หญิงไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก !!!

วันนี้ขอสรรเสริญหญิงไทยกันซักหน่อย
ที่ว่าอย่างนี้ก็เพราะว่า ช่วงนี้ได้มีโอกาสดื่มกับคนญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ

แล้วหัวข้อสนทนากับคนญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ,เจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานบริษัทคนญี่ปุ่น
ที่เข้ามาในไทยเค้าจะถามผมบ่อยมากว่า

"ออฟฟิสที่ทำงานในไทย ผู้ชายหายไปไหนหมด"
"ผู้ชายเค้าไม่ทำงานกันหรอ"
"ผู้ชายไปทำงานอยู่ตามวินมอเตอร์ไซต์ แท็กซี่ และตุ๊กตุ๊กหมดเลยหรอ" อันนี้ออกแนวฮา

สำหรับผมที่มีโอกาสได้ทำงานทั้งใน
1. บริษัทญี่ปุ่น ณ​ ประเทศญี่ปุ่น
2. บริษัทญี่ปุ่น ณ ประเทศไทย
3. บริษัทไทย ณ​ ประเทศไทย (ตอนเข้าไปประจำในบริษัทคู่ค้า)

ก็มีความคิดไม่ต่างกับคนญี่ปุ่นครับ..
ตอนประจำอยู่ที่ญี่ปุ่น เพื่อนร่วมรุ่น (โดกิ) จะมีดอกไม้โผล่ออกมาอยู่ 3 คนจากทั้งหมดยี่สิบกว่าคน
เคยแอบสงสารผู้หญิงในรุ่น เพราะมีแต่ผู้ชาย
อันนี้อาจจะเป็นเพราะนโยบายของฝ่ายบุคคลของแต่ละบริษัทก็เป็นได้
รวมถึงแต่ละประเภทของธุรกิจนั้นก็ตัดสินสัดส่วนของผู้หญิงและผู้ชาย
บริษัทผู้ผลิตอย่างผม แน่นอนจำนวนผู้ชายจะมีมากกว่า ฝ่ายการตลาดเกือบร้อยเปอร์เซนต์เป็นผู้ชาย
เมื่อไปที่โรงงานก็จะมีแต่ผู้ชาย จะมีแต่ในส่วนควบคุมผลิตภัณฑ์หรือฝ่ายLogisticsเท่านั้นที่พอจะเห็นผู้หญิงอยู่บ้าง
ประเทศญี่ปุ่นถ้าเป็นธุรกิจเครื่องสำอาง,ธุรกิจสินค้าบริโภค ก็จะพอเป็นสัดส่วนผู้หญิงมากขึ้นหน่อย..
อันนี้พอเข้าใจกันได้ครับ..

อยู่ที่ไทยมาร่วมสิบแปดปีจนถึง ม.ปลาย ก็ไม่ค่อยได้รู้สึกรู้สาอะไรหรอก
ค่อนข้างเคยชินกับสภาพแวดล้อมที่มีผู้หญิงทำงานเป็นจำนวนมาก
แต่พอได้ไปทำงานที่ญี่ปุ่นและกลับเข้ามาทำงานที่ไทย
ทำให้ฉุกคิดได้อีกครั้งว่า "ผู้หญิงไทยเรา ขยัน มากเลยครับ"
มองง่ายๆเลยว่าตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงม.ปลาย ก็มีคุณครูผู้หญิงเยอะมาก มิหนำซ้ำตั้งแต่ประถมจนถึงมัธยมปลาย
ครูผู้หญิงเป็นครูประจำชั้น แต่ผู้ชาย เป็นครูคู่ชั้น..​  ผู้หญิงเรานี่เก่งมากๆเลยครับ

