มีคนบอกว่า พระ-นาง เรื่องนี้มีเค้าหน้าละม้ายคล้าย โคกะ กับ บันริ ในโกลเด้นไทม์
...ไม่รู้สินะ จะดูว่าไม่ก็ไม่ จะดูให้คล้ายก็คล้าย...
เปิดเรื่องมาด้วยการพบหน้ากันครั้งแรกของเจ้าหญิงซึ่งเป็นคนสุดท้อง และพระราชาที่ยิ่งใหญ่

แต่ทันทีที่ได้เห็นชายผู้จะมาเป็นสวามีของตน นิเกะก็...

เอ๋------------------!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ย้อนกลับไปประมาณก่อนหน้านั้น (น่าจะประมาณหนึ่งอาทิตย์)
เรือจากอาณาจักรตะวัน ลอยลำอยู่กลางทะเลเพื่อรอนัดพบกับเรือจากอาณาจักรฝน (เรียกงี้ละกัน ง่าย ๆ) คอยยิงพลุสัญญาณเป็นระยะ
ด้วยสภาพที่คลื่นลมสงบแบบนี้ คงไม่แปลกที่จะมาล่าช้ากว่ากำหนดการ นายเรือก็บอกว่าช่วยไม่ได้
ถ้าไม่ใช่เรือที่มีฝีพาย (คาดว่าน่าจะเป็นแรงงานทาส) ล่ะก็ คงแล่นในลมสงบไม่ได้ รอหน่อยละกัน
แต่ที่ไหนได้
ท่ามกลางลมสงบแบบนี้ กลับมีเรือที่แล่นฉิวอย่างไม่น่าเชื่ออยู่
เรือที่เจ้าหญิงนิเกะนั่งมาน่ะเอง สงสัยว่าเธอจะใช้พลังของเธอในการเรียกลมทำให้เรือแล่นได้
ด้วยพลังที่เรียกลมได้ จึงไม่แปลกที่จะเดินทางได้เร็วอย่างเหลือเชื่อ ขณะที่เรือนัดพบรออยู่กลางทะเล เรือของเธอแล่นเข้าเทียบท่าก่อนกำหนดการถึงสองวัน พอผู้ติดตามถามว่าทำไมถึงต้องรีบร้อนมาก่อนกำหนดตั้งสองวันด้วย? เธอก็บอกว่า
"ฉันอยากจะเห็นบ้านนี้เมืองนี้ด้วยตาตัวเองซะก่อนน่ะ"
พวกลูกเรือ แทนที่จะเสียใจกับการจากไปของเจ้าหญิง แต่ดันเรียกหาแต่สุราและนารี
เธอจึงใช้พลังลม ส่งกลับไปซะ
แม้จะค่ำมืดแล้ว แต่ตลาดก็ยังคงคึกคักมีชีวิตชีวา
ขณะเดินชมตลาด ก็มีพ่อค้าเรียกให้ชิมผลไม้ท้องถิ่น
พอถามราคาแล้วเปรียบเทียบกลับเป็นเงินสกุลของตัวเองแล้วก็พบว่า
แพงหูฉี่!!?
ส่วนพ่อค้า พออีกฝ่ายบอกว่าราคาแค่นี้ยังแพง แสดงว่ายากจนมากเลยสิ เลยรีบไล่ออกไปจากหน้าร้าน
เงอะงะทำอะไรไม่ถูกจนโดนชนล้มกลางถนน
จนโดนว่า "ระวังหน่อยสิ ยัยบ้านนอก"
ซึ่งถ้านับจากอาณาจักรของเธอเทียบกับที่นี่แล้ว.... ก็บ้านนอกจริง ๆ นี่หว่า...
