ศาลรัฐธรรมนูญครับ เมื่อพวกท่านฉ้อฉลตัวบทกฎหมายขนาดนี้ จะไร้ยางอายอยู่ทำไมครับ ไปซะเถอะ

กระทู้สนทนา
ว่าด้วยเรื่อง  "วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ"

เกริ่น
รัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรคสี่  บอกว่า  คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต้องมีข้อเท็จจริง  ข้อกฎหมาย  ตัวบทรัฐธรรมนูญรองรับ
แต่พวกท่านมั่วได้ตลอด  วินิจฉัยไปตามที่พวกท่านอยากวินิจฉัย  ไม่มีข้อเท็จจริง  ไม่อิงข้อกฎหมาย  อ้างตัวบทรัฐธรรมนูญมั่วซั่ว

รัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรคห้า  บอกว่า  คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร ...
เรื่องนี้  พวกท่านกับพวกกากซากเผด็จการก็นำมาอ้างตีกินตลอด  ว่าต้องยอมรับ ๆ  กล่าวหาคนอื่นว่าไม่ยอมรับศาล
ป.ป.ช. ก็รับลูกไปเล่นงาน ส.ส. และ ส.ว. ที่โหวตแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ทั้งที่คำวินิจฉัยของพวกท่านนั้น  ขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรคสี่  เป็นคำวินิจฉัยที่ไม่มีผลทางกฎหมาย

รัฐธรรมนูญมาตรา 216 วรรคหก  บอกว่า  การปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตาม พรบ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

.....

เข้าเรื่อง

รัฐธรรมนูญมาตรา 300  วรรคห้า  บอกว่า  


ซึ่งเรื่องนี้  พวกท่านอ้างว่า  ระยะเวลา 1 ปีนั้น  เป็นแค่ "บทเร่งรัด" ไม่ใช่  "บทบังคับ"

โอเค  เข้าใจครับ
ว่าหากไม่เป็นไปตามบทเร่งรัด  ก็ไม่มีผลใด ๆ   เพราะกฎหมายไม่ได้บังคับไว้ว่าต้องมีผลใด ๆ ตามมา

ไม่เหมือนบทบังคับ   ที่กฎหมายจะระบุเงื่อนไขกำกับไว้ว่าหากไม่ปฏิบัติตามระยะเวลาทีกำหนด  จะเกิดผลใดตามมา

เช่น  เรื่องอายุความในกฎหมายแพ่งและกฎหมายอาญา  ที่หากไม่ทำตามระยะเวลาที่กำหนด  กฎหมายจะถือว่าหมดอายุความ
หรือเรื่องการเลือกตั้ง  ที่บอกว่า หลังยุบสภาฯ ต้องเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน
แต่หากมีเหตุจำเป็นอันสุดวิสัย  ก็อาจเกิน 60 วันได้  เพราะกฎหมายแค่เร่งรัด  ไม่ใช่บังคับ
เช่นน้ำท่วม  แผ่นดินไหว   กกต.น้ำลายฟูมปากชักตาย  ทำให้การเลือกตั้งไม่ทันกำหนด 60 วัน  ก็ไม่มีผลใด ๆ
(พรฎ.เลือกตั้ง 2 ก.พ.  กำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทั่วประเทศ  แต่เมื่อมีปัญหา 28 เขต
แต่พวกท่านก็บิดเบือนหน้าตาเฉยว่าไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ)


ทีนี้
เมื่อ พรบ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญยังไม่มี
พวกท่านก็พิจารณาความและวินิจฉัยไปตามข้อกำหนดบิด ๆ เบี้ยว ๆ ของท่านมาเจ็ดปีแล้ว
ไม่ว่ากัน  เพราะกฎหมายเปิดช่องให้พวกท่านทำได้

บทเร่งรัดก็บทเร่งรัด  ไม่ว่ากัน

แต่ทำไม  การวินิจฉัยที่  15/2553  ปลายเดือนพฤศิจกายน 2553
เรื่องยุบพรรคประชาธิปัตย์ทำผิดกฎหมายเงินอุดหนุนพรรคการเมือง 29 ล้าน

พวกท่านถึงได้ฉ้อฉล "บทเร่งรัด" ให้กลายเป็น "บทบังคับ"  เพื่อจะได้ไม่ต้องยุบพรรค ปชป. ?

