แชร์ประสบการณ์การเป็นทหารแบบให้อารมณ์ ความรู้สึก และเงินแสน !!

กระทู้สนทนา
เห็นช่วงนี้มีกระแสทหารกำลังมาแรง เลยขอเล่าสมัยโดนใบแดงให้ฟังบ้างครับ
ผมโดนไปเมื่อ 5 ปีก่อน สมัยนั้นเรียนจบบริหารมา สายตาก็สั้น(780 2 ข้าง) อารมณ์แว่นตกยิ้มมาเยือนเลย (ทหารเค้าเอาเกิน 800 ถึงไม่ได้เป็นนะครับแต่ตูไม่เกิน - - '')
ยังจำอารมตอนนั้นได้ดี
เนื่องจากฐานะทางบ้านผมมันก็ไม่ได้แย่ บ้านผมพอมีพอกิน ก็เลยเตรียมเงินไว้ให้คุณสัสดีแล้ว เส้นสายก็มีพร้อม
พ่อแม่พาไปบนบาน ให้พระที่ว่าขั้นเทพเป่าหัว ทำไสยศาสตร์ต่างๆเกี่ยวกับทหาร(หาได้ในgoogle)
ทุกอย่างครับ สายตาก็สั้นอีก ทุกคนก้คิดว่ายังไงเค้าก็ไม่เอาผมหรอก คนดีๆมีเยอะแยะ มาเอามันทำไม
วันไปเกณผมก็สบายใจครับ เพราะทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว มีแผนสำรองไว้  2 3 4 5 6 เยอะ งานนี้รอด  Sure !!

แต่ !! เคยได้ยินไหมครับ
คนไม่ถึงคราวตาย วายชีวาตม์
ใครพิฆาต เข่นฆ่า ไม่อาสัญ
คนจะถึงคราวตาย วายชีวัน
ไม้จิ้มฟัน แทงเหงือก ยังยิ้มตาย !!

บทมันจะโดนก็คือโดน
วันนั้นทุกอย่างผิดไปหมด เส้นสายที่วางไว้ ขอยกเลิก เนื่องจากมีเหตุขัดข้อง
แผนที่วางไว้ก็เลยพังหมด ลามไปถึงแผน 2 3 4 5 6 ที่ผมเตรียมไว้ก็ผิดไปหมด
ทำให้เลยต้องลองเสี่ยงดวงดู แต่วินาทีนั้นก็ไม่คิดจะโดนหรอก เค้าก็บอกกันนะ โหยย 5:1 อย่ากลัว ปีนี้ใบดำเยอะ
เออ เอาวะ !!

ที่บอกกันว่า โหยยย ตื่นเต้น เรื่องนี้ตื่นเต้น เรื่องนั้นตื่นเต้น
มันสู้คุณเอามือล้วงไหเพื่อหาใบชี้ชะตาชีวิตคุณไม่ได้เลย
ผมตื่นเต้นมากตอนนั้นเข้าใจจำว่าลุ้นดีที่สุด
ผมควักออกมามันจะได้ 2 ความรู้สึก แต่ผมได้แค่ความรู้สึกเดียวคือ .... คุณพระ... !!
หูอื้อไปเลยครับ เหมือนโดนท่าchronosphere 5 วิ เค้ามาเจาะเลือดที่แขนไปยังไม่รุ้สึกไรเลย
ชาไปหมด มืดแปดด้านเลยครับ ไม่รู้จะเอาไงก็ชีวิตแล้ว "ไหนบอกคนเป่าหัวขั้นเทพไง ไหนบนไว้ที่นี่ดีมาก ไหนสายตาสั้นไม่เอาไง แฟนทิ้งทำไงเนี่ย"
อะไรในหัวมาเต็มครับ รับโืทรหาญาติๆ ใช้เส้นสายกันใหญ่แต่อย่างว่าอ่ะคุณ
ตามกลอนข้างบนที่อ่านผ่านมาเลยครับ
...............................
ความรู้สึกที่ 2 คือใบดำ สำหรับอันนี้เพื่อนๆที่ได้ใบดำคงได้คำตอบนะครับว่ามันคงโคตรรรจะดีใจแค่ไหน
..............................................
นั้นแค่ด่านแรกสำหรับความรู้สึก

