แชร์ประสบการณ์ความเจ็บปวด จากเรื่องราวความรักและการให้โดยไม่หวังสิ่งใด ....สุดท้ายได้อะไร???

แชร์ประสบการณ์ความเจ็บปวด จากเรื่องราวความรักและการให้โดยไม่หวังสิ่งใด ....สุดท้ายได้อะไร

เราขอเล่าประสบการณ์ที่คิดว่ารักคือการให้ เคยแม้กระทั่งยอมแชร์เงินเดือนของเราให้เขาใช้
**ไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อในทุกสิ่งที่กล่าวมาบนกระทู้นี้ เนื่องจากอาจเป็นการฟังความข้างเดียว แต่มันคือความเจ็บปวดที่ไม่เจอกับตัว คงไม่เข้าใจ**

เรามีแฟนคนนึงขอใช้นามสมมติว่า "อ๊าก" คบกันมาปีกว่าๆ เรารู้จักกันเพราะพี่อ๊ากเป็นพี่ชายของเพื่อนที่เรียนมหาลัยด้วยกัน
เจอกันด้วยความบังเอิญในงานรับปริญญา ตลอด 4 ปีที่เรียนมาเราไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนคนนี้มีพี่ชาย คือพี่อ๊าก
หลังจากจบพิธีรับปริญญาไปไม่กี่วัน พี่อ๊ากได้แอดเฟสบุคมา และเข้ามาคุยกับเราทางแชทเฟส ซึ่งเราก็คุยไปตามปกติ (ตอนนั้นเรามีแฟนอยู่แล้ว )
ส่วนมากเราคุยกันเรื่องงาน เพราะเราเพิ่งจบทำงานได้ไม่กี่เดือน เพราะแม่ให้ไปทำ ยังไม่ใช่งานที่ชอบ
เลยคุยกะพี่อ๊ากเพราะเค้าแนะนำว่ามีงาน นู่นนี่นั่น เยอะแยะ
คุยไปได้สักพักเราก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ประจวบเหมาะกับเราจับได้ว่าแฟนเรายังติดต่อกับแฟนเก่าอยู๋ (ทำงานที่เดียวกะแฟน เพิ่งคบกันได้ 2-3เดือน)
ต่อมาเราก็เริ่มไปมาหาสู่กัน ไปเที่ยว ไปหาอะไรกิน และเราเข้าออกบ้านเค้าได้อย่างไม่เขินอาย เพราะเค้าเป็นพี่ชายเพื่อนเรา
..............ต่อมาเราก็เลิกกับแฟน เพื่อมาคบกับพี่อ๊าก พี่อ๊ากไม่สบายใจที่เรายังทำงานอยู่ที่เก่า
เค้าจึงจัดสรรหาที่ทำงานให้ใหม่ ซึ่งที่นี่ๆก็มีญาติเค้าทำงานอยู่ด้วย เราไปสัมภาษแล้วได้งานทันที
คบกันได้ไม่นานเราก็ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านของเค้า บ้านเค้าเป็นบ้านปลูกเอง หลังไม่ใหญ่ เป็นบ้านชั้นเดียว
มีห้องนอนห้องเดียว และในรั้วเดียวกันมีบ้านญาติอีกหลังนึง

....ช่วงที่คบกันแรกๆ เราไม่คิด และไม่เห็นว่าชีวิตเค้ามีปัญหามากมาย ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน เรามารู้สักพักหลังว่าเค้าตกงาน ว่างงานมาหลายเดือน (เค้าเป็นคนที่วางตัวดีมาก ดูดีมาก จากภายนอก พูดจาดี น่าเชื่อถือ)
ในวันที่ว่างๆ ก็จะเอาแท๊กซี่ของที่บ้านไปขับแทนในเวลาที่พ่อไม่ขับ เป็นการหารายได้ (ตอนนั้นเราแอบคิดว่า รับได้เหรอมีแฟนเป็นคนขับแท๊กซี่ ที่บ้านจะว่ายังไง)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่