ช่างน่าเสียดาย น่าเสียดายจริงๆ

กระทู้สนทนา
ผมเคยนั่งคิดว่าถ้าผมเป็นพระเจ้าผมจะสร้างโลกด้วยวิธีไหน ผมเคยดูภาพยนต์เรื่องหนึ่งจำชื่อไม่ได้แล้ว
เนื้อเรื่องประมาณว่าโลกเรามีมิติซ้อนกันอยู่ จะมีคนในอีกมิติหนึ่งที่จะมาคอยจัดการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆที่อยู่บนโลก
เช่นจะมีคนมาคอยนั่งทำให้เฟอร์นิเจอร์มันเก่าผุพังไปเรื่อยๆ และบางทีก็มีความผิดพลาดเกิดขึ้นเช่นเราวางกุญแจ
ไว้บนโต๊ะคนในมิติซ้อนเผลอหยิบไปวางอีกทีหนึ่งทำให้เราหาไม่เจอ พอเวลาผ่านไปไหงมันกลับมาอยู่ที่เดิมทั้งที่
ตอนแรกเราก็หาดีแล้วมันไม่มีเป็นต้น

และครั้งหนึ่ง ผมเคยขึ้นไปบนหลังคาบ้าน สังเกตุเห็นมีลูกน้ำในน้ำที่ขังบนรางน้ำ ทำให้ผมคิดว่าหากผมไม่ได้ขึ้นมา
เราจะรู้ไหมว่ามันมีลูกน้ำบนรางน้ำ และมีเหตุผลอะไรที่คนในมิติซ้อนจำเป็นต้องมานั่งทำในจุดที่ไม่คิดว่าจะมีคนเห็น
ผมถึงคิดว่า มันคงยุ่งยากพิลึกหากความจริงมันเป็นอย่างภาพยนต์ แล้วถ้าเป็นเช่นนั้นพระเจ้าท่านจะทำอย่างไร
ผมคิดว่าวิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ พระเจ้าทรงสร้างสิ่งต่างๆแล้วก็กำหนดคุณสมบัติหรือ ธรรมชาติ ของของสิ่งนั้นใส่ลงไปด้วย
แล้วก็ทรงปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ นี่น่าจะเป็นวิธีเดียวที่ง่ายที่สุด

ดังนั้นคนเราทุกคนที่พระเจ้าสร้างล้วนมีคุณสมบัติที่เป็นตัวตนของเราตามธรรมชาติ แต่สำหรับมนุษย์พระเจ้าท่านได้
ใส่คุณสมบัติที่พิเศษอีกข้อหนึ่งซึ่งแตกต่างจากสัตว์ทั่วไปคือ มีตัวรู้ที่อยู่ในจิต หากบุคคลใดสามารถฝึกจิตจนเข้าถึงตัวรู้
ในจิตได้ ย่อมจะพัฒนาตัวตนได้ไปในระดับที่สูงยิ่งๆขึ้นไปได้

มาวันนี้เริ่มจะคิดได้ รู้สึกเสียดายเวลาหลายปีที่ผ่าน ที่เราเฝ้าวิ่งตามไขว่คว้าและให้ความสำคัญกับสิ่งนอกกาย
จนลืมสิ่งพิเศษที่สุดที่พระเจ้าได้ให้กับทุกๆคนมาตั้งแต่กำเนิด ช่างไร้สาระโดยแท้กับอดีตที่ผันผ่าน น่าเสียดาย น่าเสียดาย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่