กะจังหวะพลาดมุกแป้ก
ปั่นกระแสม็อบต้านรัฐบาลให้จุดติดก็ว่ายากแล้ว แต่โจทย์ที่ยากกว่าของแกนนำม็อบมือใหม่อย่าง “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็คือต้องกะจังหวะประคองเกมยืนระยะให้ดีๆ
แล้วก็จริงๆ จากที่คุมเชิงรุกต่อเนื่องอยู่ดีๆ
แต่
วัดปฏิกิริยาสะท้อนกลับจากการที่ “เทพเทือก” ได้ยุให้ประชาชนทั่วไป “อารยะขัดขืน” กดดันรัฐบาล ด้วยการหยุดงาน ชะลอการเสียภาษี
เรียกเสียงเป่านกหวีดปรี๊ดยาวจากกองเชียร์ขอบเวที
พอ
ถึงเวลาจริง “มุกแป้ก” ไม่มีใครเอาด้วยซักเท่าไหร่ งานกร่อยไปถนัดตา
ที่แน่ๆในมุมที่
คนกลางๆต่างออกมาประสานเสียงคัดค้านเป็นโทนเดียวกัน ไล่ตั้งแต่
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุ
การนัดหยุดงานเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
แม้เป็นเรื่องสิทธิของแต่ละบุคคล เพราะจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และที่สำคัญจะส่งผลกระทบความเชื่อมั่นของประเทศไทยต่อสายตาชาวโลก และเรื่องที่ผู้ชุมนุมขอให้ชะลอชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลก็ไม่เห็นด้วย เพราะ ส.อ.ท.เป็นองค์กรที่มีหน้าที่ส่งเสริมการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน การชำระภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองดีทุกคนจึงต้องเสียภาษี
หากไม่เสียภาษี จะเป็นการคอร์รัปชันประเภทหนึ่ง
อารมณ์ใกล้เคียงกับ
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย แถลงจุดยืนเลยว่า
การคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ได้บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว เพราะผู้นำรัฐบาลได้ออกมาแถลงยอมยุติร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวกับสาธารณชนแล้ว
ดังนั้น
จึงต้องการให้ทุกฝ่ายยุติการชุมนุมในทุกเวที ลดการเผชิญหน้าและไม่ใช้ความรุนแรงที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ของประเทศ
ส่วนที่นายสุเทพได้ขอให้ภาคธุรกิจดำเนินการอารยะขัดขืนโดยการหยุดงาน และให้หยุดจ่ายภาษี ทางหอการค้าไทยไม่เห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และหากภาคธุรกิจหยุดงาน ก็จะทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักได้
ท่าที
องค์กรหลักภาคเอกชนประสานเสียง ไม่รับมุก “อารยะขัดขืน”
กระแสประชาชนคนกลางๆเริ่มไม่ตื่นเต้นกับการยกระดับชุมนุมกดดันไล่รัฐบาล เพราะ
ผ่านเงื่อนไขคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯไปแล้ว
โดยรูปการณ์เลยเปิดให้โดนเบิ้ลกลับทางการเมือง ตามท้องเรื่องที่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ทีโพสต์เฟซบุ๊ก ย้อนถามเป็นเชิงเบิ้ลบลัฟนายกรณ์ จาติกวณิช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้คุยกับนายสุเทพบ้างหรือไม่
ในฐานะที่นายกรณ์เป็นอดีต รมว.คลัง ทำหน้าที่เก็บภาษี และรู้ดีว่ารัฐต้องมีวินัยการเงินการคลัง ทราบดีว่า งบประมาณแผ่นดิน มีไว้เพื่อพัฒนาประเทศ ทำโครงการดีๆให้ประชาชน ทราบดีว่านักลงทุนต่างชาติเขาวัดความน่าเชื่อถือของประเทศที่ความแข็งแรงทางการเงินการคลัง
