ผมควรคุยกับแฟนเรื่องซื้อมอเตอรไซค์ยังไงดี

กระทู้สนทนา
ผมกับแฟนคบกันมาหลายปีแล้วครับ แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน เรามีแผนที่จะแต่งงานไม่เกินปีหน้าโดนกันเงินเก็บเอาไว้ร่วมกันจำนวนนึงแล้ว เราอยู่ด้วยกันแบบมีค่าใช้จ่ายอะไรก็หารกันตลอด เรื่องมันมีอยู่ว่าหลายปีก่อน แฟนได้งานที่ระบุว่าต้องมีรถส่วนตัวเพื่อใช้เดินทางโดยบริษัทจะให้ค่าเช่ารถจำนวนนึงต่อเดือน แต่รถที่แฟนจะซื้อยังรับไม่ทันก่อนเริ่มงาน ผมเลยกลัวว่าเค้าจะเสียโอกาสเลยให้รถไปยืมใช้ก่อน จากนั้นบริษัทก็เอาไปลงทะเบียนฐานข้อมูลพนักงาน ถึงแม้ว่าตอนหลังแฟนจะรับรถใหม่มาแล้วแต่ก็ไม่ได้แจ้งเปลื่ยนคันกับบริษัท เพราะไม่สะดวกเรื่องเอกสาร เลยใช้วิธีสลับรถกันใช้แทน ผมใช้รถเค้า เค้าใช้รถผม ทำแบบนี้ได้พักเดียว มีปัญหาเรื่องที่จอดรถที่ห้องพัก ประจวบกับที่บ้านแฟนจำเป็นต้องใช้รถ เลยต้องเอารถขอ งแฟนไปไว้ที่บ้านแฟน และผมกับแฟนก็ใช้ด้วยกัน มีไม่สะดวกบ้างบางครั้งที่แฟนต้องขับรถไปทำงานไกลๆ ผมก็ไม่มีรถใช ้อาศัยติดรถคนอื่นเค้าไปทำงาน หรือ นั่งรถเมลแทน เลยคุยกับแฟนว่าให้เค้าซื้อรถมอเตอรไซค์ให้หน่อยเพื่อใช้เวลาเค้าไม่อยู่ แรกเค้าก็ไม่อยากซื้อให้ บอกให้ผมนั่งรถเมลแทน แต่ผมก็บ่นๆ ว่าโดนเอาเปรียบ ก็เลยยอมซื้อให้แบบเสียไม่ได้แต่ขอเลื่อนไปหลังโบนัสออกเนื่องจากมีรายจ่ายเยอะ ซึ่งผมเองก็เข้าใจ  จากนั้นมาในใจลึกๆ ก็หวังว่าจะได้ มอไซคแบบที่ชอบซักคันราคาประมาณสักแสนห้า จนมาถึงวันที่โบนัสแฟนออกหลังเครียรภาระแล้วเหลือประมาณประมาณแสนครึ่ง ก็เริ่มคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ขอร้อง อ้อนวอนกัน ปรากฏว่าแฟนจะให้ 6 หมื่น
ไอ้เราก็ ผ่าง!! หน้าหงาย นอยๆ น้อยใจ ปนๆกับความรู้สึกไม่ดีที่ต้องมาขอตัง ทั้งๆที่เค้าเอารถเราไปได้ค่าเช่ารถมารวมๆกันต่ำๆ ปัจจุบันก็ได้มา สองแสนครึ่งได้แล้ว แต่เจียดเงินมาให้เรานัอยจัง คือไม่ได้หวังมาจะได้เยอะแยะอะไรอยู่แล้วคิดว่าช่วยๆ กัน ตั้งใจจะเติมเงินเองให้พอกับรุ่นที่อยากได้อยู่แล้ว แต่ดันคิดว่าจะได้มากกว่านี้ เลยผิดหวังกันไป ต่อรองยังไงก็ยืนยันจะให้แค่นี้ รวมกับที่เรามีก็ดันไม่พอ ซื้อ เดาว่าเงินที่เหลือเค้ากะจะใช้พาครอบครัวไปเที่ยวทะเล พยายามใช้ทั้งไม้อ่อน และไม้แข็ง ขอเพิ่มวงเงิน พอไม้อ่อน เค้าก็ปฎิเสษเสียแข็ง พอไม้แข็งก็ไปนอนรัองไห้เสียใจหาว่าเราพูดจารุนแรงแล้วก็ไม่ยอมคุยเรื่องนี้ ทำเอาผมก็เหมือนลิ้นจุกปากพูดไม่ออกลำบากใจจัง เรียนปรึกษาผมควรทำยังไงดี วิธีคิดของผมถูกต้องรึเปล่า
1. พยายามปรับเปลื่ยนความคิดใหม่ ซื้อเท่าที่งบพอซื้อไป แต่วิธีนี้มันก็เหมือนมีอะไรบางอย่างค้างคาในใจทั้งไม่ใช่รถที่อยากได้ ทั้งวิธีการที่เค้าทำกับเรา
2. ควรคุยกันให้รู้เรื่อง ไม่ให้มันค้างคาใจ และจบที่จุดกลางที่ผมพอยอมรับได้ แต่ควรใช้วิธีใหนดี?
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่