ในประเทศจีน เรายังคงได้ยินเรื่องของขันที ผู้รับใช้ฮ่องเต้และพระมเหสี ซึ่งสละความเป็นชายออกไปจากตัวด้วยความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานทางใจไปตลอดชีวิต เพื่อแลกกับยศฐาบรรดาศักดิ์ที่ใหญ่โต อีกทั้งยังมักใหญ่ใฝ่สูงจนทำให้ระบอบจักรพรรดิล่มสลายไปแล้ว ทว่ายุคปัจจุบัน หลังจากที่ซุนเหย่าถิง ขันทียุคจักรพรรดิเซวียนถ่ง (ปูยี) ได้ลาโลกไปในปี 2539 (ค.ศ.1996) ก็ไม่มีขันทีผู้รับใช้คนใดอยู่รอดอีกเลยในโลก แม้แต่ประเทศที่ยังมีระบอบกษัตริย์หลายๆประเทศ ก็ยกเลิกระบบขันทีพร้อมๆกับการยกเลิกระบบพระสนม (แต่ส่วนมากอาณาจักรหรือจักรวรรดิที่มีขันทีมักจะล่มสลายไปแล้ว)
แต่ในประเทศอินเดีย ยังคงมีบุคคลหนึ่งที่เรียกตนเองว่า "ฮิชระ" ซึ่งเป็นคำภาษาอูรดู ซึ่งเป็นภาษาราชการในปากีสถานและอินเดียเหนือ ที่แปลว่า "ขันที" หรือ "บุคคลแปลงเพศ" ซึ่งทำหน้าที่กิจวัตรประจำวันด้วยการขับร้องฟ้อนรำและขอตังค์แก่ชายหนุ่ม ซึ่งว่ากันว่าถ้าหากไม่ยอมให้เงิน ฮิชระอาจจะล้วงมือจับของลับ (ที่ถูกตัด) แล้วไปป้ายหน้าชายหนุ่มคนนั้น หรือทำลามกใส่ หนักสุดว่ากันว่าถึงขั้นโชว์ของลับที่ถูกตัดไป
ฮิชระไม่ได้เป็นกลุ่มขุนนางหรือกลุ่มการเมืองใด แต่เป็นกลุ่มที่เป็นชายรักชายและมีความสัมพันธ์เชิงเพศเดียวกัน และบูชาพระแม่พหุชระ อันเป็นอวตารของพระแม่อุมาเทวี พระมเหสีของพระศิวะ ซึ่งในทางสังคมถือเป็นกลุ่มวรรณะพิเศษ แต่ไม่ได้พิเศษในทางบวกแต่อย่างใด เพราะในทางลบ กลุ่มฮิชระจะถูกเหยียดหยามจากกลุ่มคนวรรณะอื่นเสมอ แต่ไม่ร้ายแรงเท่ากับที่เหยียดจัณฑาล
การเป็นฮิชระ"ที่แท้จริง" ต้องทำพิธีทางศาสนาโดยเรียกมันว่า "นิรวาณา" ซึ่งถือว่าเป็นการเกิดใหม่แบบไม่มี "ความเป็นชาย"อยู่เลย โดยในเริ่มแรก ผู้ที่จะเป็นฮิชระจะต้องผ่ามะพร้าวให้ละเอียด หากแบ่งไม่ขาด ถือว่าพระแม่พหุชระไม่ได้ปรารถนาให้ชายผู้นั้นเป็นฮิชระ และต้องกลับไปเป็นชายเต็มตัวต่อไป
แต่หากว่าสามารถผ่ามะพร้าวได้เป็นสองซีก ผู้นั้นจะต้องงดกิจกรรมทางเพศไปนานนับสัปดาห์จนเป็นเดือนเลยทีเดียว จนเมื่อถึงฤกษ์งามยามดี ก็จะจัดการให้มีผู้ตัดความเป็นความชายที่เรียกว่า "ไทมา" ซึ่งถือว่ารับพลังจากพระแม่พหุชระมาเพิ่อ "ตัดความเป็นชาย" ออกไป เมื่อถึงวันนั้น ไทมาจะมาที่บ้านของผู้ที่จะเป็นฮิชระ และจะสวดมนต์ถวายพระแม่ จากนั้นก็ปลุกฮิชระให้สวดมนต์ถวายซ้ำไปซ้ำมา จนฮิชระอยู่ในภาวะเวียนหัวมึนงง จากนั้นไทมาให้ผู้ช่วยไพล่หลังของฮิชระและให้ฮิชระกัดผมตัวเอง จากนั้นไทมาจะจับของลับของฮิชระและตัดและดึงมันออกไปหลังจากนั้น ในขณะที่ฮิชระบางทีได้สติขึ้นมาจะร้องกรีดโหยหวนหรือร้องไห้ออกมาดัง