลาด แฮ่ๆ
http://pantip.com/topic/32014835 "เรียนไป เที่ยวไป ใน England #1 >> ตื่นเมืองผู้ดี"
http://pantip.com/topic/32020175 "เที่ยวไป เรียนไป ใน England #2 >> ฮัลโหลว Reading (เรดดิ้ง)"
ตอนนี้เราเรียนภาษาอังกฤษ General English ที่ Eurospeak, Reading ลงเรียนไว้ 9 สัปดาห์ค่ะ
โรงเรียนที่เราเรียนอยู่ใจกลาง Town Center ของเมืองนี้เลย
โรงเรียนอยู่ในซอยข้างๆ Cath Kidston ค่ะ
ครั้งแรกที่เราไปโรงเรียนนี้ ยอมรับค่ะว่าเดินตาม google map แล้วพบว่าเดินเลยโรงเรียน
เพราะตอนแรกเราคาดหวังว่าต้องเป็นตึก ไม่ก็เหมือนโรงเรียนเด็กน้อยเตรียมเข้าโรงเรียนอนุบาลบ้านเรา มีสนามเล็กๆหน้าโรงเรียน
แต่ทว่า...
ทางเข้าเป็นแบบนี้ เล็กๆ เหมือนกับสถาบันสอนพิเศษบ้านเราซะงั้น แล้วต้องเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนค่ะ
เปิดประตูเข้าไป ทางซ้ายมือก็จะเป็นเค้าเตอร์ reception คิดต่อสอบถามได้ทุกเรื่องเลยค่ะ receptionist น่ารัก
ก่อนเข้าเรียนที่นี่ เราต้องทำการทดสอบก่อนเข้าเรียน ข้อสอบทั่วๆไปค่ะมี 120 ข้อ สอบออนไลน์ได้เลย
เพื่อทางโรงเรียนจะได้วัดระดับภาษาเราได้ว่าเราควรเข้าเรียนกับคลาสไหน เลเวลไหนค่ะ
เอารูปห้องเรียนมาฝากค่ะ
ผญ ด้านขวามือคือครูที่สอนคลาสเราค่ะ
ในหนึ่งคลาสจะมีนักเรียนประมาณ 10-15 คนค่ะ ครูจะเป็นคนอังกฤษ แต่เพื่อนๆนักเรียนจะเป็นต่างชาติ
แต่ในคลาสเรามีเพื่อนมาจากไทยคนนึง (แอบโชคดี) เป็นเพื่อนที่น่ารัก ให้คำปรึกษาดีมากเลยค่ะ
(ซึ่งตอนแรกเราคิดว่าเค้าหยิ่ง แฮ่ๆ)
ทุกคนในคลาส ระดับภาษาจะพอๆกับเราเพราะเค้าก็ต่างเทสกันมาแล้ว
คลาสที่เราเรียนเพื่อนๆทุกคนนิสัยดี ส่วนใหญ่มาจากสเปน อิตาลี่ (เพราะเค้าอยู่ใกล้ ละไม่ต้องทำวีซ่า)
ต้องใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกัน ฝึกทักษะการฟังเป็นเลิศเพราะแต่ละคนมีสำเนียง (accent) เป็นของตัวเองทั้งนั้น
ต่างเชื้อชาติยังไม่พอนะคะ ต่างอายุด้วยค่ะ บางคนก็มีลูกมีสามีแล้วก็มาเรียน เพราะอยากใช้ภาษาอังกฤษได้
เราเรียนแบบ full-time ค่ะ คือเรียนทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.30-12.45 จะมีเบรกตอน 11.15 ประมาณ 15 นาที
(ทางโรงเรียนก็จะมีห้องสำหรับให้ชงชา กาแฟ มีคุ้กกี้ให้กิน ช่วงเบรก)
บางคนก็มาเรียนแบบ part-time วันเว้นวัน หรือ อาทิตย์ละสองวัน แต่ว่าเวลาเรียนเดียวกันค่ะ
ทางโรงเรียนมีหนังสือให้นะคะ แต่ถ้ามาเข้าคลาสกลางเทอมแบบเรา ครูก็จะแจกเป็นชีทให้
การสอนที่นี่ค่อนข้างประยุกต์ ทันสมัย เน้นการพูด ซึ่งเราจะได้ฝึก speaking ทุกครั้งที่เข้าเรียนกับเพื่อนที่นั่งข้างๆเรา
ครูก็จะมี topic มาให้เราพูดกันทุกครั้ง ละก็สอดแทรกคำศัพท์ใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆให้เราค่ะ
พูดไม่เก่งไม่ต้องกลัวนะคะ อย่าลืมว่าเพื่อนข้างๆก็ความรู้พอกันกับเรา ใส่เต็มที่เลยค่ะ