มืดค่ำเต็มทีแถมท้องก็เริ่มหิว นิเกะ จึงต้องเริ่มมองหาที่พัก
แต่ว่าที่ไหน ๆ ก็ไม่มีห้องว่าง ที่นี่เองเจ้าของก็บอกว่า "คงยอมให้ผู้หญิงอรชอนอย่างเธอพักในโรงแรมที่มีแต่พวกขี้เหล้าเมายาไม่ได้หรอก ถึงมีห้องว่างก็ไม่ให้อยู่ดี"
ก็เลยต้องไปหาที่ใหม่ ระหว่างนั้น ก็มีพวกตัวโกงโลว์คลาสหน้าเสร่อโผล่มาสองคน
เข้ามาตีสนิท เสนอให้ที่พักราคาถูกแถมอาหารฟรีสองมื้อ
แม่นิเกะก็หลงเชื่อ (?) ดีอกดีใจ เผลอปล่อยมือจากกระเป๋าสัมภาระ
"ของดีขนาดนั้น มันจะไปจริงได้ยังไงเล่า! ยัยบื้อ!"
แล้วก็ฉกกระเป๋าวิ่งแน่บไปเลย
นิเกะ ก็เริ่มชักจะหงุดหงิด
"ให้ตายสิบ้านนี้เมืองนี้ นอกจากอากาศจะแห้งแล้งแล้ว น้ำใจคนก็แห้งแล้งไปด้วยเหรอเนี่ย..."
ขอเอาคืนหน่อยเถอะนะ...
--โครกกกกก---- "แอ๊ะ"
ไม่ไหว หิวเกินไป ไม่มีแรง...
ก่อนจะหมดสติไป ก็มีเงาลาง ๆ ของผู้หญิงสองคนวิ่งมาถามว่าเป็นอะไรมั้ย
ได้สติขึ้นมาที่บ้านพักแห่งหนึ่ง พบว่าเป็นที่พักของเจ้าของโรงแรมที่ปฏิเสธเธอไปน่ะเอง
โดยที่ลูกสาวสองคนเป็นคนเก็บเธอขึ้นมา ในฐานะพ่อ แถมเห็นว่าโดนขโมยของไป ก็เลยต้องช่วย
ต่อหน้าแขกเหรื่อคนแปลกหน้า ท้องเจ้ากรรมก็ยังไม่วายร้องอีก ดีที่ครอบครัวนี้จัดอาหารไว้ให้แล้ว
Girl's talk
สองพี่น้องขอโทษในฐานะชาวเมืองที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เพราะว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองท่าที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางผ่าน
รวมไปถึงพวกขโมยขโจรด้วย เรื่องแบบนี้จึงเลี่ยงไม่ได้
ทางนิเกะ ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เพราะถึงอย่างนั้นก็มีครอบครัวใจดีอย่างครอบครัวนี้อยู่ด้วย
สองพี่น้องถามว่าเป็นคนมาจากต่างแดนใช่รึเปล่า? แล้วมาทำอะไรที่นี่?
นิเกะก็เลยตอบไปตรง ๆ ว่า "มาแต่งงาน"
สองพี่น้องก็ตื่นเต้นยกใหญ่ จริงเหรอ ๆ กับใคร!?
กับพระราชาของพวกเธอไงล่ะ
ก่อนจะหัวเราะลั่นเพราะไม่มีใครเชื่อ ก็แน่ละ...
ก็เลยต้องเล่าย้อนไปนิดถึงว่าทำไม นิเกะ ถึงได้มาที่นี่
เริ่มจากผู้ปกครองอาณาจักรฝน นำข่าวมาบอกกับบรรดาลูกสาว เรื่องที่อาณาจักรตะวันซึ่งกำลังแผ่ขยายอำนาจอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ดูดกลืนดินแดนต่าง ๆ เป็นของตน ตัดสินใจที่จะปล่อยให้อาณาจักรฝน ยังคงสามารถปกครองตนเอง ไม่ถูกควบรวมเป็นเมืองขึ้น แถมยังให้ความร่วมมือในหลาย ๆ ด้านซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับอาณาจักรเล็ก ๆ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการพัฒนา
ลูกสาวคนโต "แน่ใจเหรอว่าเค้าแค่ไม่อยากเสียเวลามายุ่งกับเราเฉย ๆ น่ะ?"
