ทั้งๆที่ผู้ประกอบการที่เวียดนามต้องจ่ายค่า social insurance สูงมากแต่เพราะอะไร จึงมีการลงทุนที่เวียดนามเพิ่มขึ้น

มันไม่ใช่การเมืองไม่นิ่งหรืออะไรหรอก นอกนึกดูดี ๆ สิ มันมีเรื่องอื่น ๆ มากกว่าเรื่องการเมืองเยอะ
เช่น คนเวียตนามไม่ได้มีประเพณีวันหยุดยาวแบบไทย ไม่ง้องานแบบอยากออกก็ออกไปเลยไม่บอกกล่าว
พื้นฐานคนเวียตนามจะมีการศึกษาขั้นพื่นฐานดีกว่าคนไทย ไม่เมาเหล้าแล้วชวนตีกันแบบไทยให้เสียงานเสียการ
และข้อสำคัญจริง ๆ คือ
1. สิทธิในการเสียภาษีอัตราต่ำเวลาส่งออกไปขายในยุโรปหรือสหรัฐที่เป็นตลาดใหญ่ ๆ เวียตนามยังได้รับการยกเว้นในฐานะประเทศกำลังพัฒนา
แต่ไทยกำลังจะถูกจัดให้หลุดพ้นจากประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งก็ต้องยกเลิกการได้รับการอุดหนุนด้านภาษีหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ด้วย แล้วใครอยากจะ
มาตั้งโรงงานผลิตให้แข่งขันยากขึ้น
2. ค่าแรงงานที่ไทยแพงมากขึ้น ในขนาดที่เวียตนามยังถูกกว่ามาก และคนเวียตนามมีจะเกือบร้อยล้านคนแล้ว แรงงานเหลือเฟือ ถ้าเป็นโรงงานที่
ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี่ขั้นสูงเขาก็ไปตั้งในประเทศที่มีค่าแรงและมีแรงงานให้เลือกมากกว่า
3. ค่าเช่าที่ดินและที่ตั้งโรงงานในไทยมันสูงมาก ในขนาดที่เวียตนามกำลังบูมประเทศ สิทธิต่าง ๆ มันก็ย่อมถูกกว่าแน่นอน ใคร ๆ ก็อยากไปตั้ง
แต่อย่าลืมว่าระบบสาธารณูปโภคเป็นสิ่งที่ต้องมีรองรับ พวกนี้คงแห่กันไปตั้งในเวียตนามเพราะยังพอมีรองรับอยู่ แต่อนาคตอาจจะเจอกับระบบ
แย่ ๆ ที่คงต้องขอถอนตัวไปหาที่ตั้งอื่น ๆ ต่อไป โรงงานที่จะไปลงทุนในเวียตนามส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ต้องใช้แรงงานมาก และพวกที่มีของเสีย
ขยะเยอะ ซึ่งพวกนี้ขอให้ไปจากไทยไกล ๆ เถอะ ระบบนิเวศเราจะได้ดีขึ้นบ้าง ลองนึกถึงสมัยไทยบูมเมื่อ 30 ปีก่อน ก็โรงงานที่ปล่อยของเสีย
พวกนี้ไม่ใช่เหรอที่ย้ายฐานจากไต้หวัน เกาหลีมาผลิตในไทยแล้วทำมลภาวะไทยเสียหาย ต่อไปก็เวียตนามนี่แหละที่จะรับไป