ในอดีต เราเคยมีรัฐธรรมนูญอยู่ฉบับหนึ่งที่ถูกล้อเลียนมาจนถึงทุกวันนี้ว่าเป็น "รัฐธรรมนูญฉบับใต้ตุ่ม"
ที่มาของคำคำนี้ ก็มีอยู่ว่า ในการทำรัฐประหารล้มรัฐบาลของ พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ คืนวันที่ 7 พฤศจิกายน ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 โดยกลุ่มทหารนอกราชการที่นำโดย พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ, น.อ.กาจ กาจสงคราม, พ.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์, พ.อ.สฤษดิ์ ธนะรัชต์, พ.อ.ถนอม กิตติขจร, พ.ท.ประภาส จารุเสถียร และ ร.อ.สมบูรณ์ (ชาติชาย) ชุณหะวัณ
รัฐประหารสำเร็จปุ๊บ ก็มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ปั๊บทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาร่าง ไม่ต้องเสียเวลามาลงมติว่าจะรับหรือไม่รับ หรือรับไปก่อนค่อยแก้ไขทีหลัง ( แต่ความจริงคือ เมริงแก้กรูถอน ) ซึ่งมีการเปิดเผยภายหลังจากปากของ น.อ.กาจ กาจสงครามว่า มีการเตรียมการแอบซุ่มเขียนรัฐธรรมนูญใหม่นี้มานานแล้ว เขียนเสร็จแล้วก็เอาไปซ่อนไว้ใต้ตุ่มน้ำหน้าบันไดบ้าน เมื่อทำรัฐประหารสำเร็จก็สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที
ผมก็เลยมานึกเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้ อาจแตกต่างกันในรายละเอียด แต่พฤติกรรมคล้ายๆกัน
นั่นคือ พวก ตลกหกเก้า มีคำตัดสินที่เป็นธงเขียนไว้เก็บอยู่ใต้ตุ่มตั้งแต่วันแรกที่รับคำร้องเพื่อยื่นถอดถอนนายกฯยิ่งลักษณ์ ซึ่งความจริงมันผิดตั้งแต่รับเรื่องแล้ว แต่จะไม่รับก็ไม่ได้ เพราะคำตัดสินมันถูกเขียนไว้เก็บอยู่ใต้ตุ่มล่วงหน้าแล้ว รอวันประกาศออกมาเท่านั้น
ข้อแตกต่างของ ตลก ไทย กับ ศาลสากลของประเทศที่เจริญแล้ว อยู่ตรงที่ว่า ศาลประเทศอื่น วินิจฉัยคดีจากพยาน หลักฐาน ตัวบทกฏหมาย แล้วจึงนำมาซึ่งคำพิพากษาตามข้อเท็จจริงของกฏหมาย
ส่วน ตลก ไทย ตั้งธงคำพิพากษาไว้ก่อน แล้วจึงไปหาวาทกรรมมาประดิษฐ์ประดอยสนับสนุนให้คนเชื่อตามคำพิพากษา ( ย้ำนะครับ ใช้วาทกรรม ไม่ใช่ตัวบทกฏหมาย )
ดังนั้น จึงอย่าได้แปลกใจหรือขำกลิ้ง เวลาได้ฟังคำพิพากษา ที่เปิดจากพจนานุกรม เช่นเรื่องทำกับข้าวออกทีวี ถนนลูกรัง สภาผัวเมีย หรือบางทีอ่านชื่อพรรคตะกุกตะกัก ผิดๆถูกๆ ฯลฯ
พูดถึง ตลก แล้วจะไม่พูดถึง ปปช ก็คงไม่ได้ เพราะองค์กรอิสวะพวกนี้ เค้าทำงานกันเป็นทีม
หลังจากรอเวลาดาบแรกจากกลุ่มตลกหกเก้าที่จะงัดเอาคำพิพากษาจากใต้ตุ่มขึ้นมาเล่นงานนายกฯยิ่งลักษณ์แล้ว ดาบที่สองที่เงื้อมือรออยู่ อันนี้ผมว่ายิ่งกว่าคำพิพากษาที่อยู่ใต้ตุ่มซะอีก เพราะมันวางเอาไว้บนฝาตุ่มให้เห็นกันเลย
ปปช.ซึ่งใช้เวลาหลายล้านปีแสงในการสืบพยานตัดสินคดีทุจริตโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่กลับใช้เวลาไม่กี่วันพิจารณาคดีจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนที่ไม่ได้เป็น "โรคนกหวีดลงคอ กปปส.ลงตับ กระส่ายกระสับถ้าไม่ดูบลูสกาย" ก็น่าจะรู้คำตอบได้ว่าผลตัดสินจะลงเอยเช่นไร
