ขอโทษที่ตั้งเป็นกระทู้คำถามนะคะ พอดีไม่มีเครื่องสแกนบัตร TT
จากชื่อกระทู้อาจจะดูน่าตกใจนิดหน่อยค่ะ แต่อยากนำเรื่องนี้มาแชร์เตือนใจพ่อแม่ที่มีลูกวัยประถมนะคะ
วันนี้ประมาณหกโมงกว่าๆก็ออกไปปั่นจักรยานเล่น ระหว่างทางที่จะปั่นกลับบ้านได้ยินเสียงเด็กผู้ชายร้องดังมากๆอยู่ข้างทาง
จึงจอดแล้วมองไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อลายสก๊อตนั่งร้องไห้น้ำตาไหลเต็มหน้าเลยค่ะ
แต่ยังไม่จอดรถแล้วเดินลงไปหาเลยนะคะ ก็มองก่อนค่ะ คือที่ตรงนั้นเป็นคล้ายๆสวนทางเดินเล็กๆริมคลองที่ให้คนมานั่งเล่น
ใกล้ๆก็มีป้าคนนึงกำลังอ่านหนังสืออยู่ ในใจก็คิดว่า "แม่น้องหรือเปล่า?" น้องอาจจะอยากร้องไห้กลับบ้าน
แต่น้องก็ร้องขึ้นมาอีก แล้วป้าก็ไม่มีทีท่าจะสนใจเลย เราเลยตัดสินใจลงจากจักรยาน แล้วจูงขึ้นไปหาเด็กน้อยคนนั้น
พอเราถามประโยคแรกว่า "ร้องไห้ทำไมครับ?" น้องก็หยุดร้องเลยนะคะ แต่ก็พูดแบบสะอึกสะอื้น แต่พอจับใจความได้
น้องบอกว่าทุกวันจะกลับบ้านพร้อมคุณครู แต่วันนี้คุณครูกลับก่อน แล้วพ่อจะมารับ แต่พ่อยังไม่มา
เราเลยถามว่าจำเบอร์พ่อได้มั้ย น้องก็บอกว่าจำไม่ได้ จำเบอร์ใครที่บ้านไม่ได้เลย
เราเลยถามต่อว่าบ้านอยู่ไหน ซึ่งตำแหน่งบ้านที่น้องบอกอยู่ไกลมาก คือถ้าอยู่ใกล้กะจะให้น้องซ้อนท้ายแล้วพี่จะปั่นไปส่งถึงบ้านเลย
คำถามสุดท้ายที่น่าจะเป็นคำถามแรก (แต่ดันพึ่งถาม) คือจุดที่น้องร้องไห้อยู่นั้นไม่ได้ไกลจากโรงเรียนมากกกกกก ยังพอเดินกลับไปได้
น้องก็บอกว่าอยู่โรงเรียนนี้ เราก็เลยบอกว่าเดินกลับไปโรงเรียนกันนะ ป่านนี้พ่อตามหาให้วุ่นแล้ว
(ตอนนั้นก็คิดว่าทำไมไม่ปั่นจักรยานซ้อนน้องไป - -)
คือเราเลือกจูงจักรยาน แล้วมีเด็กน้อยเดินไปพร้อมกับบนฟุตบาท
ระหว่างทางเราก็ถามน้องเรื่อยๆ ก็ได้ข้อมูลมาว่าอยู่ป.3 จำชื่อครูประจำชั้นได้ พ่อทำงานอยู่กองบิน ถามว่าเป็นนักบินหรอ น้องตอบใช่ด้วย
จำได้ว่าพ่อขับกะบะสีอะไร ทะเบียนอะไร บ้านอยู่ไหนก็จำได้ ทางกลับบ้านก็จำได้ บอกได้ละเอียด
แต่จำเบอร์ใครที่บ้านไม่ได้เลย แล้วไม่มีจดไว้ในสมุดหรืออะไรด้วย
เราเลยบอกว่าสมมติถ้าไม่มีใครมารับจริงๆ เดี๋ยวให้พ่อพี่ขับไปส่งนะ น้องก็ตกลง
เท่าที่ฟังเหมือนน้องคิดกลัวไปว่าที่โรงเรียนไม่มีใครอยู่แล้ว ยามอาจจะกลับบ้านแล้ว โรงเรียนอาจปิดแล้วเลยเดินออกมา
เราเลยบอกน้องไปว่าโรงเรียนไม่ปิดหรอก ยังไงก็ต้องมียามมีเจ้าหน้าที่อยู่ ไม่ว่าพ่อมารับช้าแค่ไหน หนูก็ต้องรออยู่ไหนโรงเรียนนะ
ถ้าเดินออกไปไกลกว่านี้ ใครจับไปแย่เลยนะ แล้วกลับไปจำเบอร์พ่อด้วยนะ ท่องให้ขึ้นใจเลย
เมื่อเดินมาถึงโรงเรียน เราก็จอดจักรยานไว้หน้าประตูใหญ่ แล้วจูงน้องเดินเข้าประตูเล็ก
โรงเรียนยังไม่มืดมาก มีนักเรียนเล่นบาสอยู่หลายคน มีผู้ปกครองมากมายนั่งอยู่ข้างสนาม
แต่ยามไม่อยู่ในป้อม .... เราก็เก้ๆกังๆสักพัก น้องก็ชี้ไปว่ายามอยู่นู่น
อ่อ ยืนโม้อยู่ ฮ่าๆ เมื่อยามกับเราสบตากันที่หน้าประตู เราเลยบอกไปว่าเจอน้องร้องไห้อยู่ตรงนู้น
อยู่ห้องคุณครูคนนี้ บ้านอยู่ที่นี่ แต่จำเบอร์ใครไม่ได้
ยามก็บอกว่ารอกับพี่ เดี๋ยวพ่อมารับ เราก็แบบจะอยู่เป็นเพื่อนด้วยดีมั้ยนะ ขณะที่คิดๆอยู่นั้น
ก็มีเสียงหญิงสาวประกาศมาตามสาย "น้อง.... เด็กชาย.... ชั้นป.3 พ่อมารออยู่ที่ห้องประชาสัมพันธ์..." (ประมาณนี้)
ยามก็ตบมือดังโผง พูดกับน้องว่า "เราใช่มั้ยชื่อ.... เขาประกาศอยู่แปดรอบแล้ว ไปปปป"
น้องก็เลยเดินไปห้องประชาสัมพันธ์ ยามเดินกลับเข้าป้อม เราปั่นจักรยานกลับบ้าน
ทุกอย่างก็จบลง.