หรือนายกรณ์พร้อมที่จะทิ้งความเป็นมืออาชีพทางการเงิน การคลัง เพื่ออำนาจทางการเมือง
เห็นด้วยกับการ “แช่แข็งประเทศไทย” และ “ปิดประเทศ”
ปฏิเสธไม่ออก
ประชาธิปัตย์เดินเกมแรง กะจังหวะรุกพลาด
พาลให้เกมไล่รัฐบาลสะดุด
ที่แน่ๆการยกระดับกดดันตามเกมของ “เทพเทือก” ก็ไปเข้าเหลี่ยมประเมินของฝ่ายความมั่นคง ตามข้อมูลที่ประชุม ศอ.รส.ได้วิเคราะห์สถานการณ์การชุมนุมตาม
ทฤษฎีที่มี 4 ขั้นตอน พบว่าขณะนี้ได้บรรลุขั้นแรกในการระดมมวลชนทุกวิถีทางโดยใช้เงื่อนไข คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และคำตัดสินศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหาร ขณะนี้ผู้ชุมนุมยกระดับสู่ขั้นที่ 2 คือการสร้างความไร้ระเบียบ ปลุกเร้าให้ปฏิเสธอำนาจรัฐโดยการเชิญชวนให้ประชาชนทำอารยะขัดขืน และกำลังเข้าสู่ขั้นที่ 3 คือสร้างความวุ่นวาย ปะทะ จลาจล เพื่อเป้าหมายขั้นสุดท้ายคือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ต้องการตอกย้ำม็อบไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น นอกจากธงโค่นล้มรัฐบาล
เพิ่มน้ำหนัก “ความชอบธรรม” ของเจ้าหน้าที่ในการเตรียม “เครื่องมือ” รับสถานการณ์ล่วงหน้า
ตามปรากฏการณ์ที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. ย้ำการข่าวเองเลยว่า
ม็อบจะมีการยกระดับเรื่องความรุนแรง จะมีเรื่องมือที่สามเข้ามาแทรกซึมเพื่อก่อเหตุความรุนแรงในการชุมนุม เพื่อหวังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
(ดีเอสไอ) ก็ตั้งแท่นชงสำนวนคดีกบฏรอไว้
โดยรูปเกมมันก็น่าสนใจ
ที่ประกาศลั่นว่าต้องให้จบภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลต้องไป หรือ “เทพเทือก” ต้องลงจากเวทีกันแน่.
ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์ 14 พฤศจิกายน 2556,
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/382674
??????????????????????????????????????????
"....
ม็อบจะมีการยกระดับเรื่องความรุนแรง จะมีเรื่องมือที่สามเข้ามาแทรกซึมเพื่อก่อเหตุความรุนแรงในการชุมนุม เพื่อหวังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ
(ดีเอสไอ) ก็ตั้งแท่นชงสำนวนคดีกบฏรอไว้
โดยรูปเกมมันก็น่าสนใจ
ที่ประกาศลั่นว่าต้องให้จบภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลต้องไป หรือ “เทพเทือก” ต้องลงจากเวทีกันแน่....."
ไส้พุงมีกี่ขดหน่วยงานความมั่นคงเขารู้เหี้ยนเต้
และได้ตีกรอบดักทางไว้หมดแล้วด้วย จำนวนคนของม็อบจึงฝ่อลงไปทุกวันๆ
อีกทั้งมวลชนคนเสื้อแดงก็วอร์มอั๊พคอยดัดหลังอยู่อีกทีหากเกิดการล้มรัฐบาลของพวกเขาสำเร็จขึ้นมาจริงๆ....
คนเพียงกระหยิบมือเดียวที่มีอยู่เจือกมาทำซ่า
ไม่แหกตาดูหรือว่ารอบๆปริมณฑลและเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศ คนเสื้อแดงเขาระดมพลกันอย่างมืดฟ้ามัวดินไว้รอแล้ว
ม็อบเพียงแค่นี้จะพอละอองธุลีขี้เท้าของเขาหรือ.....
ไป...ไสหัวไปได้แล้วเทือก
มุกแป๊กแล้ว....ลงรูเดิมไปเร้ยยยย....รำคาญฟร่ะ...
ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐวันนี้ประจานฆาตกรเทือก"กะจังหวะพลาดมุกแป๊ก"...องค์กรหลักภาคเอกชนประสานเสียง ไม่รับมุก “อารยะขัดขืน”
ปั่นกระแสม็อบต้านรัฐบาลให้จุดติดก็ว่ายากแล้ว แต่โจทย์ที่ยากกว่าของแกนนำม็อบมือใหม่อย่าง “เทพเทือก” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ก็คือต้องกะจังหวะประคองเกมยืนระยะให้ดีๆ
แล้วก็จริงๆ จากที่คุมเชิงรุกต่อเนื่องอยู่ดีๆ
แต่วัดปฏิกิริยาสะท้อนกลับจากการที่ “เทพเทือก” ได้ยุให้ประชาชนทั่วไป “อารยะขัดขืน” กดดันรัฐบาล ด้วยการหยุดงาน ชะลอการเสียภาษี
เรียกเสียงเป่านกหวีดปรี๊ดยาวจากกองเชียร์ขอบเวที
พอถึงเวลาจริง “มุกแป้ก” ไม่มีใครเอาด้วยซักเท่าไหร่ งานกร่อยไปถนัดตา
ที่แน่ๆในมุมที่คนกลางๆต่างออกมาประสานเสียงคัดค้านเป็นโทนเดียวกัน ไล่ตั้งแต่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุการนัดหยุดงานเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม
แม้เป็นเรื่องสิทธิของแต่ละบุคคล เพราะจะกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต และที่สำคัญจะส่งผลกระทบความเชื่อมั่นของประเทศไทยต่อสายตาชาวโลก และเรื่องที่ผู้ชุมนุมขอให้ชะลอชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลก็ไม่เห็นด้วย เพราะ ส.อ.ท.เป็นองค์กรที่มีหน้าที่ส่งเสริมการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน การชำระภาษีเป็นหน้าที่ของพลเมืองดีทุกคนจึงต้องเสียภาษี
หากไม่เสียภาษี จะเป็นการคอร์รัปชันประเภทหนึ่ง
อารมณ์ใกล้เคียงกับนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย แถลงจุดยืนเลยว่า การคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ได้บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว เพราะผู้นำรัฐบาลได้ออกมาแถลงยอมยุติร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวกับสาธารณชนแล้ว
ดังนั้นจึงต้องการให้ทุกฝ่ายยุติการชุมนุมในทุกเวที ลดการเผชิญหน้าและไม่ใช้ความรุนแรงที่อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงความเชื่อมั่น และภาพลักษณ์ของประเทศ
ส่วนที่นายสุเทพได้ขอให้ภาคธุรกิจดำเนินการอารยะขัดขืนโดยการหยุดงาน และให้หยุดจ่ายภาษี ทางหอการค้าไทยไม่เห็นด้วย เพราะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และหากภาคธุรกิจหยุดงาน ก็จะทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักได้
ท่าทีองค์กรหลักภาคเอกชนประสานเสียง ไม่รับมุก “อารยะขัดขืน”
กระแสประชาชนคนกลางๆเริ่มไม่ตื่นเต้นกับการยกระดับชุมนุมกดดันไล่รัฐบาล เพราะผ่านเงื่อนไขคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯไปแล้ว
โดยรูปการณ์เลยเปิดให้โดนเบิ้ลกลับทางการเมือง ตามท้องเรื่องที่นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ทีโพสต์เฟซบุ๊ก ย้อนถามเป็นเชิงเบิ้ลบลัฟนายกรณ์ จาติกวณิช แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ได้คุยกับนายสุเทพบ้างหรือไม่
