เดี่ยวนี้มี คนเล่น Bigbike กันเยอะขึ้น การ ซื้อ-ขาย มือสอง ก็มากขึ้นด้วย มีทั้งแบบ ร้านมาตัดไปทำกำไร และผู้ใช้ ซื้อขายกันเอง
ในระดับร้าน อันนี้เข้าใจเขา ว่าจะรับแบบกด มากกๆ เพราะเขาต้องนำไปขายเพื่อทำกำไร ข้อดี ได้เงินเร็ว ไม่วุ่นวาย ข้อเสีย ขายได้ราคาต่ำกว่าขายเองประมาณ 20% น่าจะได้ อันนี้ไม่ค่อยหงุดหงิด คนเหล่านี้เราโทรไปเสนอขายเอง เขาก็ตอบตรงว่ารับได้แค่ไหน เหมือนเต็นท์รถ
ระดับ USER ขายกันเอง อันนี้แหละครับที่ผมว่า ผู้ซื้อบางท่านมีมารยาทในการซื้อ ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ (ในความคิดผม) ----ต่อรอง ทำตัวเสมือนว่าเป็นเต็นท์ซะเอง กดราคา ด้วยคำพูดเหยียด ๆ หาทุกวิธีทาง มาพูดให้เหนือ ๆ
เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะเป็นทั้ง คนซื้อ และคนขาย *แต่ไม่ได้เป็นพ่อค้า* มาหลายคัน
1.ผู้ซื้อ ควรเข้าใจก่อนว่า ผู้ขาย ไม่ใช่ พ่อค้า หรือ ร้านค้า ที่จะหวังผลกำไร ทุกราคาที่เขาขาย มีแต่ขาดทุน อยู่ที่ว่าจะมากหรือจะน้อย
2.ผู้ซื้อ ควรศึกษา ราคากลาง ๆ ของตลาดไว้ซะหน่อย ว่าถูกสุดๆ รุ่นนี้เขาขายกันราคาเท่าไหร่นะเวลานั่น แล้วตัวคุณเองยอมรับได้ที่ราคาเท่าไหร่
- เป็นได้ยาก ว่าคุณจะได้แบบถูก ๆ แบบเว่อร์ เช่น ตอนนี้เขาขาย Er6n ปี 2013 กัน 220000 คนขายต่ำสุดที่เคยเห็น คือ 190000 คุณไปต่อเขา "พี่ พี่ 150000 ได้ป่ะ (เท่า ER ปี 2009 ฮ่า ฮ๋า)" ถ้าเขายอมราคานั่น เขาเอาไปขายพ่อค้า คนกลางนานแล้วหละครับ ไม่ต้องรอรับโทรศัพท์ ให้เสียเวลา
3.ควรมีเงินให้พร้อม ก่อนจะโทรไปต่อราคาเขา
- เพราะ เมื่อคุณโทรไปต่อ ควรต่อราคาที่คุณอยากได้ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยากได้ถูกที่สุดแบบที่ไม่มีคนขายมาก่อน)
- แต่ถ้าต่อหนักขนาดนั่นไม่ได้ ก็ควรจะรู้ว่าประมาณไหน เรารับได้ ถ้ารับได้แล้ว หรือ คิดว่า เฮ้ย! ราคานี่มันก็ไม่แพง แนะนำว่าให้รีบนัดดูแล้วเอาเลย เพราะ ถ้าคุณคิดว่าราคาน่าสน คนอื่นก็คิดเหมือนคุณ - - - ถ้าเจ้าของลดให้คุณราคานั่นได้ เขาก็ลดให้คนอื่นได้เหมือนกัน
- อย่า! ลำพองใจว่า "เฮ้ย ต่อขนาดนี้ก็ลดให้ เล่นยื้ออีกสักวัน 2 วัน โทรไปใหม่ต่อให้ถูกลงอีก" ผมแนะนำว่ารถอาจไม่อยู่แล้วหละครับ อดคนอื่นคาบไปแหละ