ด่านที่2นี่หนังชีวิตเลยครับ  สำหรับคนอื่นผมไม่รุ้
แต่สำหรับผมคือตอนที่ทางบ้านมาส่งขึ้นรถป.2 เพื่อเข้าค่ายนั้นแหละ
วันนั้นเค้านัด 9โมง น้องชายมาส่งผมแค่คนเดียวแล้วก็กลับไปเลย พ่อแม่ไม่ว่างติดทำงานที่บ้านหมด
เราก็เข้ารับการอบรมในการขึ้นรถ เตรียมตัว ซึ่งความรู้สึกลึกๆที่ได้รับมันก็คือ "นี่เราต้องเป้นทหารจริงๆแล้วใช่ไหม เราต้องอยู่เปนปีๆเลยใช่ไหม"
ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียดครับ เพื่อนก็ไม่มี อายุก็เยอะสุดด้วยมั้งเนี่ย (ผมผ่อนผันจนเรียนจบก็เลย 22 ปีได้ มากกว่าพวกน้องๆที่จับดิบกัน)
จนถึงเวลา 11 โมง รถป.2ก็มารับ
ทุกคนก้าวขึ้นรถ พร้อมทั้งมีญาติๆ แฟนๆมาส่งเสียง บางคนก็ร้องไห้ บางคนวิ่งไปกอดกันยังกะในหนังเกาหลี
แต่กรุนี่ขึ้นคนเดียว เศร้าใจ ความรุ้สึกตอนนั้นสุดยอดแล้วครับ ถ้าใครเคยได้รุ้สึกจะเข้าใจอย่างดีเลย จากพ่อ จากแม่ จากบ้าน จากแฟน จากคนรัก
ตัดหัวเกรียน ใส่แว่นอีก หน้าเป้นโนบิตะเลยจะบอกให้ เม่าบาดเจ็บ  
ตอนนั่งรถไปเด็กๆในรถก็ร้องเพลงกันไป ยกเพียวกันไป มึนๆตึงๆก็เต้น เฮ้อออ
พอรถเลี้ยงเข้ากรม นี่ก็อีกความรู้สึก ไอ้จ่าที่มาพาไปเค้าก็บอกว่า"พวกเอ็งเตรียมตัวเตรียมใจกันให้ดี เราจะเข้าสู่โลกใหม่แล้ว New World !!"
พอรถจอด นกหวีดเป่า ปี๊ด !! !! ! !"ใครช้าเจอตรีน"
โหย ยังกะปล่อยม้า ไอ้เราก็วิ่งสุดชีวิต  เฮ้ออออ... นี่ตูต้องเจออะไรบ้างฟะเนี่ยยยยยย

หมดแล้วครับ สำหรับ เรื่องราว star game ของทหาร ต่อไปเป้นเรื่องระหว่างเป็น และตอนจบ พร้อมเงินแสนนะครับ

