[CR] Review : ChikaLicious & ISSAYA La Pâtisserie - 2 ร้านขนมหวานเปิดใหม่ใน Central Embassy

พอดีผมเป็นคนชอบตามกระแส เลยไปลองเดินห้างใหม่ Central Embassy มาครับ ห้างเพิ่งเปิดได้ไม่กี่วัน บางส่วนก็ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดี แต่คนเต็มเลย อันที่จริงเป้าหมายหลักของผมก็คือ อาหารการกินในตัวห้างนั่นเอง มีหลายร้านที่ผมเล็งๆไว้ตั้งแต่ก่อนห้างจะเปิด วันนี้ได้ไปลองทานขนมมา 2 ร้าน คือ ChikaLicious กับร้าน ISSAYA La Pâtisserie เลยเอาภาพมาฝากครับ


ทั้งสองร้านเป็นร้านขนมเปิดใหม่ก็จริง แต่ก็แบรนด์และ concept ของร้านไม่ได้ใหม่ถอดด้ามเสียทีเดียว ที่จริง  ChikaLicious เป็น Dessert Bar ชื่อดังใน NewYork ของเชฟขนมขาวญี่ปุ่นชื่อ Chika Tillman และ Don Tillman สามีของเชฟ Chika เป็น Sommelier ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ concept ร้านที่ทั้งสองร่วมกันทำก็เลยออกมาเป็น Dessert Bar โดยเชฟ Chika ทำขนมและ  Don เป็นคนจัด pairing wine ให้ (ส่วนที่มาของสาขาประเทศไทยนี่ ผมเดาเอาว่าน่าจะมีคนไทยไปซื้อสูตรขนมตัว signature กับ concept ร้านมาเปิดสาขาที่ไทย)  


ส่วนชื่อของ ISSAYA หลาย ๆ คนคงคุ้นหูอยู่แล้ว เพราะเป็นร้านอาหารไทยในซอยเชื้อเพลิง โดยมี เชฟเอียน – เชฟกระทะเหล็กประเทศไทยเป็นเจ้าของร้าน ตอนนี้ร้านอาหารไทย ISSAYA Siamese Club เปิดร้านขนมเพิ่มที่  Central Embassy โดย concept ก็ยังเอาความเป็นไทยมาประยุกต์เช่นเคย คือทำขนมฝรั่งด้วยวัตถุดิบไทย ๆ


ผมไปห้างตั้งแต่ตอน 10 โมงกว่า ๆ การเดินทางลงรถไฟฟ้าสถานีเพลินจิต มี skywalk เชื่อมเข้าไปในตัวห้างเลยครับ



มาถึงหน้าร้าน ChikaLicious แล้วเพิ่งรู้ว่าเค้าเปิดตอนเที่ยงตรง และมีช่วงหยุดตอนบ่ายด้วย (จำเวลาเปิดตอนเย็นไม่ได้) เลยไปเดินโต๋เต๋ฆ่าเวลา



ชั้น 5 ของ Central Embassy มีร้านอาหารอื่น ๆ น่าไปลองเต็มไปหมดเลยครับ ใกล้ ๆ ร้าน ChikaLicious มีร้าน  ROCKET coffee bar ร้านดังจากย่านสาทรมาเปิดร้านด้วย



มีร้าน sushi ที่เห็นคนญี่ปุ่นเดินเข้าออกเยอะเหมือนกัน ชื่อ HINATA



ร้านหม้อไฟ Nabesou



มีร้านใหม่จากเครือ Water Library ด้วยครับ



ISSAYA La Pâtisserie ก็อยู่ชั้นเดียวกัน



อันนี้ไม่ได้อยู่ชั้น 5 แต่เป็นอีกร้านที่ผมตั้งตารอให้มันเปิดไว ๆ ร้านราเมน Ippudo  นั่นเอง อยากให้ถึงเดือนกค.เร็ว ๆ จัง