ในฐานะที่นายกรณ์เป็นอดีต รมว.คลัง ทำหน้าที่เก็บภาษี และรู้ดีว่ารัฐต้องมีวินัยการเงินการคลัง ทราบดีว่า งบประมาณแผ่นดิน มีไว้เพื่อพัฒนาประเทศ ทำโครงการดีๆให้ประชาชน ทราบดีว่านักลงทุนต่างชาติเขาวัดความน่าเชื่อถือของประเทศที่ความแข็งแรงทางการเงินการคลัง
หรือนายกรณ์พร้อมที่จะทิ้งความเป็นมืออาชีพทางการเงิน การคลัง เพื่ออำนาจทางการเมือง
เห็นด้วยกับการ “แช่แข็งประเทศไทย” และ “ปิดประเทศ”
ปฏิเสธไม่ออก ประชาธิปัตย์เดินเกมแรง กะจังหวะรุกพลาด
พาลให้เกมไล่รัฐบาลสะดุด
ที่แน่ๆการยกระดับกดดันตามเกมของ “เทพเทือก” ก็ไปเข้าเหลี่ยมประเมินของฝ่ายความมั่นคง ตามข้อมูลที่ประชุม ศอ.รส.ได้วิเคราะห์สถานการณ์การชุมนุมตามทฤษฎีที่มี 4 ขั้นตอน พบว่าขณะนี้ได้บรรลุขั้นแรกในการระดมมวลชนทุกวิถีทางโดยใช้เงื่อนไข คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และคำตัดสินศาลโลกกรณีปราสาทพระวิหาร ขณะนี้ผู้ชุมนุมยกระดับสู่ขั้นที่ 2 คือการสร้างความไร้ระเบียบ ปลุกเร้าให้ปฏิเสธอำนาจรัฐโดยการเชิญชวนให้ประชาชนทำอารยะขัดขืน และกำลังเข้าสู่ขั้นที่ 3 คือสร้างความวุ่นวาย ปะทะ จลาจล เพื่อเป้าหมายขั้นสุดท้ายคือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ต้องการตอกย้ำม็อบไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้น นอกจากธงโค่นล้มรัฐบาล
เพิ่มน้ำหนัก “ความชอบธรรม” ของเจ้าหน้าที่ในการเตรียม “เครื่องมือ” รับสถานการณ์ล่วงหน้า
ตามปรากฏการณ์ที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการ ศอ.รส. ย้ำการข่าวเองเลยว่า ม็อบจะมีการยกระดับเรื่องความรุนแรง จะมีเรื่องมือที่สามเข้ามาแทรกซึมเพื่อก่อเหตุความรุนแรงในการชุมนุม เพื่อหวังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ตั้งแท่นชงสำนวนคดีกบฏรอไว้
โดยรูปเกมมันก็น่าสนใจ ที่ประกาศลั่นว่าต้องให้จบภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลต้องไป หรือ “เทพเทือก” ต้องลงจากเวทีกันแน่.
ทีมข่าวการเมือง
ไทยรัฐออนไลน์ 14 พฤศจิกายน 2556,
http://www.thairath.co.th/column/pol/wikroh/382674
??????????????????????????????????????????
"....ม็อบจะมีการยกระดับเรื่องความรุนแรง จะมีเรื่องมือที่สามเข้ามาแทรกซึมเพื่อก่อเหตุความรุนแรงในการชุมนุม เพื่อหวังผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ขณะที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็ตั้งแท่นชงสำนวนคดีกบฏรอไว้
โดยรูปเกมมันก็น่าสนใจ ที่ประกาศลั่นว่าต้องให้จบภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลต้องไป หรือ “เทพเทือก” ต้องลงจากเวทีกันแน่....."
ไส้พุงมีกี่ขดหน่วยงานความมั่นคงเขารู้เหี้ยนเต้
และได้ตีกรอบดักทางไว้หมดแล้วด้วย จำนวนคนของม็อบจึงฝ่อลงไปทุกวันๆ
อีกทั้งมวลชนคนเสื้อแดงก็วอร์มอั๊พคอยดัดหลังอยู่อีกทีหากเกิดการล้มรัฐบาลของพวกเขาสำเร็จขึ้นมาจริงๆ....
คนเพียงกระหยิบมือเดียวที่มีอยู่เจือกมาทำซ่า
ไม่แหกตาดูหรือว่ารอบๆปริมณฑลและเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศ คนเสื้อแดงเขาระดมพลกันอย่างมืดฟ้ามัวดินไว้รอแล้ว
ม็อบเพียงแค่นี้จะพอละอองธุลีขี้เท้าของเขาหรือ.....
ไป...ไสหัวไปได้แล้วเทือก
มุกแป๊กแล้ว....ลงรูเดิมไปเร้ยยยย....รำคาญฟร่ะ...