-อย่าไปต่อราคาบนหน้ากระทู้ ของเขา เช่น ตั้งไว้ 220000 อยู่ ๆ คุณก็ไปเขียนว่า "150000 นะ เดียวไปเอาเย็นนี้" มันทำให้เขาราคาเสียครับ อยากได้เท่าไหร่ โทรไปเลย หรือส่ง sms PM ก็จะดีกว่า แต่จากประสบการณ์ ส่วนใหญ่คนโพสต่อบนหน้าเวป ไม่ค่อยซื้อ คนที่สนใจจริง มักจะโทรไปต่อรองโดยตรง
4.เมื่อจะนัด ดูรถ สำหรับผมที่เคยเป็นคนซื้อ
- ผมจะต่อรองราคาจบก่อน
- ค่อนข้างมั่นใจ 80-90% แหละว่าจะเอา ถึงจะขอนัดไปดูตัวจริง ถ้าไม่มีอะไรผิดไปจากรูป หรือจากที่คุยกัน (อันนี้คนขายก็ไม่ควรหมกเม็ดนะ จะได้ไม่เสียเวลาทั้งคู่) ก็ควรจะรับรถเขา ไม่มัดจำ ก็จ่ายให้มันจบ ๆ ไปเลยเข็นกลับบ้านได้ เย้ เย้
- จาก ข้อ 1 อย่าลืมว่าผู้ขายที่เราพูดถึงอยู่นี่ คือ USER ซึ่ง USER ทั่วไปก็ทำมาหากิน หาเงิน เหมือนเรา ไม่ได้ว่างตลอด ที่จะรอรับคนมาดูรถ
- ฉะนั่นใจเขา ใจเรา ยังไม่ได้อยากได้ แค่อยากดู อยากเห็นรถรุ่นนี้ ไปดูที่ศูนย์ หรือ ขอเพื่อนท่านดู อย่า!!!!! นัดเจ้าของมาดูเล่น ๆ ท่านสนุก / แต่คนขายไม่สนุกด้วยนะครับ
**** ถ้ายังไม่มั่นใจ ว่าจะเอาหรือไม่เอา อย่าแทงกั๊ก เช่น เงินยังไม่พร้อม ยังดูอีกคันอยู่ ก็ไม่ต้องไปแทงกั๊ก "พี่ ๆ ผมเอา ผมเอา รอผม รอผม เอาแน่นอน" เพราะ ผู้ขายบางท่าน เขาใจดี ๆ มีน้ำใจ เขาก็รับปากรอจริง แต่สุดท้ายคนซื้อไม่เอา แล้วก็ไม่โทรบอกด้วย แย่ แย่ แย่
5.อยากขอลองขี่
- สำหรับท่านที่คิดว่า "คิดจะซื้อ" ให้กลับไปข้อ 4. ก่อนอย่าพึ่งมา ข้อ 5.
- จะลองรถเขา ท่านต้อง "จะซื้อ" แล้วครับ คือประมาณว่า กำเงินสด มาแหละ กำเงินมัดจำมาแล้ว
- คนขายเป็น user ไม่ใช่ ศูนย์
- เพราะ ถ้าท่านยังมีเงินไม่พร้อมซื้อรถทั้งคัน หมายถึงว่า ท่านก็ไม่พร้อมจะรับผิดชอบหากเกิดอะไร ไม่พึ่งประสงค์
- ถ้าท่านทำรถ "BIGBIKE" เขาล้มระหว่างลอง ท่านควรจะต้องรับผิดชอบด้วยการซื้อนะครับ
- เพราะ BIGBIKE ขึ้นชื่อว่าเคยล้ม ราคาหล่นฮวบ
- ถึงท่านจะออกค่าซ่อมให้ มันก็ขึ้นชื่อว่าล้มมาแล้ว
- และขบวนการซ่อม ต้องรอเป็นเดือน ๆ คนขายเสียโอกาศ ราคามันตกลงเรื่อย ๆ ครับ
