นับตั้งแต่ พรบ นิรโทษกรรม เข้าสู่สภา ทำให้เกิด มวลหมา ขึ้น ในเดือน พ.ย
สถานการณ์ของรัฐบาล และ ฝ่ายประชาธิปไตย ย่ำแย่ ต้องถอยร่นทุกแนวรบ
จนดูเหมือนว่ารัฐบาลไปไม่รอดแน่ๆ ถึงขนาดต้องยุบสภา ในวันที่ 9 ธันวาคม
และประกาศ พรฏ กำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 2 กพ 2557 ซึ่งตอนนั้น มวลหมากำลังมาแรง
ประกาศขัดขวางทุกรูปแบบ ประกอบกับ กกต ที่นำโดย สมชัย หน้าปุ ก็ไม่เต็มใจทำหน้าที่
ทำให้สถานการณ์หลังจากยุบสภาของรัฐบาลก็ไม่ดีขึ้น เกจิทางการเมืองต่างคาดว่ารัฐบาล
จะอยู่ไม่ถึงสิ้นปี
จวบจนเข้าปีใหม่ มวลหมาประกาศ ชัดดาวน์ กทม โดยการปิด แยก กทม 7 จุด ทำความเดือดร้อนแสน
สาหัสแก่คนทั้งกรุงเทพ รัฐบาลตกอยู่ในสภาพ เป็ดง่อย กระแสรัฐประหารดังกระหึ่ม คนส่วนใหญ่ต่างคิดว่า
ไม่มีการเลือกตั้งแน่นอน แต่ในที่สุดการเลือกตั้งก็สำเร็จกว่า 90 % มีผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่า 20 ล้านคน
แต่ก็ไม่เพียงพอกับการเปิดสภา ต่อมารัฐบาลตัดสินใจผ่าทางตัน สลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้า ในวันที่ 18 กพ
แต่ไม่สำเร็จ ทำให้ยิ่งตกที่นั่งลำบากมากขึ้นไปอีก
ย่างเข้าเดือนมีนาคม สัญญาณบวกเริ่มปรากฏขึ้นเล็กน้อย เมื่อมวลหมาประกาศนำมวลชนถอยไปอยู่ที่สวนลุม
เนื่องจากมวลชนสนับสนุนเริ่มเห็นความไม่ชอบมาพากลในม็อบ ขณะเดียวกันกับ ท่อน้ำเลี้ยงของมวลหมา เริ่ม
ถอยฉาก เพราะมองไม่เห็นชัยชนะ แต่ถึงแม้จะเบาใจเรื่องมวลหมา แต่ศึกใหม่ที่ตามมา คือ องค์กรอิสระ ปปช
กับ ตลก ซึ่งจ้องเล่นงานรัฐบาลทั้งๆที่เหตุผลที่ใช้อ่อนด้อยสิ้นดี กล่าวคือ ปปช จะเล่นงานนายกเรื่องจำนำข้าว
แต่ไม่เคยกล่าวโทษ รมต ที่รับผิดชอบโดยตรงเลย มองก็เห็นชัดเจนว่า จงใจกลั่นแกล้งนายก ส่วน ตลก ยิ่งตลก
ใหญ่จะเล่นงานนายก เรื่องย้ายข้าราชการ ซึ่งบ้องตื้นสิ้นดี แต่ด้วยความที่องค์กรเหล่านี้มาจากเผด็จการ สิ่งที่
คนธรรมดาสามัญไม่กล้าทำ แต่คนเหล่านี้กล้าทำแน่นอน กูรู จึงมั่นใจว่า นายก ไม่รอดแน่
แต่ครั้นถึงเดือน เมษา ซึ่งคนส่วนใหญ่ต่างคิดว่าจะต้องเกิดสงครามกลางเมืองระหว่าง 2 ม็อบแน่ๆ แต่ปรากฏว่า
มีแต่ม็อบแดงมาชุมนุมตามนัด แต่ม็อบมวลหมากลับอยู่แต่ในสวนลุม การปะทะจึงไม่เกิด นับตั้งแต่วันที่ 5 เมษา
ข่าวดีทางฝั่งรัฐบาลเริ่มไหลมาต่อเนื่อง เริ่มจาก พรฏ แบ่งส่วนราชการกลาโหม ที่ให้อำนาจ รมต กลาโหม มีอำนาจ
