ช่วงนี้อากาศร้อนมากเลยครับ ส่งผลให้เวลาปั่นจักรยานจะมีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษ
เหงื่อตามตัวไม่มีปัญหาหรอก แต่เหงื่อที่ไหลจากหน้าผากเข้าตานี่ แสบตาสุดๆ (กันแดดที่หน้าผากไม่ได้ทา)
ผมใส่แว่นสายตาปั่นจักรยานด้วยยิ่งเป็นปัญหา จะเอามือมาปาดก็ต้องถอดแว่นออก จะถอดแว่นก็ต้องชลอหรือหยุดปั่น กลุ่มแม่มก็ทิ้ง กลายเป็นว่าหลุดกลุ่มไปโดยปริยาย
จากงานแข่งครั้งที่ผ่านมา (เขาคอหงส์ หาดใหญ่) ซ้อมอยู่เป็นเดือน ศึกษาเส้นทางการปั่น พอวันแข่งจริง จอดเช็ดเหงื่อเข้าตาไป 3 รอบ หลุดทั้งกลุ่มนำ กลุ่มสอง ดับอนาถกับการที่ต้องจอดเช็ดเหงื่อ
ตอนนี้ใช้ผ้าโพกหัวอยู่ที่เป็นผ้าจักรยานหรือผ้าบัฟ แต่...........เอาไม่อยู่ครับ
ไปไล่ๆอ่านใน thaimtb ก็เจอตัวเลือกน่าสนใจมา 3 ตัว แต่....ราคาก็เอาเรื่องอยู่ ไม่ค่อยคุ้มเท่าไร ถ้าจะให้ลองซื้อมาใส่เล่น
เลยอยากถามเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ ว่าผ้ากันเหงื่อทั้ง 3 ตัว ที่ผมเสนอมามันกันเหงื่อได้ดี เหมือนกับที่โฆษณามั้ย หรือไม่แตกต่างจากผ้าบัฟทั่วไป
ตัวแรก
คุณสมบัติ
สวมใส่สบาย ไม่รัดศีรษะ
กันเหงื่อไหลเข้าหน้าและตา ทำให้ผิวหน้าไม่ระคายเหลื่อ ดวงตาไม่มีเหงื่อไหลเข้าบังการมองเห็น
วัสดุ Dryline ดูดซับเหงื่อ ความชื่นได้ดี แห้งเร็ว กันเชื้อโรค
คงรูป ไม่ยืด ไม่ขาดง่าย
รองรับทุกขนาดศีรษะ
ใส่ในหมวกได้
Made in USA
760 บาท
ตัวที่สอง ผ้าโพกหัว นักเทนนิส
ราคา 300+-
ตัวเลือกที่สาม Sweat Gutr ตัวนี้เคยเห็น TCA เอาเข้ามาขาย แต่ด้วยราคาที่แรง เลยไม่ได้รับความนิยมเท่าไร
โดยปกติแล้ว ผ้าคาดหน้าผากกันเหงื่อหยดเข้าตา ก็มีใช้กันมานาน แต่ปัญหาก็มีคือ เมื่อซับเหงื่อมากๆ เหงื่อก็หยดเข้าตาเหมือนเดิม หรือ เกะกะเวลาสวมหมวกจักรยานทับมันแน่นมากๆ หรือเมื่อใช้เสร็จก็ต้องนำกลับมาซัก ซักบ่อยๆ ก็ ยืด และเปื่อยไปตามเวลา ก็เสียสตางค์ไปซื้ออันใหม่อีก
เดี๋ยวนี้มีวิธีการที่ดีกว่านั้นคือ ใช้ Sweat Gutr แถบกันเหงื่อเข้าตา นวัตกรรมใหม่ดีกว่าป้องกันเหงื่อหยดเข้าตาได้ และก็ทำความสะอาดก็ง่ายๆ ด้วย เพราะเป็นแถบยางซิลิโคน มีร่องนำพาเหงื่อไปข้างๆ คิ้ว ไม่ไหลหยดเข้าตา แบบนี้โดนมากกว่านะครับ แถมยังใช้ได้ในหลายๆ กีฬา หาซื้อมาใช้กันได้แล้วนะครับ
Sweat Gutr แถบกันเหงื่อเข้าตา มีสองสีให้เลือกใช้ คือ สีเทาโลโก้สีแดง (Smoke Color) และสีขาวโลโก้สีน้ำเงิน (Frost Color)
Sweat Gutr แถบกันเหงื่อเข้าตา ปรับขนาดได้ตามขนาดศรีษะ โดยมีแถบยางยืดให้สามขนาด
ราคาวางจำหน่าย(สุทธิ) 890 บาท
ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆด้วยครับ เชื่อว่าหลายๆคนต้องเจอปัญหานี้เหมือนกัน