ได้เวลาก็กลับมาที่ร้าน ChikaLicious ร้านมีที่นั่งไม่เยอะ กลางร้านมี Counter bar เป็นรูปตัว U เราจะเห็นเชฟประดิษฐ์ประดอยขนมแต่ละจานต่อหน้าต่อตาเลยครับ เชฟหลังเคาท์เตอร์เป็นมิตรและ informative มาก ๆ งานยุ่งมือระวิงแต่ก็อุตส่าห์หันมาอธิบาย concept กับวิธีการสั่งอาหารด้วย ประทับใจสุด ๆ



เมนูช่วงเที่ยงจะเป็น 3 course Dessert Prix Fixe ราคา 400B ( Paring Wine เพิ่มเงิน 250B) โดยเราสามารถเลือกขนมตัว main ได้ 1 อย่าง ส่วนขนมตัวเปิดมื้อ (Amuse Bouche) กับขนมปิดท้ายมื้อ (Petit four) ทางเชฟจะจัดมาให้และเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในแต่ละวัน



เปิดมื้อด้วย Amuse Bouche ของวันนี้ เป็นเยลลี่กาแฟ โปะทับด้วยไอศครีมวนิลลา ตัวเยลลี่มีรสกาแฟชัดเจนและไม่หวาน กินคู่กับไอศกรีมหวานมันแล้วอร่อยลงตัว รสคล้าย affogato แต่เป็นรูปแบบของไอศครีมเยลลีแทน



มาถึงจานหลัก พวกผมกับเพื่อนไปกัน 4 คน ลองสั่งคนละอย่าง ไม่ซ้ำกัน เริ่มด้วยจานของเพื่อนผม โดมสีขาวบนจานรองน้ำแข็งที่เห็นนี้เป็นขนม signature ของร้าน  ChikaLicious มันคือ Fromage Blanc Island 'Cheese Cake' หรือโดมชีสเค้กเนื้อฟูนุ่ม ราดด้วยซอสครีม แอบชิมไปคำนึงเนื้อฟูเบาละมุนลิ้นมาก ๆ แต่ถ้าใครชอบแบบชีสเค้กเข้มข้นอาจจะไม่ถูกใจเท่าไร



จานนี้ของเพื่อนเช่นกัน เป็นอีกหนึ่งใน  signature ของร้าน Warm Chocolate Tart with Pink Peppercorn Ice Cream and Red Wine sauce ทาร์ตชอกโกแลตกับไอศกรีมพริกไทย ตัวไส้ทาร์ตชอกโกแลตตรงกลางยังเหลวอยู่หน่อย ๆ พอตัดออกมาเหมือน warm lava cake เลย ตัวไอศกรีมพริกไทยก็อร่อยมากๆ   (Pink Peppercorn เป็นพริกไทยที่ร้านขนมหลายร้านนิยมเอามาทำขนมครับ อย่าง La Duree ก็เอามาทำเป็น macaron )



อีกจานของเพื่อนเป็น Kiwi Tartare with Lavender on Crispy Kataifi and Coconut Sorbet เรียกง่าย ๆ ว่าเป็น กีวี่หั่นเต๋าคลุกกับน้ำเชื่อมลาเวนเดอร์ ส่วน Kataifi ที่รองไว้ด้านล่างเป็น pastry ของทาง  Middle East หน้าตาละม้ายคล้ายหมี่กรอบบ้านเรา เจ้าแท่งยาว ๆ ที่วางพาดมาด้านบนเป็น Earl Grey stick หอมกรอบ อร่อยมาก ครับ



จานนี้ของผมเอง Honey Parfait in Pineapple Gazpacho with Cilantro Syrup and Lace Tuile แปลง่าย ๆ ว่าเป็นไอศครีมรสน้ำผึ้ง ในซอสเย็นที่ทำจากสัปปะรดและผักชี โปะหน้าด้วยคาราเมลกรอบ



ผมสั่ง wine pairing มาด้วยครับ ได้เป็น sparkling wine : Peter Lehmann Moscato  รสหวาน crisp อร่อยมาก (อยากได้อีกแก้ว  555 )