สั่งการ ตามมาด้วย เทือก อหังการ ตั้งตัวเป็น องค์รัฏฐาธิปัตย์ แต่โดนกระแสตีกลับ จนต้องเดินสายไปแก้ตัวกับ
ปลัดกลาโหม ที่บริเวณที่พักทหารชั้นผู้น้อย โดยไม่มีการต้อนรับให้สมเกียรติแต่อย่างไร หนำซ้ำโดนขอร้องแกม
บังคับให้ช่วงสงกรานต์อย่าก่อความวุ่นวาย ซึ่งเทพก็รับคำสั่งแต่โดยดี
ช่วงต่อมา มีข่าวคนแก่ไม่เจียมตัวกลุ่มหนึ่งเรียกตัวเองว่า "รัฐบุคคล" เสนอโมเดลจะให้ รัฐบุรุษเป็นผู้สนองพระบรมราช
โองการแต่ปรากฏมุกแป็ก หนำซ้ำ เสียงทางฝ่าย ปปช และ ตลก ก็ฟังดูอ่อนไป ไม่เข้มแข็งเหมือนเดิม ยิ่งเมื่อ ศอ.รส
เริ่มโต้ โดยออกแถลงการณ์เตือน องค์กรทั้ง 2 ให้ตัดสินยุติธรรม ตามด้วย รมต ยุติธรรม จะขอใช้ช่องทางให้ ในหลวง
ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย กรณี ที่ถึงทางตันจริงๆ เจอ 2 ดอกนี้ของ รัฐบาลเข้าไป ทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับออกอาการ
จากการลำดับเหตุการณ์ข้างต้น จขกท จึงคิดว่า สถานการณ์ของรัฐบาลเทียบกับตอนแรกดีขึ้นมาก และน่าจะได้ชัยชนะ
ในที่สุด ถ้าไม่สะดุดขาตัวเองหกล้มก่อน
ป.ล ส่วนตัว จขกท ยังเชื่อเสมอว่า ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม กรรมใดใครก่อ มันผู้นั้นต้องเป็นผู้รับกรรม
ดูไปดูมา ผมว่าฝ่ายเราเริ่มได้เปรียบแล้วนะครับ
สถานการณ์ของรัฐบาล และ ฝ่ายประชาธิปไตย ย่ำแย่ ต้องถอยร่นทุกแนวรบ
จนดูเหมือนว่ารัฐบาลไปไม่รอดแน่ๆ ถึงขนาดต้องยุบสภา ในวันที่ 9 ธันวาคม
และประกาศ พรฏ กำหนดวันเลือกตั้งในวันที่ 2 กพ 2557 ซึ่งตอนนั้น มวลหมากำลังมาแรง
ประกาศขัดขวางทุกรูปแบบ ประกอบกับ กกต ที่นำโดย สมชัย หน้าปุ ก็ไม่เต็มใจทำหน้าที่
ทำให้สถานการณ์หลังจากยุบสภาของรัฐบาลก็ไม่ดีขึ้น เกจิทางการเมืองต่างคาดว่ารัฐบาล
จะอยู่ไม่ถึงสิ้นปี
จวบจนเข้าปีใหม่ มวลหมาประกาศ ชัดดาวน์ กทม โดยการปิด แยก กทม 7 จุด ทำความเดือดร้อนแสน
สาหัสแก่คนทั้งกรุงเทพ รัฐบาลตกอยู่ในสภาพ เป็ดง่อย กระแสรัฐประหารดังกระหึ่ม คนส่วนใหญ่ต่างคิดว่า
ไม่มีการเลือกตั้งแน่นอน แต่ในที่สุดการเลือกตั้งก็สำเร็จกว่า 90 % มีผู้มาใช้สิทธิ์มากกว่า 20 ล้านคน
แต่ก็ไม่เพียงพอกับการเปิดสภา ต่อมารัฐบาลตัดสินใจผ่าทางตัน สลายการชุมนุมที่ผ่านฟ้า ในวันที่ 18 กพ
แต่ไม่สำเร็จ ทำให้ยิ่งตกที่นั่งลำบากมากขึ้นไปอีก