ลูกคนรอง "ที่นี่มีดีก็แค่ฝน กับความสงบสุขเล็ก ๆ แค่นั้นเอง"
น้องสาม "ก็ดีแล้วดี ข้อดีของการเป็นอาณาจักรจน ๆ ก็คือไม่ตกเป็นเป้านี่แหละ"
**ท่าโพสเซอร์วิสทั้งหมดเป็นแค่จินตนาการของนิเกะเท่านั้น แต่ก็อาจเป็นเพราะเธออาจจะมีมุมมองว่าบรรดาพี่ ๆ ของเธอทั้งสาวทั้งสวยกันหมด ผิดกับเธอที่แค่ดูพื้น ๆ ก็ได้**
"แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องส่งหนึ่งในลูกสาวของฉันไปแต่งงานกับพระราชาของเขา"
"แต่งงาน!?"/"หนึ่งในพวกเรา!?"
แล้วจะตัดสินใจยังไง?
...เป่า ยิ้ง ฉุบ! เจริญละ
ถามว่าแย่งกันไป??
คนชนะได้ไป??
เปล่าเลย คนแพ้ตะหากที่ต้องไป 555
"ยินด้วยนิเกะ!?" "ได้เป็นฝั่งเป็นฝาก่อนใครเลย" "แต่งกับพระราชาเลยนะ เซเลบสุด ๆ"
เพราะเหตุฉะนี้ นิเกะ ก็เลยต้องดั้นด้นมาถึงต่างแดนนี่เอง
"โชคดีน้า"
ขณะเดียวกัน ที่มุมหนึ่งของเมือง
ชายลึกลับกำลังคุยกันถึงเรื่องการตัดสินใจให้ลูกสาวผู้ปกครองอาณาจักรเล็ก ๆ มาแต่งงานกับพระราชา
วิจารย์กันว่าจะเป็นการมอบสิทธิพิเศษให้กับอาณาจักรอื่นให้มีบทบาทมากขึ้นเปล่า ๆ เพราะถ้าลองทายาทของอาณาจักรนึง แต่งงานกับพระราชาของอีกอาณาจักรที่ใหญ่กว่า ย่อมเกิดเป็นสัมพันธมิตร จากดินแดนเล็ก ๆ ที่เคยมองข้าม จู่ ๆ ก็เส้นใหญ่ขึ้นมา ประมาณนั้น
ระหว่างนั้นก็ได้ยินไอ้โจรกระจอกสองคนคุยถึงผู้หญิงต่างถิ่นคนหนึ่ง
ด้วยความเอะใจ จึงได้เข้าไปถามกึ่ง ๆ ขู่กรรโชก
รุ่งเช้า
นิเกะ ได้รับชุดใหม่จากพี่สาวของบ้าน ดูดีแบบบ้าน ๆ ขึ้นมาเลย
พี่สาวจะทำงานบ้าน (ซักเสื้อของนิเกะให้ด้วย) ก็เลยให้น้องสาวพาชมรอบ ๆ
นิเกะจึงถามขึ้น ได้ยินมาว่าอาณาจักรตะวันไม่มีฝนตก แต่ที่นี่ดูจะมีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ดีเลยนี่นา?
น้องสาวก็ตอบ เพราะว่าที่นี่เป็นเมืองท่า ก็เลยมีมรสุมจากทะเลขึ้นมาเป็นช่วง ๆ แต่ว่าที่เมืองหลวงนั้นไม่มีฝนเลยตลอดปี
แล้วไม่เดือดร้อนเรื่องน้ำกินน้ำใช้เหรอ?