ฮิชระรุ่นพี่จะทำการโห่ร้องแสดงความยินดีกลบเสียงนั้น หลังจากนั้น ของลับที่ถูกตัดของฮิชระจะถูกฝังใต้ต้นไม้ใกล้ๆบ้าน (ในขณะที่ของจีนจะต้องถือติดตัวไปจนตาย) โดยฮิชระจะมีเพียงท่อปัสสาวะเท่านั้น เลือดของฮิชระที่ไหลจากของลับจะถูกปล่อยให้ไหลจนหมด โดยไม่มีการห้ามเลือด ซึ่งเป็นเหตผลที่ไม่ไปให้หมอตัด เพราะหมอจะต้องห้ามเลือดแน่นอน โดยถือว่าเลือดนั้นเป็นเลือดของความเป็นชายที่จะต้องขับออกไปให้หมด เวลาที่เลือดไหลออกไปจะถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการทำพิธี เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่างความเป็นและความตาย ฮิชระรุ่นพี่ต่างสวดมนต์ให้ฮิชระน้องใหม่ ระยะเวลาการฟื้นตัวของฮิชระหลังพิธีกรรมจะใช้เวลาประมาณ 40 วัน และยังพยายามอาเจียนเพื่อเอาความเป็นชายออกไปด้วย
อย่างไรก็ตาม พิธีกรรมนี้เป็นพิธีกรรมที่ผิดกฏหมายในประเทศอินเดีย ดังนั้น พิธีกรรมจึงต้องทำอย่างลับๆเสมอ
ฮิชระหลังผ่านพิธีก็จะเข้าสู่ความเป็นฮิชระเต็มตัว แม้ว่าฮิชระจะเป็นสิ่งที่น่าเกลียดไปบ้าง แต่การให้เกียรติฮิชระอย่างหนึ่งคือการมาสวดมนต์ให้กับเด็กแรกเกิดและเข้ามาเป็นแขกเต้นระบำในงานแต่ง
นอกจากนี้ฮิชระที่มีความผิดปกติทางเพศแต่กำเนิด ก็สามารถเป็นฮิชระได้โดยไม่ต้อง "ตัด" แต่จะถูกเหยียดหยามจากฮิชระที่ปกติ และทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากจะเป็นขอทานหรือโสเภณีเท่านั้น
*เสริมอีกหน่อย การเป็นฮิชระในสมัยก่อนต้องทำกันแต่เด็ก อายุไม่เกิน 20 ปี หรือจะตัดตอนหนุ่มก็ได้ แต่ยุคนี้นิยมตัดแค่ตอนหนุ่มเท่านั้น*
เครดิตภาพ:วิกิพีเดีย ฮิชระในปากีสถาน ซึ่งถือว่าน่ารังเกียจในสังคมอิสลามเช่นกัน
ฮิชระ ขันทีอินเดียที่มีลมหายใจอยู่
แต่ในประเทศอินเดีย ยังคงมีบุคคลหนึ่งที่เรียกตนเองว่า "ฮิชระ" ซึ่งเป็นคำภาษาอูรดู ซึ่งเป็นภาษาราชการในปากีสถานและอินเดียเหนือ ที่แปลว่า "ขันที" หรือ "บุคคลแปลงเพศ" ซึ่งทำหน้าที่กิจวัตรประจำวันด้วยการขับร้องฟ้อนรำและขอตังค์แก่ชายหนุ่ม ซึ่งว่ากันว่าถ้าหากไม่ยอมให้เงิน ฮิชระอาจจะล้วงมือจับของลับ (ที่ถูกตัด) แล้วไปป้ายหน้าชายหนุ่มคนนั้น หรือทำลามกใส่ หนักสุดว่ากันว่าถึงขั้นโชว์ของลับที่ถูกตัดไป
ฮิชระไม่ได้เป็นกลุ่มขุนนางหรือกลุ่มการเมืองใด แต่เป็นกลุ่มที่เป็นชายรักชายและมีความสัมพันธ์เชิงเพศเดียวกัน และบูชาพระแม่พหุชระ อันเป็นอวตารของพระแม่อุมาเทวี พระมเหสีของพระศิวะ ซึ่งในทางสังคมถือเป็นกลุ่มวรรณะพิเศษ แต่ไม่ได้พิเศษในทางบวกแต่อย่างใด เพราะในทางลบ กลุ่มฮิชระจะถูกเหยียดหยามจากกลุ่มคนวรรณะอื่นเสมอ แต่ไม่ร้ายแรงเท่ากับที่เหยียดจัณฑาล