ย่างเข้าเดือนมีนาคม สัญญาณบวกเริ่มปรากฏขึ้นเล็กน้อย เมื่อมวลหมาประกาศนำมวลชนถอยไปอยู่ที่สวนลุม
เนื่องจากมวลชนสนับสนุนเริ่มเห็นความไม่ชอบมาพากลในม็อบ ขณะเดียวกันกับ ท่อน้ำเลี้ยงของมวลหมา เริ่ม
ถอยฉาก เพราะมองไม่เห็นชัยชนะ แต่ถึงแม้จะเบาใจเรื่องมวลหมา แต่ศึกใหม่ที่ตามมา คือ องค์กรอิสระ ปปช
กับ ตลก ซึ่งจ้องเล่นงานรัฐบาลทั้งๆที่เหตุผลที่ใช้อ่อนด้อยสิ้นดี กล่าวคือ ปปช จะเล่นงานนายกเรื่องจำนำข้าว
แต่ไม่เคยกล่าวโทษ รมต ที่รับผิดชอบโดยตรงเลย มองก็เห็นชัดเจนว่า จงใจกลั่นแกล้งนายก ส่วน ตลก ยิ่งตลก
ใหญ่จะเล่นงานนายก เรื่องย้ายข้าราชการ ซึ่งบ้องตื้นสิ้นดี แต่ด้วยความที่องค์กรเหล่านี้มาจากเผด็จการ สิ่งที่
คนธรรมดาสามัญไม่กล้าทำ แต่คนเหล่านี้กล้าทำแน่นอน กูรู จึงมั่นใจว่า นายก ไม่รอดแน่
แต่ครั้นถึงเดือน เมษา ซึ่งคนส่วนใหญ่ต่างคิดว่าจะต้องเกิดสงครามกลางเมืองระหว่าง 2 ม็อบแน่ๆ แต่ปรากฏว่า
มีแต่ม็อบแดงมาชุมนุมตามนัด แต่ม็อบมวลหมากลับอยู่แต่ในสวนลุม การปะทะจึงไม่เกิด นับตั้งแต่วันที่ 5 เมษา
ข่าวดีทางฝั่งรัฐบาลเริ่มไหลมาต่อเนื่อง เริ่มจาก พรฏ แบ่งส่วนราชการกลาโหม ที่ให้อำนาจ รมต กลาโหม มีอำนาจ
สั่งการ ตามมาด้วย เทือก อหังการ ตั้งตัวเป็น องค์รัฏฐาธิปัตย์ แต่โดนกระแสตีกลับ จนต้องเดินสายไปแก้ตัวกับ
ปลัดกลาโหม ที่บริเวณที่พักทหารชั้นผู้น้อย โดยไม่มีการต้อนรับให้สมเกียรติแต่อย่างไร หนำซ้ำโดนขอร้องแกม
บังคับให้ช่วงสงกรานต์อย่าก่อความวุ่นวาย ซึ่งเทพก็รับคำสั่งแต่โดยดี
ช่วงต่อมา มีข่าวคนแก่ไม่เจียมตัวกลุ่มหนึ่งเรียกตัวเองว่า "รัฐบุคคล" เสนอโมเดลจะให้ รัฐบุรุษเป็นผู้สนองพระบรมราช
โองการแต่ปรากฏมุกแป็ก หนำซ้ำ เสียงทางฝ่าย ปปช และ ตลก ก็ฟังดูอ่อนไป ไม่เข้มแข็งเหมือนเดิม ยิ่งเมื่อ ศอ.รส
เริ่มโต้ โดยออกแถลงการณ์เตือน องค์กรทั้ง 2 ให้ตัดสินยุติธรรม ตามด้วย รมต ยุติธรรม จะขอใช้ช่องทางให้ ในหลวง
ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย กรณี ที่ถึงทางตันจริงๆ เจอ 2 ดอกนี้ของ รัฐบาลเข้าไป ทำให้ฝ่ายตรงข้ามถึงกับออกอาการ
จากการลำดับเหตุการณ์ข้างต้น จขกท จึงคิดว่า สถานการณ์ของรัฐบาลเทียบกับตอนแรกดีขึ้นมาก และน่าจะได้ชัยชนะ
ในที่สุด ถ้าไม่สะดุดขาตัวเองหกล้มก่อน
ป.ล ส่วนตัว จขกท ยังเชื่อเสมอว่า ธรรมะ ย่อมชนะ อธรรม กรรมใดใครก่อ มันผู้นั้นต้องเป็นผู้รับกรรม