เรียนที่นี่มีการบ้านทุกวันค่ะ (น้ำตาจะไหล) แต่ว่าจำทำหรือไม่ทำขึ้นอยู่กับเรา ถ้าเราทำส่งครูก็ตรวจให้
แต่ถ้าไม่ทำ ครูก็ไม่ว่าอะไรเลยค่ะ แต่เราคิดว่าควรจะทำ คลาสนึงเราเสียให้เขา 20-25 ปอนด์/ชั่วโมง
หางานให้เขาทำบ้างก็ดี 5555 (อันนี้เพื่อนคนไทยที่เจอในคลาสเป็นคนพูดค่ะ)
เลิกเรียนบางครั้งก็ไป hang out กันกับเพื่อน เดินเล่นในทาวน์ กินข้าวกลางวัน
เสาร์อาทิตย์เราก็นัดกันกับเพื่อนที่เจอกันที่เรียน ไปเที่ยวเมืองใกล้ๆแถวนี้
บางศุกร์เสาร์ก็มีไปผับบ้าง ไนท์คลับบ้าง
ก็สนุกไปอีกแบบ พบเจอเพื่อนใหม่ ได้ฝึกภาษาจริงๆค่ะ
เราเลือกอยู่กับโฮสแค่ 1 เดือนแรกก่อน เพราะคิดว่าถ้าเราไม่ชอบเราก็สามารถย้ายออกได้อย่างไม่ลำบากใจ
รวมถึงค่าใช้จ่ายการอยู่บ้านโฮสค่อนข้างแพงต่อ 1 เดือน คิดเผื่อว่าอาจจะเจอเพื่อนละย้ายออกมาอยู่กับเพื่อนแทน
แต่ว่าชีวิตในการอยู่บ้านโฮส ตอนแรกแอบกลัวนะคะ กลัวว่าเค้าจะค่อนข้างระเบียบจัด
แต่อันที่จริงแล้วสุขสบายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โฮสดูแลเราทุกเรื่อง อาหารเช้า ทำอาหารเย็น ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน ทำให้หมดทุกอย่างเลย
ที่บ้านมีอินเตอร์เน็ตให้พร้อมเลยค่ะ
เรามีห้องนอนส่วนตัว ละก็สามารถใช้ครัวเขาได้อย่างเต็มที่ ที่บ้านจะมีอาหารสด/แช่เเข็ง/ขนม กักตุนไว้ให้เพียบค่ะ
เอารูปบ้านโฮสมาฝากค่ะ
เป็นบ้านเล็กๆน่ารักๆ
อันนี้เป็นห้องนอนเราค่ะ เป็นเตียง 2 ชั้น แต่ว่าเราอยู่คนเดียว
ในห้องนอนมีฮีตเตอร์ให้ ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ โต๊ะเขียนหนังสือ(คอม) สบายเลยค่ะ
เราโชคดีได้โฮสใจดีค่ะ เค้าเป็นคนมีระเบียบ แต่ว่าเป็นกันเอง
เราไปดูหนังกัน ขับรถเล่น จิบชายามเย็นกับครอบครัวเค้า
ให้คำปรึกษาเราทุกเรื่อง ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบทุกวันเป็นอย่างดี
ให้เวลาส่วนตัวกันเราเต็มที่เลยค่ะ ถ้าเราอยู่ในห้องเรา เค้าก็จะไม่มารบกวนเลย
อีกอย่างเราอยู่กับโฮสแค่ 2 คนเองด้วย โฮสเป็น ผญ ตัวคนเดียวในบ้านค่ะ
แต่ติดตรงที่บ้านโฮสเราค่อนข้างไกลจากที่เรียน ต้องนั่งรถบัสประมาณ 20-30 นาทีเข้าทาวน์ค่ะ
แถวบริเวณบ้าน/หมู่บ้าน ค่อนข้างเงียบ คนที่นี่ส่วนใหญ่อยู่กันแต่ในบ้าน ไม่ค่อยออกมาสุงสิงกันเท่าไหร่
ส่วนใหญ่กลับจากเรียนเราก็ใช้ชีวิตอยู่หน้าคอมฯ
- เค้าค่อนข้างสะอาด เราต้องพยายามรักษาความสะอาดนิดนึง
- ห้องน้ำที่นี่ส่วนใหญ่ จะอาบแบบฝักบัวในอ่างอาบน้ำ ซึ่งพื้นที่ส่วนอื่นนอกจากอ่างอาบน้ำจะแห้งสนิท
เวลาอาบน้ำทีนึง ต้องระวังไม่ให้น้ำกระเด็นสุดฤทธิ์ค่ะ
- ที่นี่ดื่มน้ำประปาได้เลย แต่จะมีเหยือกที่กรองน้ำได้ ก็รู้สึกปลอดภัยขึ้นไปอีก
เราได้ไปลอง English Breakfast มาด้วยแหละค่ะ