ทานแล้วเข้าคู่กันดีครับ สรุปแบบสั้น ๆ สำหรับร้าน  ChikaLicious นี่ผมค่อนข้างประทับใจเลยทีเดียว มีโอกาสจะกลับไปใช้บริการอีกแน่ ๆ ครับ  ขนมสร้างสรรค์แปลกใหม่ แต่ละจาน component เยอะ ปรุงอย่างประณีตบรรจงและสดใหม่ คือหลังจากเราสั่งแล้วถึงจะเริ่มทำ ถ้าจะมีข้อเสียก็คือ ความประณีตและการปรุงสดใหม่ไม่ทำทิ้งไว้นี่แหละครับ ที่ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างมากสักหน่อย (อ่านจากกระทู้เก่า ๆ ของคุณ Mono Loco ที่เคยไปทานสาขา NY เค้าบอกว่าสาขาNY ก็ออกไปทาง chill ๆ นะ เจ๊ Chika  ค่อย ๆ ทำอย่างใจเย็นไม่แคร์ลูกค้าที่ต่อคิว และทำประตู 2 ชั้นลงล็อกไว้เลย ถ้าลูกค้าที่นั่งอยู่ยังไม่ออกไป คนใหม่ก็ไม่ได้เข้ามา)



ปิดท้ายมื้อด้วย Petit Four ประกอบด้วย  Marshmallow มะพร้าว, Chocolate tart และ Rum balls




แล้วก็ออกมาต่อกันที่ร้าน ISSAYA La Pâtisserie ขนมหน้าตู้สวยงาม ละลานตามากๆ presentation ว่าเจ๋งแล้ว conceptแน่นปึ๊กของขนมที่แฝงความเป็นไทยเข้าไปก็เท่ห์มาก ๆ  ชื่อขนมมีความเป็นไทยแฝงแทบทุกชิ้นเลยครับ



ขึ้นชื่อว่าร้านขนมโดยร้านอาหารไทย Macaron ร้านนี้ก็ย่อมเป็นรสไทย ๆ มีให้เลือกเยอะมาก



อันนี้เป็นตัวที่ผมชอบสุดในมื้อเลย ขนมจากกาแฟไทยโบราณ ชื่อว่า Yok Lor หรือ ยกล้อ คือกาแฟโบราณใส่นมนั่นเอง ฐานเป็นคุกกี้ช็อกโกแลต ถัดมาเป็น Ganache กาแฟและครีมคาราเมล หอมมัน รสกาแฟหนักแน่น อร่อยมาก ๆ แล้วยังออกแบบเป็นวงล้อตามชื่อกาแฟอีกต่างหาก creative ได้ใจ



CCC ( ทีแรกผมเรียก ซีซีซี แต่มาได้ยินที่ร้านเรียกว่า Tripple C ตอนหลัง -__-' )  เป็น Mousse Chocolate ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ (Cashew Nut) และ Cookie



ตัวนี้ชื่อว่า Lady Bug (ทำไมผมเห็นแล้วนึกถึง Spider Man -*- ) เป็นโดมครีมชีสเข้มข้นไส้เยลลีลูกหม่อน เปรี้ยวหวานสดชื่นลงตัว หน้าตาน่ารักและรสชาติดี



Macaron มาลองซะหน่อย สีชมพูเป็นรสทับทิมกรอบ (ได้กลิ่นสละๆเหมือนทับทิมกรอบ และมีเนื้อแห้วใส่ข้างในด้วย) สีเหลืองเป็นรสข้าวหอมมะลิ และสีเขียวเป็นข้าวเม่า อร่อย ได้รสชาติแบบไทย ๆ ชัดเจนทุกชิ้นเลยครับ



สั่ง Sorbet มะขามมาลอง 1 ถ้วย รสมะขามหนักแน่นมาก เหมือนกำลังกินมะขามจริง ๆ เลย



ร้าน ISSAYA La Pâtisserie ยังมีขนมน่าสนใจอีหลายตัวเลย อยากลับไปลองขนมตัวอื่น ๆ อีก



เป็นอันจบรีวิวฉบับนี้แต่เพียงเท่านี้ ไว้วันหลังจะเอาภาพอาหารร้านอื่น ๆ มาฝากกันอีก ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบนะครับ
ชื่อสินค้า:   3 course Dessert Prix Fixe, Lady Bug, CCC, Yok Lor
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่