การเป็นฮิชระ"ที่แท้จริง" ต้องทำพิธีทางศาสนาโดยเรียกมันว่า "นิรวาณา" ซึ่งถือว่าเป็นการเกิดใหม่แบบไม่มี "ความเป็นชาย"อยู่เลย โดยในเริ่มแรก ผู้ที่จะเป็นฮิชระจะต้องผ่ามะพร้าวให้ละเอียด หากแบ่งไม่ขาด ถือว่าพระแม่พหุชระไม่ได้ปรารถนาให้ชายผู้นั้นเป็นฮิชระ และต้องกลับไปเป็นชายเต็มตัวต่อไป
แต่หากว่าสามารถผ่ามะพร้าวได้เป็นสองซีก ผู้นั้นจะต้องงดกิจกรรมทางเพศไปนานนับสัปดาห์จนเป็นเดือนเลยทีเดียว จนเมื่อถึงฤกษ์งามยามดี ก็จะจัดการให้มีผู้ตัดความเป็นความชายที่เรียกว่า "ไทมา" ซึ่งถือว่ารับพลังจากพระแม่พหุชระมาเพิ่อ "ตัดความเป็นชาย" ออกไป เมื่อถึงวันนั้น ไทมาจะมาที่บ้านของผู้ที่จะเป็นฮิชระ และจะสวดมนต์ถวายพระแม่ จากนั้นก็ปลุกฮิชระให้สวดมนต์ถวายซ้ำไปซ้ำมา จนฮิชระอยู่ในภาวะเวียนหัวมึนงง จากนั้นไทมาให้ผู้ช่วยไพล่หลังของฮิชระและให้ฮิชระกัดผมตัวเอง จากนั้นไทมาจะจับของลับของฮิชระและตัดและดึงมันออกไปหลังจากนั้น ในขณะที่ฮิชระบางทีได้สติขึ้นมาจะร้องกรีดโหยหวนหรือร้องไห้ออกมาดัง ฮิชระรุ่นพี่จะทำการโห่ร้องแสดงความยินดีกลบเสียงนั้น หลังจากนั้น ของลับที่ถูกตัดของฮิชระจะถูกฝังใต้ต้นไม้ใกล้ๆบ้าน (ในขณะที่ของจีนจะต้องถือติดตัวไปจนตาย) โดยฮิชระจะมีเพียงท่อปัสสาวะเท่านั้น เลือดของฮิชระที่ไหลจากของลับจะถูกปล่อยให้ไหลจนหมด โดยไม่มีการห้ามเลือด ซึ่งเป็นเหตผลที่ไม่ไปให้หมอตัด เพราะหมอจะต้องห้ามเลือดแน่นอน โดยถือว่าเลือดนั้นเป็นเลือดของความเป็นชายที่จะต้องขับออกไปให้หมด เวลาที่เลือดไหลออกไปจะถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการทำพิธี เพราะเป็นการต่อสู้ระหว่างความเป็นและความตาย ฮิชระรุ่นพี่ต่างสวดมนต์ให้ฮิชระน้องใหม่ ระยะเวลาการฟื้นตัวของฮิชระหลังพิธีกรรมจะใช้เวลาประมาณ 40 วัน และยังพยายามอาเจียนเพื่อเอาความเป็นชายออกไปด้วย
อย่างไรก็ตาม พิธีกรรมนี้เป็นพิธีกรรมที่ผิดกฏหมายในประเทศอินเดีย ดังนั้น พิธีกรรมจึงต้องทำอย่างลับๆเสมอ
ฮิชระหลังผ่านพิธีก็จะเข้าสู่ความเป็นฮิชระเต็มตัว แม้ว่าฮิชระจะเป็นสิ่งที่น่าเกลียดไปบ้าง แต่การให้เกียรติฮิชระอย่างหนึ่งคือการมาสวดมนต์ให้กับเด็กแรกเกิดและเข้ามาเป็นแขกเต้นระบำในงานแต่ง
นอกจากนี้ฮิชระที่มีความผิดปกติทางเพศแต่กำเนิด ก็สามารถเป็นฮิชระได้โดยไม่ต้อง "ตัด" แต่จะถูกเหยียดหยามจากฮิชระที่ปกติ และทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากจะเป็นขอทานหรือโสเภณีเท่านั้น
*เสริมอีกหน่อย การเป็นฮิชระในสมัยก่อนต้องทำกันแต่เด็ก อายุไม่เกิน 20 ปี หรือจะตัดตอนหนุ่มก็ได้ แต่ยุคนี้นิยมตัดแค่ตอนหนุ่มเท่านั้น*
เครดิตภาพ:วิกิพีเดีย ฮิชระในปากีสถาน ซึ่งถือว่าน่ารังเกียจในสังคมอิสลามเช่นกัน