****แนะนำว่า อยากลองแต่ยังไม่พร้อม กลัวจ่ายตังค์แล้วค้างคาใจ ขอลองซ้อนก่อนได้ ---- จริง ๆ แล้วรถ แค่สตร์ท ลองเบิ้ลดูรอบเครื่องสูง ดูรอบเครื่องต่ำ ก็พอฟังออกแหละว่าไหวมั้ย ถ้าได้ลองนั่งก็กินเข้าไป 70-80 % ที่จะรับรู้ได้ เพราะอาการแย่ ๆ มันหลบไม่ค่อยได้ยิ่งถ้าคุณได้อยู่ตอนมันวิ่งแล้ว เครื่องกระตุก รอบไม่นิ่ง โซ่กระชาก แคร๊ก ๆ คนขายปกติ ก็ขี่แบบหลบอาการไม่ได้หรอกครับ ถ้าผู้ขาย ขี่ smooth แล้วคุณขี่ไม่ smooth อาจเป็นเพราะตัวคุณ ไม่ชินกับรถมากกว่า
**** เพื่อให้แน่ใจ เพราะลักษณะเครื่องยนต์แต่ละยี่ห้อ ไม่เหมือนกัน แนะนำว่า ไปลองรถศูนย์ มือหนึ่ง สักรอบก่อน แล้วเวลาลองมือสองจะได้เปรียบทียบ กันได้ ไม่ใช่ไปลอง Ducati คลัชแห้ง แล้วไปว่าเจ้าของ "เฮ้ย! รถไม่ดี เสียง กริ๊ง ๆ ตลอดเลย" (อันนี้เอา ฮาแหละ)
****เพราะฉะนั่น อย่าใช้คำว่า "ก็ผมคนซื้อ คนขายต้องตามใจสิ" คนซื้อ ไม่ใช้ ลูกค้า คนขาย ก็ไม่ใช้ พ่อค้า ทั้งคู่เป็น USER
6. วางมัดจำ
- สำหรับผมตอนผมขาย ผมคิดว่า ไม่ต้องวางมาก แต่ให้มาจ่ายหมดเร็ว ๆ ดีกว่า
- ไม่ใช่วางมัดจำไว้ บอกว่า อีก 2 อาทิตย์มาเอา อันนี้ผมว่าไม่ไหวนะ
- ถ้าคุณไม่มาเอามันเสียโอกาศ ผู้ขายนะ พอเขาเอากลับมาขายใหม่ มันจะเริ่มรู้สึกว่า "เฮ้ย รถมีปัญญา ป่าววน๊า คนแรกถึงไม่เอา"
- ถ้าเป็นไปได้ นัดวันที่จ่ายจบ จบเรื่องวันเดียวไปเลย
- ถ้าทั้งคู่ไม่ว่าง ก็มัดจำ แล้วรีบให้จบในวัน 2 วัน เช่น มัดจำ พุธ วันเสาร์ อาทิคย์ ก็ควรมาจัด ๆ กันให้จบ
- แนะนำ คนขายด้วยว่า อย่าให้ผู้ซื้อ มัดจำ นาน ๆ เพราะเคยมีหลายเคส รอเกือบ เดือน สุดท้ายได้มัดจำมาแค่ 2000
- แนะนำ คนซื้อด้วยว่า อย่ามัดจำไปเยอะ โดนมาเยอะแล้ว แบบบอกให้คนมัดจำพร้อม ๆ กัน เป็น 10 กว่าราย แล้วหนีไปเลย
ทั้งหมดที่เขียนเป็นความเห็นส่วนตัวทั้งนั่นครับ ท่านคิดว่า ข้อไหน ถูก ผิด ก็แย้งเลยนะครับ
ส่วนใหญ่มีการเขียนเกี่ยวกับมารยาท สำหรับผู้ขาย
แต่ไม่ค่อยมีมารยาท สำหรับผู้ซื้อ กลายเป็นว่า ผู้ซื้อมือสอง ส่วนใหญ่คิดว่า "อ้าว ลูกค้า คือ พระเจ้า" อันนี้ผมว่าใช่ไม่ได้ซะทีเดียวกับ ซื้อ-ขาย มือสอง
* สำหรับรถ Bigbike ผู้ขาย ก็คือ USER เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ ที่ชอบในงานอดิเรกแนวนี้ และรักรถที่เขาจะขาย ด้วยราคาขาดทุน ที่เจ็บช้ำ รักษาน้ำใจเขาด้วย อย่าคิดแบบซื้อขาย กับ พ่อค้า *