ผมถูกเข้ารับการฝึกที่กองร้อยหนึ่ง (ไม่เอ่ยเนอะ)
ยังถือว่าดวงผมดี ได้เป็นคนขายของ (หน้ากรุเหมือนลุกพ่อค้ามากเลย)
อาจเปนเพราะผมจบตรีก็ได้มั้ง เค้าก็เลยให้ผมมาขายของ แต่ที่บ้านแม่ขายครีมหน้าใส (ไม่เกี่ยวสินะ - -'')
ครับ ก็สนุกดี วันๆดูเพื่อนๆมันตากแดด ได้เรานั่งอยุ่ในร้านขายของ เอ่อ ลืมบอกไป คนในค่าย 60% เป็นคนอีสาน อีก 30% เป็นคนใต้ แล้วอีก 10% พวกภาคกลาง (ทหารเรืออยู่สัสตหีบนะ)
มันก้ทำให้ผมได้รุ้ภาษาอีสาน จากฟังไม่รุ่เรื่อง ก็ฟังออก พูดได้บ้าง ภาษาใต้ ภาษามลายู ก้ฟังรุ้เรื่องบ้าง นี่ก็เปนข้อดีเล้กๆน้อยๆนะครับ
ทุกๆวันตื่นตี 5 มาเตรียมของขาย รับของจากพวกจ่าๆที่เอาเข้ามาขาย (นี่ถือว่าแฉเลยนะเนี่ย - -)
ระหว่างขายของนั้นเอง เค้าก้มีกำหนดราคากลางไว้อยุ่แล้ว เช่นน้ำอัดลมให้ขาย 8 บาท  พ่อก็ล่อ 10บาทเลย แต่ผมก็แอบขึ้นราคาเล็กๆน้อยๆแล้วเก็บส่วนต่างเข้าเป๋าตัวเอง ทำให้ทุกๆสิ้นเดือนผมได้ตังกลับบ้านมากกว่าคนอื่น (อย่าเลียนแบบนะครัชมันไม่ดี)
หลังฝึก 2 เดือนเสร้จ ก็ได้รับการแยกหน่วย ตอนนั้นยอมรับว่าสนุกนะครับ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ คนดีๆมันก็มีเยอะแยะนะครับ อยุ่ที่เราจะเลือกคบ
ผมก็ได้เงินกลับบ้านก้อนนึงประมาณ 14,000 บาทเดือนละ 7 พันบาทได้ รวมค่าขายของและค่าโกงแล้วนะครัช (เงินทุกบาทที่ได้จากทหารผมไม่ได้ใช้เลย)
เนื่องด้วยผมเป้นคนใช้เงินไม่เก่ง กินข้าวก็ 35 บาท นั้นก็คือจบ ไม่ค่อยมีขนมอะไรต่อ น้ำปั้นไรพวกนั้นก็ไม่กิน
ในค่ายผมก็กินข้าวที่โรงเลี้ยง ถึงรสชาติมันจะกินไมไ่ด้ แต่ใส้นำปลาเยอะๆมันก็หร่อยนะจ๊ะบอกให้

หลังจากฝึก 2เดือน ผมก็ได้แยกมาอยุ่หน่วย.  . . . . . . . .โรงครัว ซะงั้น
ก็ตามชื่อเลยครับ โรงครัว กืคอทำกับข้าว ส่งให้หน่วยต่างๆในค่าย คนทำมันก็ได้สิทธิพิเศษอยุ่แล้วจริงมั้ย
ไก่มาเป็นตัวๆ คนทำก็กินน่องไปแล้ว 2 น่อง
หมูมาเป็นตัวๆ คนทำมันก็กินขาไป4 ขาละ
มันก็เป็นข้อเท็จจริงที่เลี่ยงไมไ่ด้อยุ่แล้ว
ทำให้ระหว่างเป็นทหาร ผมกินอิ่มทุกมื้อ
กระเพราะหมู เพราะไก่ไข่ดาว ไข่เจียว หมูทอด เปรมอ่ะ บอกให้ ทำเองกินเอง ใส่ได้ไม่อั้น
เวลากลับบ้านพ่อแม่ก็จะถามเสมอว่า ทำไมอ้วนขึ้น เค้าไม่ให้วิ่ง ไม่หใ้วิทพื้นไรเลยหรอ
มันก็มีบ้างนะครับ เวลาเราโดนทำโทษ แต่หลักๆม่ค่อยมีหรอก มาวิ่งตอนตี 5 วิทพื้นไรแต่เช้า
เพราะทุกคนต่างมีหน้าที่เปนของตัวเอง ตื่นตี 5 หุ่งข้าว เตรียมอาหารกันทั้งนั้น ไม่มีเวลาไปวิ่งหรอก
ผมได้ดำรงตำแหน่ง(เท่ว่ะ)เป้นเสมี่ยนในโรงครัว เนื่องด้วยพิมคอมเป้น แล้วก็ซ่อมเป้น โปรแกรมเป็น (อันที่จริงตอนแยกมาครั้งแรก ทางโรงครัวเค้าก็ไม่รุ้หรอกครับว่าผมทำเป็น แต่ทีวีที่โรงครัวมันชื้อมาใหม่ แล้วไม่มีใครจูนเป็น ผมเลยอาสาจูนให้ เค้าเลยให้มาเป็นเสมี่ยน  ดวงดีแล้ว ซะงั้น)
การเป็นเสมี่ยน เหนื่อยมากกกกกกก ไหนจะวิ่งเอกสาร ทำงานส่วนตัว แล้วยังมีงานในครัวอีก ไม่หมูเลย แต่ก็ได้ใกล้ชิดกับพวกนายทหาร
ทำให้ตลอดที่ผมเป็นทหาร ผมโดนทำโทษน้อยมาก และได้รับความไว้วางใจให้ขายของในโรงครัว จากหัวหน้านายทหาร ...