น้องสาวตอบว่าไม่ เพราะว่าพระราชาทรงปรีชามาก จัดสร้างระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพและทั่วถึง ทำให้แม้จะไม่มีฝน ตัวเมืองก็ยังอยู่ได้
แถมยังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ที่ทุกวันนี้เธอกับพ่อสามารถประกอบอาชีพอยู่ได้ ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณพระราชาด้วย
แสดงให้เห็นว่า พระราชา เองก็เป็นที่ชื่อชอบของเหล่าชาวบ้านอยู่พอสมควร
ทางด้านพี่สาวคนโตก็กำลังซักเสื้อให้นิเกะอยู่พอดี
ไอ้โจรกระจอกสองคนก็โผล่มา พร้อมด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายสุด ๆ (??)
พ่อที่ทำงานอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงผิดปกติ ก็เลยวิ่งออกไปดู พบว่าลูกสาวคนโตไม่อยู่แล้ว มีแค่ราวตากผ้าที่ตกอยู่กับพื้น
นิเกะ ดูจะมองสถานการณ์ออกแทบจะในทันที
ไอ้บ้าสองตัวนี่จับผ้าคลุม ๆ แล้วอุ้มวิ่งมาเลย
"แจ๋วเลยลูกเพ่ แค่นี้ก็ได้เงินก้อนโตงาม ๆ แล้ว"
"เออ หุบปากแล้ววิ่งไป"
...ว่าแต่... แน่ใจว่าใช้คนเดียวกันเหรอ?
...หา??
กว่าจะรู้ว่าจับผิดตัว ก็วิ่งมาตั้งไกลแล้ว
แต่ไหน ๆ ก็จับมาแล้ว เพื่อไม่ให้เสียแรงเปล่า ก็ขอทำอะไรเป็นการเซอร์วิสคนดูหน่อยละกัน เหอ เหอ
[Spoil & reviwe & โหลดโหด] Soredemo Sekai wa Utsukushii - เจ้าสาวแห่งดินแดนดวงอาทิตย์
...ไม่รู้สินะ จะดูว่าไม่ก็ไม่ จะดูให้คล้ายก็คล้าย...
เปิดเรื่องมาด้วยการพบหน้ากันครั้งแรกของเจ้าหญิงซึ่งเป็นคนสุดท้อง และพระราชาที่ยิ่งใหญ่
แต่ทันทีที่ได้เห็นชายผู้จะมาเป็นสวามีของตน นิเกะก็...
เอ๋------------------!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ย้อนกลับไปประมาณก่อนหน้านั้น (น่าจะประมาณหนึ่งอาทิตย์)
เรือจากอาณาจักรตะวัน ลอยลำอยู่กลางทะเลเพื่อรอนัดพบกับเรือจากอาณาจักรฝน (เรียกงี้ละกัน ง่าย ๆ) คอยยิงพลุสัญญาณเป็นระยะ
ด้วยสภาพที่คลื่นลมสงบแบบนี้ คงไม่แปลกที่จะมาล่าช้ากว่ากำหนดการ นายเรือก็บอกว่าช่วยไม่ได้
ถ้าไม่ใช่เรือที่มีฝีพาย (คาดว่าน่าจะเป็นแรงงานทาส) ล่ะก็ คงแล่นในลมสงบไม่ได้ รอหน่อยละกัน
แต่ที่ไหนได้
ท่ามกลางลมสงบแบบนี้ กลับมีเรือที่แล่นฉิวอย่างไม่น่าเชื่ออยู่
เรือที่เจ้าหญิงนิเกะนั่งมาน่ะเอง สงสัยว่าเธอจะใช้พลังของเธอในการเรียกลมทำให้เรือแล่นได้
ด้วยพลังที่เรียกลมได้ จึงไม่แปลกที่จะเดินทางได้เร็วอย่างเหลือเชื่อ ขณะที่เรือนัดพบรออยู่กลางทะเล เรือของเธอแล่นเข้าเทียบท่าก่อนกำหนดการถึงสองวัน พอผู้ติดตามถามว่าทำไมถึงต้องรีบร้อนมาก่อนกำหนดตั้งสองวันด้วย? เธอก็บอกว่า
"ฉันอยากจะเห็นบ้านนี้เมืองนี้ด้วยตาตัวเองซะก่อนน่ะ"
พวกลูกเรือ แทนที่จะเสียใจกับการจากไปของเจ้าหญิง แต่ดันเรียกหาแต่สุราและนารี
เธอจึงใช้พลังลม ส่งกลับไปซะ
แม้จะค่ำมืดแล้ว แต่ตลาดก็ยังคงคึกคักมีชีวิตชีวา
ขณะเดินชมตลาด ก็มีพ่อค้าเรียกให้ชิมผลไม้ท้องถิ่น
พอถามราคาแล้วเปรียบเทียบกลับเป็นเงินสกุลของตัวเองแล้วก็พบว่า
แพงหูฉี่!!?