พวกท่านวินิจฉัยหน้าตาเฉยว่า  นายทะเบียนพรรคการเมือง(ประธาน กกต. นายอภิชาติ) ไม่ยื่นคำร้องภายใน 15 วัน
ยกคำร้อง   ไม่วินิจฉัยประเด็นใด ๆ ต่อไป

เงิน 29 ล้านน่ะ  เงินภาษีอากรนะครับ  พรรค ปชป. ใช้ผิดกฎหมาย  มันก็คือ "การโกงเงินประชาชน"
แต่พวกท่าน  เล่นบทฉ้อฉล  บอกว่าเกิน 15 วัน  ไม่วินิจฉัยว่าผิดหรือถูก  
จบเรื่องเอาดื้อ ๆ

พวกท่านยกคำร้องด้วยเหตุผลท้วย ๆ ว่า


อ้างเรื่องระยะเวลา 15 วัน   ทั้งที่ระยะเวลา 15 วันนี้  เป็นแค่ "บทเร่งรัด"   ไม่ใช่ "บทบังคับ"
แต่พวกท่านก็ตะแบงฉ้อฉลตีความว่า  15 วัน คือบทบังคับ


พรบ.พรรคการเมือง  มาตรา 93  วรรคสอง  บอกว่า



มาตรา 93  นี้  มีถ้อยคำใด  ข้อความใด  ความหมายใดครับ  ที่บอกว่า 15 วัน  คือ "บทบังคับ"

กฎหมายแค่ "เร่งรัด" ว่า  ให้นายทะเบียนยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน
ไม่ได้มีถ้อยคำหรือข้อความใดกำกับไว้เป็นเงื่อนไขบังคับเลยว่า  หากไม่ภายใน 15 วันแล้ว  จะส่งผลใดตามมา

พรบ.พรรคการเมือง  มีเจตนารมณ์กำกับควบคุมพรรคเมืองครับ  ไม่ใช่กำกับควบคุมนายทะเบียนพรรคการเมือง

แทนที่พวกท่านจะพิจารณาว่าพรรคการเมืองทำผิดหรือไม่  เพื่อป้องกันการฉ้อโกงประชาชน  ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย
พวกท่านกลับไปจับผิดนายทะเบียนพรรคการเมืองในเรื่องที่ไม่ส่งผลไม่มีผลใด ๆ กับการกระทำของพรรคการเมือง

ทุเรศครับ

เพราะพวกท่านคิดแต่ว่าพวกท่านคือคนดี  คือความถูกต้อง  กำลังทำงานสำคัญให้บ้านเมือง
ต้องอุ้มพวกหนึ่ง  ทำลายพวกหนึ่ง
พวกท่านจึงฉ้อฉลตัวบทกฎหมาย  ตีความกฎหมายไปตามเป้าหมายทางการเมือง  
ขาดความเป็นธรรม  ผิดทั้งหลักนิติรัฐ  ขัดทั้งหลักนิติธรรม

เพราะการปฏิบัติหน้าที่มีวาระซ่อนร้อน  มีเหตุผลและเป้าหมายทางการเมือง
กับคนกลุ่มหนึ่ง  ท่านก็ตีความกฎหมายแบบอุ้มโอบป้องกัน  ไม่เอาผิด
แต่กับอีกกลุ่มหนึ่ง  ท่านกลับตีความกฎหมายแบบเอาผิดให้ได้  


ถ้าผมเป็นพวกท่านนี่   ผมอายหมาครับ  

ไม่ทำเป็นเฉย ๆ  ไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไร้สำนึกผิดชอบชั่วดี  ไร้ความรับผิดชอบแบบพวกท่านหรอกครับ



เหมือนอย่างขณะนี้   ที่พวกท่านกำลังบิดเบือนฉ้อฉลจะเล่นงานนายกฯยิ่งลักษณ์ให้ได้  ในเรื่องการสั่งย้ายนายถวิล  เปลี่ยนศรี
การที่นายกฯยิ่งลักษณ์สั่งย้ายนายถวิล  เป็นการใช้อำนาจหน้าที่
หากผิด  ก็ผิดไปทางอาญาตามมาตรา 157
ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับรัฐธรรมนูญมาตรา 266  ที่บอกว่า  ห้ามใช้ตำแหน่งเข้าไปก้าวก่ายแทรกแซง

แต่พวกท่านก็พยายามตะแบงฉ้อฉล  ให้การใช้อำนาจหน้าที่ของนายกฯ กลายเป็นการก้าวก่ายแทรกแซงให้ได้

ส่งหนังสือสอบถามพยาน พล.ต.อ.วิเชียร  พจน์โพธิ์ศรี  แบบบ้า ๆ บวม ๆ   ชี้นำเพื่อหาช่องเล่นงานนายกฯให้ได้

น.ส.ยิ่งลักษณ์  นายกรัฐมนตรี   เป็นประธาน ก.ตร. โดยตำแหน่ง
มีอำนาจหน้าที่ย้าย ผบ.ตร. ได้  

สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ  ขึ้นกับสำนักนายกรัฐมนตรี  นี่เป็นลูกน้องนายกฯโดยตรงเลย
นายกฯย่อมมีอำนาจหน้าที่ในการสั่งย้ายได้

มันเป็นการก้าวด่ายแทรกแซงตรงไหนวะ ?

พอเหอะ  หยุดเหอะ   เลิกสร้างปัญหาให้บ้านเมืองซะที

บิดเบือน  ฉ้อฉลขนาดนี้   จะมีหน้านั่งทำหน้าที่อยู่ทำไม   อาย "ย่าเหล" บ้างเถอะครับ



เมื่อย   จบ
อมยิ้ม01
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่