มารยาทในการซื้อ-ขาย รถ Big bike มือสอง (ในความคิดผม)
ในระดับร้าน อันนี้เข้าใจเขา ว่าจะรับแบบกด มากกๆ เพราะเขาต้องนำไปขายเพื่อทำกำไร ข้อดี ได้เงินเร็ว ไม่วุ่นวาย ข้อเสีย ขายได้ราคาต่ำกว่าขายเองประมาณ 20% น่าจะได้ อันนี้ไม่ค่อยหงุดหงิด คนเหล่านี้เราโทรไปเสนอขายเอง เขาก็ตอบตรงว่ารับได้แค่ไหน เหมือนเต็นท์รถ
ระดับ USER ขายกันเอง อันนี้แหละครับที่ผมว่า ผู้ซื้อบางท่านมีมารยาทในการซื้อ ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ (ในความคิดผม) ----ต่อรอง ทำตัวเสมือนว่าเป็นเต็นท์ซะเอง กดราคา ด้วยคำพูดเหยียด ๆ หาทุกวิธีทาง มาพูดให้เหนือ ๆ
เรื่องนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เพราะเป็นทั้ง คนซื้อ และคนขาย *แต่ไม่ได้เป็นพ่อค้า* มาหลายคัน
1.ผู้ซื้อ ควรเข้าใจก่อนว่า ผู้ขาย ไม่ใช่ พ่อค้า หรือ ร้านค้า ที่จะหวังผลกำไร ทุกราคาที่เขาขาย มีแต่ขาดทุน อยู่ที่ว่าจะมากหรือจะน้อย
2.ผู้ซื้อ ควรศึกษา ราคากลาง ๆ ของตลาดไว้ซะหน่อย ว่าถูกสุดๆ รุ่นนี้เขาขายกันราคาเท่าไหร่นะเวลานั่น แล้วตัวคุณเองยอมรับได้ที่ราคาเท่าไหร่
- เป็นได้ยาก ว่าคุณจะได้แบบถูก ๆ แบบเว่อร์ เช่น ตอนนี้เขาขาย Er6n ปี 2013 กัน 220000 คนขายต่ำสุดที่เคยเห็น คือ 190000 คุณไปต่อเขา "พี่ พี่ 150000 ได้ป่ะ (เท่า ER ปี 2009 ฮ่า ฮ๋า)" ถ้าเขายอมราคานั่น เขาเอาไปขายพ่อค้า คนกลางนานแล้วหละครับ ไม่ต้องรอรับโทรศัพท์ ให้เสียเวลา
3.ควรมีเงินให้พร้อม ก่อนจะโทรไปต่อราคาเขา
- เพราะ เมื่อคุณโทรไปต่อ ควรต่อราคาที่คุณอยากได้ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะอยากได้ถูกที่สุดแบบที่ไม่มีคนขายมาก่อน)
- แต่ถ้าต่อหนักขนาดนั่นไม่ได้ ก็ควรจะรู้ว่าประมาณไหน เรารับได้ ถ้ารับได้แล้ว หรือ คิดว่า เฮ้ย! ราคานี่มันก็ไม่แพง แนะนำว่าให้รีบนัดดูแล้วเอาเลย เพราะ ถ้าคุณคิดว่าราคาน่าสน คนอื่นก็คิดเหมือนคุณ - - - ถ้าเจ้าของลดให้คุณราคานั่นได้ เขาก็ลดให้คนอื่นได้เหมือนกัน
- อย่า! ลำพองใจว่า "เฮ้ย ต่อขนาดนี้ก็ลดให้ เล่นยื้ออีกสักวัน 2 วัน โทรไปใหม่ต่อให้ถูกลงอีก" ผมแนะนำว่ารถอาจไม่อยู่แล้วหละครับ อดคนอื่นคาบไปแหละ