ส่วนพ่อค้า พออีกฝ่ายบอกว่าราคาแค่นี้ยังแพง แสดงว่ายากจนมากเลยสิ เลยรีบไล่ออกไปจากหน้าร้าน
เงอะงะทำอะไรไม่ถูกจนโดนชนล้มกลางถนน
จนโดนว่า "ระวังหน่อยสิ ยัยบ้านนอก"
ซึ่งถ้านับจากอาณาจักรของเธอเทียบกับที่นี่แล้ว.... ก็บ้านนอกจริง ๆ นี่หว่า...
มืดค่ำเต็มทีแถมท้องก็เริ่มหิว นิเกะ จึงต้องเริ่มมองหาที่พัก
แต่ว่าที่ไหน ๆ ก็ไม่มีห้องว่าง ที่นี่เองเจ้าของก็บอกว่า "คงยอมให้ผู้หญิงอรชอนอย่างเธอพักในโรงแรมที่มีแต่พวกขี้เหล้าเมายาไม่ได้หรอก ถึงมีห้องว่างก็ไม่ให้อยู่ดี"
ก็เลยต้องไปหาที่ใหม่ ระหว่างนั้น ก็มีพวกตัวโกงโลว์คลาสหน้าเสร่อโผล่มาสองคน
เข้ามาตีสนิท เสนอให้ที่พักราคาถูกแถมอาหารฟรีสองมื้อ
แม่นิเกะก็หลงเชื่อ (?) ดีอกดีใจ เผลอปล่อยมือจากกระเป๋าสัมภาระ
"ของดีขนาดนั้น มันจะไปจริงได้ยังไงเล่า! ยัยบื้อ!"
แล้วก็ฉกกระเป๋าวิ่งแน่บไปเลย
นิเกะ ก็เริ่มชักจะหงุดหงิด
"ให้ตายสิบ้านนี้เมืองนี้ นอกจากอากาศจะแห้งแล้งแล้ว น้ำใจคนก็แห้งแล้งไปด้วยเหรอเนี่ย..."
ขอเอาคืนหน่อยเถอะนะ...
--โครกกกกก---- "แอ๊ะ"
ไม่ไหว หิวเกินไป ไม่มีแรง...