ขายของ?....
ขายของอีกแล้ว !! ก่อนแยกหน่วยก็ขายทีนึงแล้ว
แต่นี่ โรงครัวเลยนะครัช ใหญ่โตมาก ทหารก็มากินข้าวทุกวัน
ผมได้นั่งบัญชาการขายของ โววยยย

ทำให้เลือดลูกแม่ค้าขายครีมในตัวมันพุ่งพลาดขึ้นมาอีก ค่ำคืนนั้นผมก็คิดแผนการสร้างเงินขึ้นมาอีก (เลวมาก อย่าเลียนแบบ)
ของขายในโรงครัวก้จะมีพวกขนม บุหรี่ น้ำอัดลม ครบอ่ะครับ แบบว่าเป็นร้าน 7 ได้เลย โดยคนเอาเข้ามาก็คือหัวหน้าของโรงครัว
แต่ที่ขาดไปหลักๆคือ...น้ำเปล่า ?
น้ำเปล่าที่ขายก็มีแต่น้ำกรากๆอ่ะ ไม่รุ้พวกคุณเข้าใจคำว่าน้ำกรากๆไหม ขวดไม่สวย สีขุนๆ ขายขวดละ 6 บาท
ซึ่งผมนั่งขายอยุ่ก้อรู้ว่า น้ำนั้นขายดีแต่ทางโรงครัวไม่เอาเข้ามาขาย หรือเอาเข้ามาน้อยไป
เพราะทุกๆสิ้นเดือน นายทหารจะมาถามผมว่าอะไรขาดไหม ให้สั่งอะไรเพิ่มก็ให้จดมา
ผมก็จดทุกอย่างยกเว้นน้ำเปล่า เย้ เม่ากิจกรรม
ผมก็เลยแอบ ใช้คำว่าแอบถูกแล้วครับ ไปร้านที่ขายส่ง ซึ่งจะอยู่ด้านนอกค่ายที่ผมอยุ่นิสนึง ก็ต้องแอบไป  แอบไปชื้อมาสัก 2 แพก เดินแบกกลับมาเหนื่อยโคตรๆเลยขอบอก เป็นน้ำเปล่า แบบหรุ่ๆหน่อย ขวดสวยๆ ยาวๆ ตกขวดละ 3บาท 50สตาง
ผมเอามาวางขาย ขวดละ 10 บาท  เข้.... กำไรเกิน 100%
สมการคือ 3.50*12=36บาท ต้นทุน ขายได้ 1แพก 120 บาท  120-36= 84 net profit เย้ กำไร2แพกก็ 160 บาท
ดีมากครับ กระแสตอบรับในช่วงแรก หมดลงภายในเวลาไม่กี่นาที ก็เลยคิดว่าเอาไงดีวะ เดินไปแบกคนเดียวเหนื่อยมาก ไกลก็ไกล เหนื่อยก็เหนื่อย
ก็เลยจ้างทหารแถวนั้นครับ โดยแบกน้ำ 1แพก แลกกับโออิชิ 1 ขวด ผมก้ต้องลงทุนชื้อโออิชิมาลังนึง เพื่อแลกกับน้ำ 12 แพก
พวกทหารที่ช่วยก็แถบถวายชีวิตแบกให้เลยครับ บางคนมาถามทุกวันเลย วันนี้มีแบกน้ำไหม อยากกินขนม ไปเลยจัดมาเยอะๆเลยน้อง เจ้าคิกคัก
ทุกอย่างงี้ทุกวันครับ จนคนขายเค้าก็ถามว่าผมเอาไปขายที่ไหน ยังกะเอาไปเททิ้ง
พอหัวหน้าเข้ามาเห็นน้ำที่ผมขาย ก็ตอบไปว่า ผมชื้อมากินเอง เค้าก็ไม่ว้าไร( ชื้อมากินไรเยอะยิ้ม)
สนุกมาครับ กับการทำธุรกิจ ที่ผูกขาด ทำไมถึงผูกขาด ก็อ้าว ทหารอยุ่ได้แค่ในค่าย ออกไปไหนไม่ได้ ทำให้ลูกค้าเรามีเท่าเดิม เยอะเหมือนเดิม ของแพงแค่ไหนเค้าก็ชื้อครับ (อย่าว่ากันเลยนะครับ มันเปนเรื้องของธุรกิจอะนะ)
เงินเดือนทหารผม 9000 ได้ค่านั่งขายเดือนละ 500 กำไรจากการขายน้ำเดือนละ 5000-6000 ยังมีรายได้จากการช่วยเค้าทำงานนอกอีกนะครับ ไม่ขอบอกละกัน งานมันบ้าๆบอๆ
และผลที่หน้าตาผมใสสะอาด ไม่มีสิว (ก็แม่ตูขายครีม) และขาวสุดในนั้น เลยสามารถเอาครีมที่บ้านผมขายไปขายให้ทหารด้วย ไปๆมาๆแมร่งใช้กันทั้งครัวเลยครับ (ทุกวันนี้ยังมีโทรมาสั่ง ปลดไปแล้วยังสั่ง ต้องส่งไปถึงภาคอีสาน หุหุ)
สรุปทุกๆสิ้นเดือนผมจะได้เงินกลับบ้าน 14,000-15,000 (ยังไม่รวมค่าครีม แต่มันไม่ได้ทุกเดือน)แล้วผมไม่ได้ใช้เงินเ้ลยสักบาท
เนื่องจากอยุ่ประจำโรงครัว ของกินตรึม ผมไม่ได้ดูบุหรี่หรือดื่มเหล้า ทำให้เงินไม่ได้ออกไปทางนั้น ชื้อกล้วยทอดกินบ้างบางครั้ง บ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องชื้อ
แล้วเป็นทหารมันทำงานแค่ 15 วัน (3อาทิต ไม่นับเสา และอาทิตย์) กลับบ้าน 10 บาท ผมขายของได้ 20 วัน
ผมประจำการ 1 ปี ปลดมาเลยได้เงินแสนกลับมาครับ ไปดาววีออสมาขี่เล่นด้วย นางพญาเม่า