ต่างจาก American Breakfast ค่ะ ที่นี่เป็น ไส้กรอก (sausage) ไม่ใช่ฮอทดอก (Hot Dog)
มีมะเขือเทศย่าง (grilled tomato) ถั่วขาวในซอสมะเขือเทศ (baked beans) มันฝรั่งทอด (hash browns) รูปสามเหลี่ยมๆ
เสิร์ฟพร้อมชา หรือ กาแฟ แล้วก็ toast ค่ะ
รวมๆแล้วเราให้ 3 ดาวค่ะ เนื่องจากเราไม่ชอบ baked beans รู้สึกเหมือนกำลังกินเต้าเจี้ยวที่มีรสหวานๆเปรี้ยวๆ
ละเบคอนก็เค็มเอามากๆ แต่เรารู้มาเบคอนที่นี่ ส่วนใหญ่แล้วจะเค็ม คงต้องหลักเลี่ยงค่ะ ถ้าไม่ชอบกินเค็ม
แต่ที่เราชอบคือ hash browns ค่ะ ชอบมาก ถึงมากที่สุด ><
English Breakfast ก็มีขายตามร้าน breakfast ทั่วๆไปนะคะ แต่จำราคาไม่ได้แย้ว
ตามมาด้วยเมนูนี้เลยค่ะ แอบเป็นของใหม่มากสำหรับเรากับเมนูที่เรียกว่า Panini ค่ะ
คล้ายๆกับ sandwich เป็นขนมปังไม่แข็งละไม่นุ่มจนเกินไป เอาไปย่าง แล้วสอดไส้ได้ตามใจเราชอบค่ะ
แต่ในภาพเป็น Tuna Melt ค่ะ จะมีชีสในนั้นด้วย กัดทียืดเชียว เราทานกับช๊อกโกแลตร้อนในตอนเช้า
เป็นเมนูที่เราหลงรักเลยทีเดียวค่ะ โชคดีที่ลองของแปลก ใหม่ แล้วถูกใจ ยังไงใครมาที่นี่ก็ลองทานดูนะคะ
ราคา Panini จานนี้อยู่ที่ 5 ปอนด์ต้นๆค่ะ
แต่ครั้งนี้เราทานที่คาเฟ่ใน Longacres Garden Centre ใน Bagshot, Surrey ค่ะ พอดีมีโอกาสไปที่นั่น
เป็นเหมือนร้านขายดอกไม้ต้นไม้ขนาดใหญ่(มาก) รวมถึงอุปกรณ์ทำสวน ทั้งยังมีร้านอาหาร
แล้วก็ supermarket เกี่ยวกับของตกแต่งภายในบ้าน อาหาร/ขนม จากฟาร์มค่ะ บรรยากาศดีมากๆค่ะ
ส่วนใหญ่มีแต่ผู้สูงอายุเกษียรวัย มาหาซื้อต้นไม้ดอกไม้ไว้ปลูกยามว่างค่ะ
สำหรับคนรักดอกไม้ต้นไม้ ที่นี่เหมือนสวรรค์เลย
มีรูปมาฝากด้วยค่ะ
ตอนนี้เราค้นพบร้านประจำร้านใหม่ตอนเบรกจากเรียนแล้วก็คือ GREGGS มีพายอร่อยๆขายเพียบเลย
สำหรับคนชอบทานพาย อร่อย และราคาไม่แพงค่ะ ชิ้นนึง 1 ปอนด์นิดๆเอง
วันอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เรามีโอกาสไปเดิน Blackbushe Sunday Market ด้วยค่ะ อยู่ใน Camberley, Surrey
เป็นเหมือน ตลาดนัด / เปิดท้ายขายของบ้านเรา เปิดสายๆ จนถึงบ่ายๆ มีของขายทู๊กอย่างเลย ราคาก็ไม่แพงมาก
แล้วก็มีร้านอาหารเช้าบริการทั่วตลาดเลยค่ะ บรรยากาศก็ตามภาพ
เห็นคำว่า Bacon Rolls ในภาพมั้ยคะ คิดว่าเป็นแป้งม้วนๆที่มีเบคอนอยู่ในนั้นกันใช่มั้ย ??
แต่ คุณคิดผิดอีกล่ะค่ะ เราเองก็คิดผิด ตอนซื้อ คนขายส่งแป้งกลมๆมีเบคอนตรงกลางเหมือนเบอร์เกอร์ให้
ก็ งงๆ ว่าเอ๊ะเราสั่ง rolls ไม่ใช่ burger แต่นั่นแหละค่ะ คือสิ่งที่เค้าเรียกว่า rolls ที่ UK
ซึ่งต่างจากไทยโดยสิ้นเชิง ลองสั่งกลับบ้านคิดค่ากล่องเพิ่มอีก
แต่ที่นี่ถ้าทานที่ร้านจะแพงเพราะเค้าชาร์ตค่าบริการด้วย
>>> กระทู้หน้าจะพาไปเที่ยวนะคะ ไปง่ายๆ ใกล้ๆ Reading นี่เองค่ะ <<<
# ขอบคุณมากๆสำหรับการติดตามนะคะ
# มีข้อสงสัยสอบถามได้หลังไมค์ได้เลยจ้า