ยิ่งเห็นการเตรียมการใส่ร้ายป้ายสีคุณยิ่งลักษณ์เอาไว้ล่วงหน้า ด้วยการลงทุนมโหฬารด้วยงบโฆษณาจากเงินภาษีหลายสิบล้านบาท ทำไปเพื่อสนองตัณหาตัวเอง โดยเจตนาเอานักแสดงที่มีบุคลิคลักษณะคล้ายคุณยิ่งลักษณ์กับลูกชาย พยายามสื่อความหมายว่า อย่าให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม แม้แต่แม่โกง เด็กตัวเล็กๆก็ได้รับการรังเกียจไปด้วย ( รู้ๆอยู่ว่าสปอตนี้ตั้งใจทำเพื่อใส่ร้ายป้ายสีใคร แต่ซวยที่ดันเจือกไปโดนหริโชค คนของพวกมันเต็มๆ อันนี้ของจริงไม่ต้องมโน )
ส่วนสปอตอื่นๆ ก็พยายามตอกย้ำเน้นคำว่า "โกง" เป็นวาทกรรมที่ติดปาก โดยมี กปปส.หอนรับบนเวทีเป็นทอดๆ ให้กำจัดคนโกง ต่อต้านคนโกง บลา ๆๆ เพื่อให้สอดคล้องกับคำตัดสินชี้มูลที่ถูกวางรอไว้บนตุ่ม
อะไรไม่ฮาเท่า ในโฆษณานั้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า หรือแม้กระทั่งขอทาน ล้วนแล้วแต่รังเกียจคนโกง เพราะมองเห็นคำว่าโกง ติดอยู่บนหน้าผาก
ผมดูแล้ว ก็อดหัวเราะไม่ได้ นึกในใจว่า "คนโกงบ้านโพ่งเหรอ ปั๊มตรายางคำว่าโกงไว้บนหน้าให้พวกเมริงเห็น...... ซัด"
ที่สำคัญ ผมเชื่อโดยความบริสุทธิใจว่า การทุ่มงบโฆษณามหาศาลขนาดนี้ เอเย่นซี่ที่รับงานรวยเละแน่ และพวกเมริงได้เปอร์เซนต์จากงบนี้แน่นอนว่ะ เอิ๊กส์ !
ลงทุนปูทางกันมาขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องลุ้นอะไรมากกับคำตัดสินลงดาบยิ่งลักษณ์ที่ฉบับหนึ่งถูกวางอยู่ใต้ตุ่ม ส่วนอีกฉบับหนึ่งวางให้เห็นกันโต้งๆบนฝาตุ่ม
ผลการตัดสินก็คงเป็นไปตามธงที่ตั้ง แต่ถ้าบังเอิญพลิกล็อคผิดไปจากนี้ ผมยอมให้เอาเท้ามาลูบหน้าแอ๊บแบ๊วได้เลย
ฟันธง !
+++ ผมขอตั้งสมญานามคำตัดสินของ ตลก ที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้ว่า "คำพิพากษาใต้ตุ่ม"+++
ที่มาของคำคำนี้ ก็มีอยู่ว่า ในการทำรัฐประหารล้มรัฐบาลของ พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ คืนวันที่ 7 พฤศจิกายน ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 โดยกลุ่มทหารนอกราชการที่นำโดย พล.ท.ผิน ชุณหะวัณ, น.อ.กาจ กาจสงคราม, พ.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์, พ.อ.สฤษดิ์ ธนะรัชต์, พ.อ.ถนอม กิตติขจร, พ.ท.ประภาส จารุเสถียร และ ร.อ.สมบูรณ์ (ชาติชาย) ชุณหะวัณ
รัฐประหารสำเร็จปุ๊บ ก็มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ปั๊บทันที โดยไม่ต้องเสียเวลาร่าง ไม่ต้องเสียเวลามาลงมติว่าจะรับหรือไม่รับ หรือรับไปก่อนค่อยแก้ไขทีหลัง ( แต่ความจริงคือ เมริงแก้กรูถอน ) ซึ่งมีการเปิดเผยภายหลังจากปากของ น.อ.กาจ กาจสงครามว่า มีการเตรียมการแอบซุ่มเขียนรัฐธรรมนูญใหม่นี้มานานแล้ว เขียนเสร็จแล้วก็เอาไปซ่อนไว้ใต้ตุ่มน้ำหน้าบันไดบ้าน เมื่อทำรัฐประหารสำเร็จก็สามารถนำออกมาใช้ได้ทันที
ผมก็เลยมานึกเปรียบเทียบกับสถานการณ์ปัจจุบันนี้ อาจแตกต่างกันในรายละเอียด แต่พฤติกรรมคล้ายๆกัน
นั่นคือ พวก ตลกหกเก้า มีคำตัดสินที่เป็นธงเขียนไว้เก็บอยู่ใต้ตุ่มตั้งแต่วันแรกที่รับคำร้องเพื่อยื่นถอดถอนนายกฯยิ่งลักษณ์ ซึ่งความจริงมันผิดตั้งแต่รับเรื่องแล้ว แต่จะไม่รับก็ไม่ได้ เพราะคำตัดสินมันถูกเขียนไว้เก็บอยู่ใต้ตุ่มล่วงหน้าแล้ว รอวันประกาศออกมาเท่านั้น
