เรื่องนี้ถือว่าเป็นบทเรียนราคาแพงและเป็นอุทาหรณ์ให้ดิฉันต้องจดจำ ถ้าหากมีลูกอีกคนหนึ่ง ถึงลูกจะเรียนเก่งแค่ไหน ก็ต้องเข้าเรียนตามเกณฑ์ (ถ้าเรียนระบบไทย) เริ่มเรื่องเลยค่ะ   
ดิฉันนำลูกเข้าเรียนที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งตั้งแต่เล็ก ลูกก็เรียนได้ดี คุณครูสนับสนุนให้ขึ้นป.1 (ตามคำแนะนำของคุณหมอพัฒนาการส่วนหนึ่ง) ดิฉันจึงตัดสินใจให้ลูกขึ้นอ.1 ตั้งแต่ 2ขวบ เก้าเดือน  คุณครูบางท่านทักว่าน้องจะเรียนไม่ได้ บางท่านก็ว่าเรียนได้ ดิฉันตัดสินใจให้ลูกเรียนค่ะ ถ้าไม่ได้ซ้ำชั้น แต่ผลที่ได้เกินคลาดค่ะ ลูกสอบได้ 96% พอขึ้น อ.2 - อ.3   ลูกก็สอบได้เช่นเดิม (โรงเรียนสอนแบบเข้มมาก เด็กที่จบส่วนใหญ่จะอ่านหนังสือดรุณได้จนจบ บวกลบเลข แบบทด 4 หลัก ภาษาอังกฤษแต่งประโยค) แต่โรงเรียนนี้มีแค่ อ.3 พอจบต้องหาโรงเรียนใหม่ ดิฉันไม่รอช้า ตั้งใจว่าจะให้ลูกเข้าโรงเรียน .... เนื่องจากใกล้บ้าน จึงโทรติดต่อโรงเรียนตั้งแต่ลูกอยู่ อ.3 เทอม1 แจ้งโรงเรียนเรื่องอายุที่น้อย แจ้งผลการสอบของลูก โรงเรียนบอกว่าหากลูกทำสอบได้ โรงเรียนจะรับ ดิฉันจึงตั้งใจให้ลูกอยู่ที่นี้ เลยไม่ได้หาที่อื่นเผื่อไว้เลย (ดิฉันผิดเองที่ไว้ใจโรงเรียนนี้) พอถึงวันที่พาลูกมาสอบ คุณครูบอกจะไม่รับเพราะน้องอายุน้อย (เอาล่ะสิ)  ดิฉันก็แย้งค่ะ ว่าโทรติดต่อแล้ว คุณครูก็ให้สอบค่ะ ลูกก็ทำได้ (เห็นคุณครูบอก) ถ้างั้นตกลงว่าจะให้ลูกลองมาเรียนซัมเมอร์
พอถึงวันเปิดซัมเมอร์ ทางโรงเรียนกลับไม่ให้เรียนซัมเมอร์เพื่อขึ้น ป.1  แต่กลับจะให้ลูกไปเรียน อ.3 ใหม่ ดิฉันก็ไม่ยอมค่ะ พยายามอธิบายทุกอย่างให้คุณครูฟัง แต่คุณครูอ้างว่าเมื่อปีที่แล้วเด็กที่จบจากโรงเรียนอนุบาลที่ลูกเรียน อายุน้อยพอให้เรียน ก็เรียนไม่ได้ ต่อรองอยู่นานค่ะ จนคุณครูใหญ่มาพบเหตุการณ์ คุณครูให้เรียนค่ะ หลังสงกรานต์ มาฟังคำตอบว่าน้องจะเรียนได้ไหม ดิฉันให้ลูกไปเรียนตามปกติ สิ่งที่โรงเรียนนี้สอนคือ วิชาเลข (เขียน 1  ๑  หนึ่ง - 10 )  อังกฤษ A a เอ  - Z   มีบวกเลข 1 + ? = 4  มีลากเส้นตามจุด1-20 ระบายสี  มีการเรียนประมาณเนี่ยค่ะ  

และแล้ววันที่รอคอยก็มา วันนี้ดิฉันไปขอคำตอบจากโรงเรียน  ทางโรงเรียนส่งคุณครูคนหนึ่งมาคุย
คุณครูบอกว่า "น้องเรียนเก่ง เป็นเด็กหัวดี แต่อายุน้อย 5 ปี 9 เดือน โรงเรียนไม่สามารถรับไว้ได้ เพราะน้องจะเรียนไม่ได้ ถ้าอยากให้อยู่โรงเรียนนี้ให้เรียนอ.3 "
ดิฉันถามต่อว่า " ลูกอ่านออกเขียนได้แล้ว เรื่องเลข + Eng ก็ดี เพียงแต่น้องอายุน้อย ในทางกลับกัน มีเด็กบางส่วนที่อายุเกิน 6 ปี แต่กลับอ่าน เขียน ยังไม่ได้ ทางโรงเรียนกลับบอกว่าเด็กเหล่านั้นเรียนได้ "
คุณครู อึ้งค่ะ  " คุณแม่ต้องเข้าใจน่ะค่ะ ว่าถ้าลูกคุณแม่เป็นโดมิโน แล้วโดมิโนตัวนี้ล้ม จะทำให้ทั้งแถวล้ม ผลสอบ โอเน็ต ของโรงเรียนก็แย่

ตอนนั้นรู้สึกแย่มากค่ะ  เสียดายความรู้สึกดีๆที่มีให้โรงเรียน คุณครูท่านนั้นควรหาคำตอบที่ดีกว่านี้มาให้ผู้ปกครอง ตอนนั้นดิฉันได้สนทนากับคุณครูท่านนานพอสมควร และจบที่ดิฉันบอก ไม่เป็นไร ในเมื่อที่โรงเรียน แห่งนี้ไม่เห็นคุณค่า ก็ไม่ควรเรียนที่นี้ ที่สำคัญไม่ควรโกหกผู้ปกครอง ว่าถ้าสอบผ่านจะให้เรียน มันเป็นการตัดโอกาส และอนาคตของเด็กคนหนึ่งไป  

จริงๆ ดิฉันยังมีคำถามติดค้างในใจ อีกข้อที่ไม่ได้ถามคุณครูท่านนั้น    คือ  ที่จะให้ลูกดิฉันไปเรียน อ.3 ใหม่ เพื่ออะไร  
1. ไปนั่งฟังคนอื่นหัดอ่าน ก.  
2. ไปนั่งหัดคัดลายมือให้สวย (ใช้กับการดำรงชีวิตในอนาคตได้ไหม)
3. ไปนั่งนับ 1 -10 ใหม่

โรงเรียนนี้ มีคุณครูใหญ่ที่ใจดีมาก แต่น่าเสียดาย ที่ให้คุณครูหัวโบราณกลุ่มนี้ได้ตัดสินใจโดยใช้แค่ความรู้สึกส่วนตัว เปรียบเทียบเด็ก เด็กแต่ล่ะคนมีความสามารถไม่เท่ากัน  คุณได้ลองให้โอกาสเด็กได้ทดสอบฝีมือหรือยัง