ที่ญี่ปุ่น ขอยกตัวอย่าง Head Office บริษัทผม (บริษัทอื่นๆอาจมีวัฒนธรรมองค์กรที่ต่างไปก็ได้แล้วแต่พิจารณานะครับ)
ฝ่ายบุคคลจะรับพนักงานผู้หญิงใหม่ๆเข้ามาทุกปีเพื่อมาเป็นสีสันให้กับองค์กร
(มีผู้ชายอย่างเดียวบรรยากาศการทำงานอาจจะมา คุ ก็เป็นได้ 5555)
แล้วจะเห็นได้ว่า มีการพบรัก และแต่งงานในบริษัทเยอะมากๆ ไม่รู้ว่าเป็นนโยบายหรือแผนการของฝ่ายบุคคลหรือเปล่า ที่รู้ว่า
เมื่อชายใดก้าวเข้ามาในบริษัทผู้ผลิตแล้ว ชายผู้นั้นจะหาคู่ครองได้ยากขึ้น  เราขอยกภาษาญี่ปุ่นคำนี้ที่ผู้ชายญี่ปุ่นมักจะบ่นอยู่เป็นประจำ
เมื่อเข้ามาในบริษัทแล้วไม่ค่อยเจอเพศตรงข้าม ที่สามารถสานสัมพันธ์ถึงขั้นแต่งงานว่า
"เดไอ กะ ไน๊ หรือ Deai ga nai"

ดังนั้นการรับสาวๆเข้ามาก็จะพอช่วยให้ผู้ชายในบริษัทมีคู่ครองกับเค้าบ้างอะไรบ้าง555 ในฝ่ายผมมี Shanai kekkon
หรือที่แปลว่าการแต่งงานกับคนในบริษัทเยอะอยู่เหมือนกัน
แต่สำหรับคนที่ยังไม่พอใจกับสาวๆในบริษัทนั้น อาจจะด้วยความที่ไม่ตรงเสปคหรือ ไม่อยากมีแฟนอยู่ในบริษัท
คนเหล่านั้นก็จะทำกิจกรรมหาคู่ หรือที่ญี่ปุ่นเรียกว่า Konkatsu มีการนัดจับคู่  ผู้ชายสาม ผู้หญิงสาม, ผู้ชายสี่ ผู้หญิงสี่
แล้วก็ทานข้าวกันมื้อนึง ถ้าถูกใจก็ไปสานต่อความสัมพันธ์กันเอาเองตามเทคนิคของแต่ละคน
... จะว่าไปคนที่ทำ Konkatsu ในรุ่นผมก็มีไม่น้อยเหมือนกันนะครับ .. อันนี้เป็นเพราะว่า ในรุ่นผมเองมีผู้หญิงค่อนข้างน้อย


        กิจกรรมหาคู่ของคนญี่ปุ่น Gou Kon

กลับมาว่ากันถึงผู้หญิงไทย ที่เห็นผู้หญิงไทยทำงานเยอะนี่ ผมไม่สามารถฟันธงลงไปได้ชัดเจนว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร?
แต่ถ้าให้ผมเดา ผมคิดว่าผู้หญิงไทยเราๆ มีศักยภาพ ไม่มีเธอ เราก็มีเงินเดือน เราก็สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองได้
เราสามารถแบ่งเบาภาระเธอเลี้ยงครอบครัวได้เหมือนกัน ดังนั้นสถานะการครองคู่กันนั้น ผู้หญิงมักจะเท่าเทียม
หรือบางคู่ผู้หญิงอาจจะใหญ่กว่าสามีก็เป็นได้ 55555

ส่วนที่ญี่ปุ่นนั้น ผมยังรู้สึกอยู่ว่า หลายๆคู่ยังต้องพึ่งพาอาชีพการงานของสามีอยู่ สามีถูกย้ายไปที่ไหน
ภรรยาก็ต้องหกระเหินเร่ร่อนตามสามีไปยังทุกที่ สามีทำงานดึกดื่นกว่าจะกลับมาลูกๆก็นอนหมดแล้ว
จะบ่นก็บ่นไม่ค่อยได้ เพราะสามีทำงานหาเงินเพื่อนำมาเลี้ยงครอบครัว ภรรยาญี่ปุ่นก็ต้องเข้าใจในจุดนี้

นี่แหละครับความแตกต่างของวัฒนธรรม ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่..
ณ จุดนี้อยากบอกว่าผู้หญิงไทยถือเป็นกำลังสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย
สู้ต่อไปนะครับ ดอกไม้ของประเทศไทย!!
ประเทศไทยพัฒนามาถึงจุดนี้ก็เพราะพวกคุณ

จาก JapanSalaryman

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่