ทีมข่าวการเมืองไทยร้ฐตอกหน้าแงเทือก-จำลอง ที่ออกมุมไหนก็ไล่ รบ.สถานเดียว จึงสร้างกระแสรอ ตลก.และ ปปช. ไหมล่ะพวกคนดีดี๊ดี

เกินเป้าแล้วถึงกล้า?


คำตัดสินของศาลโลกอ่านเป็นภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ที่เมืองไทยปล่อยเสียง “ซาวด์แทร็ก” โดยมีตัววิ่งภาษาไทยและแปลกันแบบ “คำต่อคำ”

แต่ก็แปลกันไปคนละทาง ลากให้เข้าไปตามธงที่ตั้งไว้อยู่แล้ว

ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลก็ฟันธงไทยเสียดินแดนให้เขมร เลือกวิเคราะห์ในมุมที่คำสั่งศาลโลกให้ถอนทหาร ยกชะง่อนผาให้กัมพูชามีทางขึ้นปราสาทพระวิหาร

ปลุกอารมณ์ม็อบไล่กดดันรัฐบาล ไม่ให้ยอมรับคำสั่งศาลโลก

ในขณะที่แนวร่วมฝ่ายรัฐบาลก็ประกาศข่าวดีเลยว่า ประเทศไทยไม่เสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร และพื้นที่ภูมะเขือให้กัมพูชา ศาลโลกสั่งให้ทั้งสองประเทศดูแลพื้นที่ทับซ้อนร่วมกัน

รีบเคลียร์แรงกดดัน ตัดชนวนม็อบไล่ไม่ให้ไหลลาม

แต่คำตอบสุดท้ายก็รู้ไต๋กันอยู่แล้ว ตามปรากฏการณ์ที่ “มหาจำลอง” พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำม็อบพันธมิตรฯ ชิงประกาศจุดยืนก่อนรู้ผลพิพากษาศาลโลกด้วยซ้ำ

ออกมุมไหนก็ไล่รัฐบาลสถานเดียว

และก็คงไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขหยุดหรือไม่หยุด ล่าสุด ที่ประชุมวุฒิสภามีมติเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 141 เสียง ไม่รับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯไว้พิจารณา ในเวลาสี่ทุ่มกว่าดึกวันที่ 11 พฤศจิกายน

เกินกำหนดเส้นตายของม็อบต้านที่ล็อกไว้ในเวลา 18.00 น. ไป 4 ชั่วโมงกว่าๆ

แต่ไม่ทันกาลกับการประกาศยกระดับกดดันขั้นสูงสุด

“เทพเทือก”นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำขาใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ นำทีม 8 ส.ส. ประกาศทิ้งตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ลาออกจาก ส.ส.มานำม็อบนอกสภาฯ ล้มรัฐบาลเต็มตัว

ทิ้งไพ่เพิ่ม  เดิมพันหน้าตักไปอีกขั้น

เดินหน้ายุให้แนวร่วมประชาชนฝ่ายต้านรัฐบาลกระทำการ “อารยะขัดขืน” ด้วยการนัดหยุดงาน หยุดราชการ ชะลอภาษี ในวันที่ 13-15 พฤศจิกายน

ประชาธิปัตย์ลากม็อบนอกสภาต่อตามธงล้มรัฐบาลให้ได้

ที่แน่ๆถึงนาทีนี้ทีมงานพรรคประชาธิปัตย์ทำได้เกินเป้าแล้ว กับการให้มวยภูธรอย่าง “เทพเทือก” มาเป็นหัวหอกเปิดเวทีม็อบนอกสภา

ยึดบทแกนนำมวลชนฝ่ายต้านรัฐบาลแทนยี่ห้อ “สนธิ ลิ้มทองกุล”

ได้ทั้งกระแส กระสุน กวาดเสียงสนับสนุนจากชนชั้นกลางทั้งในกรุงเทพฯและหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด ตุนแต้มรอเลือกตั้งรอบต่อไป ไหนจะชุ่มชื่นกับ “น้ำเลี้ยง” จากสปอนเซอร์หนุนม็อบ

ที่สำคัญตามเหลี่ยมของโคตรเซียนการเมืองยี่ห้อประชาธิปัตย์ น่าจะประเมินแล้ว
อีกไม่นานก็ต้องเลือกตั้งใหม่

ในจังหวะม็อบไล่ “อุ่นเตา”จนร้อนขึ้นทุกขณะ สร้างบรรยากาศเร้ากระแส ในสถานการณ์ลุ้นคว่ำลุ้นหงายในด่านองค์กรอิสระ

ทั้งคิวที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้อง 4 คำร้อง ในประเด็นที่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายนิคม ไวยรัชพานิช ในฐานะรองประธานรัฐสภา และสมาชิกรัฐสภา 312 คน ร่วมกันลงชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ  ส.ว.ว่า เข้าข่ายล้มล้างการปกครองตามมาตรา 68 หรือไม่

ลุ้นเสียวกันในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เวลา 11.00 น.

ไหนจะปมทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และประเด็นถอดถอนนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจากโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ที่ “ค้างเขียง” อยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

จ่อ “ลงดาบ” ได้ทุกขณะ

เหนืออื่นใด ในสถานการณ์ที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ของรัฐบาล ตามธรรมชาติการเมืองที่กระแสรัฐบาลมาถึงจุดผกผัน ต่อให้นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เหนียวยังไง

ก็ลากยาวไปได้เต็มที่ก็ไม่เกินปีหน้า

ประชาธิปัตย์ถึงได้ตัดใจเพิ่มเดิมพันเก้าอี้ ส.ส. หลังแทงกั๊กมาตลอด.


ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์ 13 พฤศจิกายน 2556,
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/382453


                                               ???????????????????????????????????



"....คำตอบสุดท้ายก็รู้ไต๋กันอยู่แล้ว ตามปรากฏการณ์ที่ “มหาจำลอง” พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำม็อบพันธมิตรฯ ชิงประกาศจุดยืนก่อนรู้ผลพิพากษาศาลโลกด้วยซ้ำ
ออกมุมไหนก็ไล่รัฐบาลสถานเดียว

และก็คงไม่เกี่ยวกับเงื่อนไขหยุดหรือไม่หยุด .....พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ.."


".... สร้างบรรยากาศเร้ากระแส ในสถานการณ์ลุ้นคว่ำลุ้นหงายในด่านองค์กรอิสระ   คิวที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้อง 4 คำร้อง ....

ลุ้นเสียวกันในวันพุธที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เวลา 11.00 น....."



มุขเดิมๆ  ลีลาเดิมๆเลียนแบบการโค่นทักษิณเดี๊ยะ
เพียงแต่เปลี่ยนจากเจ๊กลิ้มมาเป็นฆาตกรเทือกเท่านั้น....เท่านั้นเอง...

แต่ขอถามหน่อย
รู้จักหัวจิตหัวใจและพลังของคนเสื้อแดงดีพอหรือยังก่อนที่จะคิดทำเช่นนี้ในวันนี้

พ.ศ.2556   ไม่เหมือน พ.ศ.2549 นะเว้ยเฮ้ย........