-อย่าไปต่อราคาบนหน้ากระทู้ ของเขา เช่น ตั้งไว้ 220000 อยู่ ๆ คุณก็ไปเขียนว่า "150000 นะ เดียวไปเอาเย็นนี้" มันทำให้เขาราคาเสียครับ อยากได้เท่าไหร่ โทรไปเลย หรือส่ง sms PM ก็จะดีกว่า แต่จากประสบการณ์ ส่วนใหญ่คนโพสต่อบนหน้าเวป ไม่ค่อยซื้อ คนที่สนใจจริง มักจะโทรไปต่อรองโดยตรง
4.เมื่อจะนัด ดูรถ สำหรับผมที่เคยเป็นคนซื้อ
- ผมจะต่อรองราคาจบก่อน
- ค่อนข้างมั่นใจ 80-90% แหละว่าจะเอา ถึงจะขอนัดไปดูตัวจริง ถ้าไม่มีอะไรผิดไปจากรูป หรือจากที่คุยกัน (อันนี้คนขายก็ไม่ควรหมกเม็ดนะ จะได้ไม่เสียเวลาทั้งคู่) ก็ควรจะรับรถเขา ไม่มัดจำ ก็จ่ายให้มันจบ ๆ ไปเลยเข็นกลับบ้านได้ เย้ เย้
- จาก ข้อ 1 อย่าลืมว่าผู้ขายที่เราพูดถึงอยู่นี่ คือ USER ซึ่ง USER ทั่วไปก็ทำมาหากิน หาเงิน เหมือนเรา ไม่ได้ว่างตลอด ที่จะรอรับคนมาดูรถ
- ฉะนั่นใจเขา ใจเรา ยังไม่ได้อยากได้ แค่อยากดู อยากเห็นรถรุ่นนี้ ไปดูที่ศูนย์ หรือ ขอเพื่อนท่านดู อย่า!!!!! นัดเจ้าของมาดูเล่น ๆ ท่านสนุก / แต่คนขายไม่สนุกด้วยนะครับ
**** ถ้ายังไม่มั่นใจ ว่าจะเอาหรือไม่เอา อย่าแทงกั๊ก เช่น เงินยังไม่พร้อม ยังดูอีกคันอยู่ ก็ไม่ต้องไปแทงกั๊ก "พี่ ๆ ผมเอา ผมเอา รอผม รอผม เอาแน่นอน" เพราะ ผู้ขายบางท่าน เขาใจดี ๆ มีน้ำใจ เขาก็รับปากรอจริง แต่สุดท้ายคนซื้อไม่เอา แล้วก็ไม่โทรบอกด้วย แย่ แย่ แย่
5.อยากขอลองขี่
- สำหรับท่านที่คิดว่า "คิดจะซื้อ" ให้กลับไปข้อ 4. ก่อนอย่าพึ่งมา ข้อ 5.
- จะลองรถเขา ท่านต้อง "จะซื้อ" แล้วครับ คือประมาณว่า กำเงินสด มาแหละ กำเงินมัดจำมาแล้ว
- คนขายเป็น user ไม่ใช่ ศูนย์
- เพราะ ถ้าท่านยังมีเงินไม่พร้อมซื้อรถทั้งคัน หมายถึงว่า ท่านก็ไม่พร้อมจะรับผิดชอบหากเกิดอะไร ไม่พึ่งประสงค์
- ถ้าท่านทำรถ "BIGBIKE" เขาล้มระหว่างลอง ท่านควรจะต้องรับผิดชอบด้วยการซื้อนะครับ
- เพราะ BIGBIKE ขึ้นชื่อว่าเคยล้ม ราคาหล่นฮวบ
- ถึงท่านจะออกค่าซ่อมให้ มันก็ขึ้นชื่อว่าล้มมาแล้ว
- และขบวนการซ่อม ต้องรอเป็นเดือน ๆ คนขายเสียโอกาศ ราคามันตกลงเรื่อย ๆ ครับ