ก่อนจะหมดสติไป ก็มีเงาลาง ๆ ของผู้หญิงสองคนวิ่งมาถามว่าเป็นอะไรมั้ย
ได้สติขึ้นมาที่บ้านพักแห่งหนึ่ง พบว่าเป็นที่พักของเจ้าของโรงแรมที่ปฏิเสธเธอไปน่ะเอง
โดยที่ลูกสาวสองคนเป็นคนเก็บเธอขึ้นมา ในฐานะพ่อ แถมเห็นว่าโดนขโมยของไป ก็เลยต้องช่วย
ต่อหน้าแขกเหรื่อคนแปลกหน้า ท้องเจ้ากรรมก็ยังไม่วายร้องอีก ดีที่ครอบครัวนี้จัดอาหารไว้ให้แล้ว
Girl's talk
สองพี่น้องขอโทษในฐานะชาวเมืองที่เกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เพราะว่าเมืองแห่งนี้เป็นเมืองท่าที่มีผู้คนมากหน้าหลายตาเดินทางผ่าน
รวมไปถึงพวกขโมยขโจรด้วย เรื่องแบบนี้จึงเลี่ยงไม่ได้
ทางนิเกะ ก็ไม่ได้รังเกียจอะไร เพราะถึงอย่างนั้นก็มีครอบครัวใจดีอย่างครอบครัวนี้อยู่ด้วย
สองพี่น้องถามว่าเป็นคนมาจากต่างแดนใช่รึเปล่า? แล้วมาทำอะไรที่นี่?
นิเกะก็เลยตอบไปตรง ๆ ว่า "มาแต่งงาน"
สองพี่น้องก็ตื่นเต้นยกใหญ่ จริงเหรอ ๆ กับใคร!?
กับพระราชาของพวกเธอไงล่ะ
ก่อนจะหัวเราะลั่นเพราะไม่มีใครเชื่อ ก็แน่ละ...
ก็เลยต้องเล่าย้อนไปนิดถึงว่าทำไม นิเกะ ถึงได้มาที่นี่
เริ่มจากผู้ปกครองอาณาจักรฝน นำข่าวมาบอกกับบรรดาลูกสาว เรื่องที่อาณาจักรตะวันซึ่งกำลังแผ่ขยายอำนาจอย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ดูดกลืนดินแดนต่าง ๆ เป็นของตน ตัดสินใจที่จะปล่อยให้อาณาจักรฝน ยังคงสามารถปกครองตนเอง ไม่ถูกควบรวมเป็นเมืองขึ้น แถมยังให้ความร่วมมือในหลาย ๆ ด้านซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับอาณาจักรเล็ก ๆ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการพัฒนา
ลูกสาวคนโต "แน่ใจเหรอว่าเค้าแค่ไม่อยากเสียเวลามายุ่งกับเราเฉย ๆ น่ะ?"
ลูกคนรอง "ที่นี่มีดีก็แค่ฝน กับความสงบสุขเล็ก ๆ แค่นั้นเอง"
น้องสาม "ก็ดีแล้วดี ข้อดีของการเป็นอาณาจักรจน ๆ ก็คือไม่ตกเป็นเป้านี่แหละ"
**ท่าโพสเซอร์วิสทั้งหมดเป็นแค่จินตนาการของนิเกะเท่านั้น แต่ก็อาจเป็นเพราะเธออาจจะมีมุมมองว่าบรรดาพี่ ๆ ของเธอทั้งสาวทั้งสวยกันหมด ผิดกับเธอที่แค่ดูพื้น ๆ ก็ได้**
"แต่มีเงื่อนไขคือ ต้องส่งหนึ่งในลูกสาวของฉันไปแต่งงานกับพระราชาของเขา"
"แต่งงาน!?"/"หนึ่งในพวกเรา!?"
แล้วจะตัดสินใจยังไง?
...เป่า ยิ้ง ฉุบ! เจริญละ
ถามว่าแย่งกันไป??
คนชนะได้ไป??