เหงื่อเข้าตาเวลาปั่นจักรยาน
เหงื่อตามตัวไม่มีปัญหาหรอก แต่เหงื่อที่ไหลจากหน้าผากเข้าตานี่ แสบตาสุดๆ (กันแดดที่หน้าผากไม่ได้ทา)
ผมใส่แว่นสายตาปั่นจักรยานด้วยยิ่งเป็นปัญหา จะเอามือมาปาดก็ต้องถอดแว่นออก จะถอดแว่นก็ต้องชลอหรือหยุดปั่น กลุ่มแม่มก็ทิ้ง กลายเป็นว่าหลุดกลุ่มไปโดยปริยาย
จากงานแข่งครั้งที่ผ่านมา (เขาคอหงส์ หาดใหญ่) ซ้อมอยู่เป็นเดือน ศึกษาเส้นทางการปั่น พอวันแข่งจริง จอดเช็ดเหงื่อเข้าตาไป 3 รอบ หลุดทั้งกลุ่มนำ กลุ่มสอง ดับอนาถกับการที่ต้องจอดเช็ดเหงื่อ
ตอนนี้ใช้ผ้าโพกหัวอยู่ที่เป็นผ้าจักรยานหรือผ้าบัฟ แต่...........เอาไม่อยู่ครับ
ไปไล่ๆอ่านใน thaimtb ก็เจอตัวเลือกน่าสนใจมา 3 ตัว แต่....ราคาก็เอาเรื่องอยู่ ไม่ค่อยคุ้มเท่าไร ถ้าจะให้ลองซื้อมาใส่เล่น
เลยอยากถามเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ ว่าผ้ากันเหงื่อทั้ง 3 ตัว ที่ผมเสนอมามันกันเหงื่อได้ดี เหมือนกับที่โฆษณามั้ย หรือไม่แตกต่างจากผ้าบัฟทั่วไป
ตัวแรก
คุณสมบัติ
สวมใส่สบาย ไม่รัดศีรษะ
กันเหงื่อไหลเข้าหน้าและตา ทำให้ผิวหน้าไม่ระคายเหลื่อ ดวงตาไม่มีเหงื่อไหลเข้าบังการมองเห็น
วัสดุ Dryline ดูดซับเหงื่อ ความชื่นได้ดี แห้งเร็ว กันเชื้อโรค
คงรูป ไม่ยืด ไม่ขาดง่าย
รองรับทุกขนาดศีรษะ
ใส่ในหมวกได้
Made in USA
760 บาท
ตัวที่สอง ผ้าโพกหัว นักเทนนิส
ราคา 300+-
ตัวเลือกที่สาม Sweat Gutr ตัวนี้เคยเห็น TCA เอาเข้ามาขาย แต่ด้วยราคาที่แรง เลยไม่ได้รับความนิยมเท่าไร
โดยปกติแล้ว ผ้าคาดหน้าผากกันเหงื่อหยดเข้าตา ก็มีใช้กันมานาน แต่ปัญหาก็มีคือ เมื่อซับเหงื่อมากๆ เหงื่อก็หยดเข้าตาเหมือนเดิม หรือ เกะกะเวลาสวมหมวกจักรยานทับมันแน่นมากๆ หรือเมื่อใช้เสร็จก็ต้องนำกลับมาซัก ซักบ่อยๆ ก็ ยืด และเปื่อยไปตามเวลา ก็เสียสตางค์ไปซื้ออันใหม่อีก
เดี๋ยวนี้มีวิธีการที่ดีกว่านั้นคือ ใช้ Sweat Gutr แถบกันเหงื่อเข้าตา นวัตกรรมใหม่ดีกว่าป้องกันเหงื่อหยดเข้าตาได้ และก็ทำความสะอาดก็ง่ายๆ ด้วย เพราะเป็นแถบยางซิลิโคน มีร่องนำพาเหงื่อไปข้างๆ คิ้ว ไม่ไหลหยดเข้าตา แบบนี้โดนมากกว่านะครับ แถมยังใช้ได้ในหลายๆ กีฬา หาซื้อมาใช้กันได้แล้วนะครับ
Sweat Gutr แถบกันเหงื่อเข้าตา มีสองสีให้เลือกใช้ คือ สีเทาโลโก้สีแดง (Smoke Color) และสีขาวโลโก้สีน้ำเงิน (Frost Color)
Sweat Gutr แถบกันเหงื่อเข้าตา ปรับขนาดได้ตามขนาดศรีษะ โดยมีแถบยางยืดให้สามขนาด
ราคาวางจำหน่าย(สุทธิ) 890 บาท
ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆด้วยครับ เชื่อว่าหลายๆคนต้องเจอปัญหานี้เหมือนกัน