****แนะนำว่า อยากลองแต่ยังไม่พร้อม กลัวจ่ายตังค์แล้วค้างคาใจ ขอลองซ้อนก่อนได้ ---- จริง ๆ แล้วรถ แค่สตร์ท ลองเบิ้ลดูรอบเครื่องสูง ดูรอบเครื่องต่ำ ก็พอฟังออกแหละว่าไหวมั้ย ถ้าได้ลองนั่งก็กินเข้าไป 70-80 % ที่จะรับรู้ได้ เพราะอาการแย่ ๆ มันหลบไม่ค่อยได้ยิ่งถ้าคุณได้อยู่ตอนมันวิ่งแล้ว เครื่องกระตุก รอบไม่นิ่ง โซ่กระชาก แคร๊ก ๆ คนขายปกติ ก็ขี่แบบหลบอาการไม่ได้หรอกครับ ถ้าผู้ขาย ขี่ smooth แล้วคุณขี่ไม่ smooth อาจเป็นเพราะตัวคุณ ไม่ชินกับรถมากกว่า
**** เพื่อให้แน่ใจ เพราะลักษณะเครื่องยนต์แต่ละยี่ห้อ ไม่เหมือนกัน แนะนำว่า ไปลองรถศูนย์ มือหนึ่ง สักรอบก่อน แล้วเวลาลองมือสองจะได้เปรียบทียบ กันได้ ไม่ใช่ไปลอง Ducati คลัชแห้ง แล้วไปว่าเจ้าของ "เฮ้ย! รถไม่ดี เสียง กริ๊ง ๆ ตลอดเลย" (อันนี้เอา ฮาแหละ)
****เพราะฉะนั่น อย่าใช้คำว่า "ก็ผมคนซื้อ คนขายต้องตามใจสิ" คนซื้อ ไม่ใช้ ลูกค้า คนขาย ก็ไม่ใช้ พ่อค้า ทั้งคู่เป็น USER
6. วางมัดจำ
- สำหรับผมตอนผมขาย ผมคิดว่า ไม่ต้องวางมาก แต่ให้มาจ่ายหมดเร็ว ๆ ดีกว่า
- ไม่ใช่วางมัดจำไว้ บอกว่า อีก 2 อาทิตย์มาเอา อันนี้ผมว่าไม่ไหวนะ
- ถ้าคุณไม่มาเอามันเสียโอกาศ ผู้ขายนะ พอเขาเอากลับมาขายใหม่ มันจะเริ่มรู้สึกว่า "เฮ้ย รถมีปัญญา ป่าววน๊า คนแรกถึงไม่เอา"
- ถ้าเป็นไปได้ นัดวันที่จ่ายจบ จบเรื่องวันเดียวไปเลย
- ถ้าทั้งคู่ไม่ว่าง ก็มัดจำ แล้วรีบให้จบในวัน 2 วัน เช่น มัดจำ พุธ วันเสาร์ อาทิคย์ ก็ควรมาจัด ๆ กันให้จบ
- แนะนำ คนขายด้วยว่า อย่าให้ผู้ซื้อ มัดจำ นาน ๆ เพราะเคยมีหลายเคส รอเกือบ เดือน สุดท้ายได้มัดจำมาแค่ 2000
- แนะนำ คนซื้อด้วยว่า อย่ามัดจำไปเยอะ โดนมาเยอะแล้ว แบบบอกให้คนมัดจำพร้อม ๆ กัน เป็น 10 กว่าราย แล้วหนีไปเลย
ทั้งหมดที่เขียนเป็นความเห็นส่วนตัวทั้งนั่นครับ ท่านคิดว่า ข้อไหน ถูก ผิด ก็แย้งเลยนะครับ
ส่วนใหญ่มีการเขียนเกี่ยวกับมารยาท สำหรับผู้ขาย
แต่ไม่ค่อยมีมารยาท สำหรับผู้ซื้อ กลายเป็นว่า ผู้ซื้อมือสอง ส่วนใหญ่คิดว่า "อ้าว ลูกค้า คือ พระเจ้า" อันนี้ผมว่าใช่ไม่ได้ซะทีเดียวกับ ซื้อ-ขาย มือสอง
* สำหรับรถ Bigbike ผู้ขาย ก็คือ USER เหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ ที่ชอบในงานอดิเรกแนวนี้ และรักรถที่เขาจะขาย ด้วยราคาขาดทุน ที่เจ็บช้ำ รักษาน้ำใจเขาด้วย อย่าคิดแบบซื้อขาย กับ พ่อค้า *