ข้อแตกต่างของ ตลก ไทย กับ ศาลสากลของประเทศที่เจริญแล้ว อยู่ตรงที่ว่า ศาลประเทศอื่น วินิจฉัยคดีจากพยาน หลักฐาน ตัวบทกฏหมาย แล้วจึงนำมาซึ่งคำพิพากษาตามข้อเท็จจริงของกฏหมาย
ส่วน ตลก ไทย ตั้งธงคำพิพากษาไว้ก่อน แล้วจึงไปหาวาทกรรมมาประดิษฐ์ประดอยสนับสนุนให้คนเชื่อตามคำพิพากษา ( ย้ำนะครับ ใช้วาทกรรม ไม่ใช่ตัวบทกฏหมาย )
ดังนั้น จึงอย่าได้แปลกใจหรือขำกลิ้ง เวลาได้ฟังคำพิพากษา ที่เปิดจากพจนานุกรม เช่นเรื่องทำกับข้าวออกทีวี ถนนลูกรัง สภาผัวเมีย หรือบางทีอ่านชื่อพรรคตะกุกตะกัก ผิดๆถูกๆ ฯลฯ
พูดถึง ตลก แล้วจะไม่พูดถึง ปปช ก็คงไม่ได้ เพราะองค์กรอิสวะพวกนี้ เค้าทำงานกันเป็นทีม
หลังจากรอเวลาดาบแรกจากกลุ่มตลกหกเก้าที่จะงัดเอาคำพิพากษาจากใต้ตุ่มขึ้นมาเล่นงานนายกฯยิ่งลักษณ์แล้ว ดาบที่สองที่เงื้อมือรออยู่ อันนี้ผมว่ายิ่งกว่าคำพิพากษาที่อยู่ใต้ตุ่มซะอีก เพราะมันวางเอาไว้บนฝาตุ่มให้เห็นกันเลย
ปปช.ซึ่งใช้เวลาหลายล้านปีแสงในการสืบพยานตัดสินคดีทุจริตโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่กลับใช้เวลาไม่กี่วันพิจารณาคดีจำนำข้าวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ คนที่ไม่ได้เป็น "โรคนกหวีดลงคอ กปปส.ลงตับ กระส่ายกระสับถ้าไม่ดูบลูสกาย" ก็น่าจะรู้คำตอบได้ว่าผลตัดสินจะลงเอยเช่นไร
ยิ่งเห็นการเตรียมการใส่ร้ายป้ายสีคุณยิ่งลักษณ์เอาไว้ล่วงหน้า ด้วยการลงทุนมโหฬารด้วยงบโฆษณาจากเงินภาษีหลายสิบล้านบาท ทำไปเพื่อสนองตัณหาตัวเอง โดยเจตนาเอานักแสดงที่มีบุคลิคลักษณะคล้ายคุณยิ่งลักษณ์กับลูกชาย พยายามสื่อความหมายว่า อย่าให้คนโกงมีที่ยืนในสังคม แม้แต่แม่โกง เด็กตัวเล็กๆก็ได้รับการรังเกียจไปด้วย ( รู้ๆอยู่ว่าสปอตนี้ตั้งใจทำเพื่อใส่ร้ายป้ายสีใคร แต่ซวยที่ดันเจือกไปโดนหริโชค คนของพวกมันเต็มๆ อันนี้ของจริงไม่ต้องมโน )
ส่วนสปอตอื่นๆ ก็พยายามตอกย้ำเน้นคำว่า "โกง" เป็นวาทกรรมที่ติดปาก โดยมี กปปส.หอนรับบนเวทีเป็นทอดๆ ให้กำจัดคนโกง ต่อต้านคนโกง บลา ๆๆ เพื่อให้สอดคล้องกับคำตัดสินชี้มูลที่ถูกวางรอไว้บนตุ่ม
อะไรไม่ฮาเท่า ในโฆษณานั้น ไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม่ค้า หรือแม้กระทั่งขอทาน ล้วนแล้วแต่รังเกียจคนโกง เพราะมองเห็นคำว่าโกง ติดอยู่บนหน้าผาก
ผมดูแล้ว ก็อดหัวเราะไม่ได้ นึกในใจว่า "คนโกงบ้านโพ่งเหรอ ปั๊มตรายางคำว่าโกงไว้บนหน้าให้พวกเมริงเห็น...... ซัด"
ที่สำคัญ ผมเชื่อโดยความบริสุทธิใจว่า การทุ่มงบโฆษณามหาศาลขนาดนี้ เอเย่นซี่ที่รับงานรวยเละแน่ และพวกเมริงได้เปอร์เซนต์จากงบนี้แน่นอนว่ะ เอิ๊กส์ !
ลงทุนปูทางกันมาขนาดนี้แล้ว คงไม่ต้องลุ้นอะไรมากกับคำตัดสินลงดาบยิ่งลักษณ์ที่ฉบับหนึ่งถูกวางอยู่ใต้ตุ่ม ส่วนอีกฉบับหนึ่งวางให้เห็นกันโต้งๆบนฝาตุ่ม
ผลการตัดสินก็คงเป็นไปตามธงที่ตั้ง แต่ถ้าบังเอิญพลิกล็อคผิดไปจากนี้ ผมยอมให้เอาเท้ามาลูบหน้าแอ๊บแบ๊วได้เลย
ฟันธง !