เปล่าเลย คนแพ้ตะหากที่ต้องไป 555
"ยินด้วยนิเกะ!?" "ได้เป็นฝั่งเป็นฝาก่อนใครเลย" "แต่งกับพระราชาเลยนะ เซเลบสุด ๆ"
เพราะเหตุฉะนี้ นิเกะ ก็เลยต้องดั้นด้นมาถึงต่างแดนนี่เอง
"โชคดีน้า"
ขณะเดียวกัน ที่มุมหนึ่งของเมือง
ชายลึกลับกำลังคุยกันถึงเรื่องการตัดสินใจให้ลูกสาวผู้ปกครองอาณาจักรเล็ก ๆ มาแต่งงานกับพระราชา
วิจารย์กันว่าจะเป็นการมอบสิทธิพิเศษให้กับอาณาจักรอื่นให้มีบทบาทมากขึ้นเปล่า ๆ เพราะถ้าลองทายาทของอาณาจักรนึง แต่งงานกับพระราชาของอีกอาณาจักรที่ใหญ่กว่า ย่อมเกิดเป็นสัมพันธมิตร จากดินแดนเล็ก ๆ ที่เคยมองข้าม จู่ ๆ ก็เส้นใหญ่ขึ้นมา ประมาณนั้น
ระหว่างนั้นก็ได้ยินไอ้โจรกระจอกสองคนคุยถึงผู้หญิงต่างถิ่นคนหนึ่ง
ด้วยความเอะใจ จึงได้เข้าไปถามกึ่ง ๆ ขู่กรรโชก
รุ่งเช้า
นิเกะ ได้รับชุดใหม่จากพี่สาวของบ้าน ดูดีแบบบ้าน ๆ ขึ้นมาเลย
พี่สาวจะทำงานบ้าน (ซักเสื้อของนิเกะให้ด้วย) ก็เลยให้น้องสาวพาชมรอบ ๆ
นิเกะจึงถามขึ้น ได้ยินมาว่าอาณาจักรตะวันไม่มีฝนตก แต่ที่นี่ดูจะมีน้ำท่าอุดมสมบูรณ์ดีเลยนี่นา?
น้องสาวก็ตอบ เพราะว่าที่นี่เป็นเมืองท่า ก็เลยมีมรสุมจากทะเลขึ้นมาเป็นช่วง ๆ แต่ว่าที่เมืองหลวงนั้นไม่มีฝนเลยตลอดปี
แล้วไม่เดือดร้อนเรื่องน้ำกินน้ำใช้เหรอ?
น้องสาวตอบว่าไม่ เพราะว่าพระราชาทรงปรีชามาก จัดสร้างระบบชลประทานที่มีประสิทธิภาพและทั่วถึง ทำให้แม้จะไม่มีฝน ตัวเมืองก็ยังอยู่ได้
แถมยังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ที่ทุกวันนี้เธอกับพ่อสามารถประกอบอาชีพอยู่ได้ ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณพระราชาด้วย
แสดงให้เห็นว่า พระราชา เองก็เป็นที่ชื่อชอบของเหล่าชาวบ้านอยู่พอสมควร
ทางด้านพี่สาวคนโตก็กำลังซักเสื้อให้นิเกะอยู่พอดี
ไอ้โจรกระจอกสองคนก็โผล่มา พร้อมด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายสุด ๆ (??)
พ่อที่ทำงานอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงผิดปกติ ก็เลยวิ่งออกไปดู พบว่าลูกสาวคนโตไม่อยู่แล้ว มีแค่ราวตากผ้าที่ตกอยู่กับพื้น
นิเกะ ดูจะมองสถานการณ์ออกแทบจะในทันที
ไอ้บ้าสองตัวนี่จับผ้าคลุม ๆ แล้วอุ้มวิ่งมาเลย
"แจ๋วเลยลูกเพ่ แค่นี้ก็ได้เงินก้อนโตงาม ๆ แล้ว"
"เออ หุบปากแล้ววิ่งไป"
...ว่าแต่... แน่ใจว่าใช้คนเดียวกันเหรอ?
...หา??
กว่าจะรู้ว่าจับผิดตัว ก็วิ่งมาตั้งไกลแล้ว
แต่ไหน ๆ ก็จับมาแล้ว เพื่อไม่ให้เสียแรงเปล่า ก็ขอทำอะไรเป็นการเซอร์วิสคนดูหน่อยละกัน เหอ เหอ