สรุปความรุ้สึก 1 ปีของทหารคนนี้
ความรุ้สึกมันกลับด้านครับ ตอนเดินเข้าค่ายครั้งแรก และตอนกลับออกไป
ตอนเดินเข้าครั้งแรกเครียด กลัว หดหู่ เสียใจ
แต่ตอนวันสุดท้ายที่ได้อยู่ วินาทีที่เดินออกไป มันใจหาย.....และคิดถึง...... (หรือว่าเราจะชอบที่นี่ซะแล้ว)
ได้อะไรเยอะครับ
อย่างที่บอกมันคือ New World คุณๆที่อยุ่ข้างนอกไม่มีวันรุ้หรอกครับว่า มันมีอะไรบ้าง จนกว่าะจได้เข้ามาเจอด้วยตัวเอง
เราอายุ 20+ โตแล้วแยกแยะถูก ผิดได้ มันไม่มีอะไรสวยงามไปหมด ในนี้ด้านมืดก็มีครับ แต่ผมเลือกไม่ไปยุ่งกะมัน ด้านสว่างก็มี เพื่อนดีมี เพื่อนเลวมี
อยากฝากถึงน้องๆที่กำลังจะไป หรือยังไม่เกณว่า
ผมเด็กเนิส ใส่แว่น นั่งเล่นคอม เล่นdota ตีhon talk talk ยังเป็นทหารได้เลยครับ อย่ากลัวไปเลยครับ มันไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น
ปลดออกมามันจะมีผลดีกับตัวเราเยอะกว่าที่เราคิดนะครับ เม่าอดีต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่