จริงๆอยากฝากกับผู้ปกครองว่าอย่างน้อยให้น้องจำเบอร์บ้าน หรือเบอร์ใครสักคนที่บ้านให้ได้
ไม่ก็จดไว้ในสมุด อะไรก็ได้ แล้วกำชับว่าให้รอ ณ จุดใดจุดหนึ่งที่อยู่ในโรงเรียน
เพราะไม่งั้นคงไม่มีใครรู้จุดจบของเรื่องนี้ ซึ่งน่าจะจบไม่ดีแน่นอน
และขอฝากกับเราๆทุกคนค่ะ ถ้าคิดว่ามีใครสักคนกำลังรอการช่วยเหลือ ก็อย่าปล่อยให้เขาได้แต่หวังนะคะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่าาาา
เจอเด็กชายนั่งร้องไห้ จำได้ทุกอย่างยกเว้นเบอร์พ่อแม่
จากชื่อกระทู้อาจจะดูน่าตกใจนิดหน่อยค่ะ แต่อยากนำเรื่องนี้มาแชร์เตือนใจพ่อแม่ที่มีลูกวัยประถมนะคะ
วันนี้ประมาณหกโมงกว่าๆก็ออกไปปั่นจักรยานเล่น ระหว่างทางที่จะปั่นกลับบ้านได้ยินเสียงเด็กผู้ชายร้องดังมากๆอยู่ข้างทาง
จึงจอดแล้วมองไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อลายสก๊อตนั่งร้องไห้น้ำตาไหลเต็มหน้าเลยค่ะ
แต่ยังไม่จอดรถแล้วเดินลงไปหาเลยนะคะ ก็มองก่อนค่ะ คือที่ตรงนั้นเป็นคล้ายๆสวนทางเดินเล็กๆริมคลองที่ให้คนมานั่งเล่น
ใกล้ๆก็มีป้าคนนึงกำลังอ่านหนังสืออยู่ ในใจก็คิดว่า "แม่น้องหรือเปล่า?" น้องอาจจะอยากร้องไห้กลับบ้าน
แต่น้องก็ร้องขึ้นมาอีก แล้วป้าก็ไม่มีทีท่าจะสนใจเลย เราเลยตัดสินใจลงจากจักรยาน แล้วจูงขึ้นไปหาเด็กน้อยคนนั้น
พอเราถามประโยคแรกว่า "ร้องไห้ทำไมครับ?" น้องก็หยุดร้องเลยนะคะ แต่ก็พูดแบบสะอึกสะอื้น แต่พอจับใจความได้
น้องบอกว่าทุกวันจะกลับบ้านพร้อมคุณครู แต่วันนี้คุณครูกลับก่อน แล้วพ่อจะมารับ แต่พ่อยังไม่มา
เราเลยถามว่าจำเบอร์พ่อได้มั้ย น้องก็บอกว่าจำไม่ได้ จำเบอร์ใครที่บ้านไม่ได้เลย
เราเลยถามต่อว่าบ้านอยู่ไหน ซึ่งตำแหน่งบ้านที่น้องบอกอยู่ไกลมาก คือถ้าอยู่ใกล้กะจะให้น้องซ้อนท้ายแล้วพี่จะปั่นไปส่งถึงบ้านเลย
คำถามสุดท้ายที่น่าจะเป็นคำถามแรก (แต่ดันพึ่งถาม) คือจุดที่น้องร้องไห้อยู่นั้นไม่ได้ไกลจากโรงเรียนมากกกกกก ยังพอเดินกลับไปได้
น้องก็บอกว่าอยู่โรงเรียนนี้ เราก็เลยบอกว่าเดินกลับไปโรงเรียนกันนะ ป่านนี้พ่อตามหาให้วุ่นแล้ว
(ตอนนั้นก็คิดว่าทำไมไม่ปั่นจักรยานซ้อนน้องไป - -)
คือเราเลือกจูงจักรยาน แล้วมีเด็กน้อยเดินไปพร้อมกับบนฟุตบาท
ระหว่างทางเราก็ถามน้องเรื่อยๆ ก็ได้ข้อมูลมาว่าอยู่ป.3 จำชื่อครูประจำชั้นได้ พ่อทำงานอยู่กองบิน ถามว่าเป็นนักบินหรอ น้องตอบใช่ด้วย
จำได้ว่าพ่อขับกะบะสีอะไร ทะเบียนอะไร บ้านอยู่ไหนก็จำได้ ทางกลับบ้านก็จำได้ บอกได้ละเอียด
แต่จำเบอร์ใครที่บ้านไม่ได้เลย แล้วไม่มีจดไว้ในสมุดหรืออะไรด้วย
เราเลยบอกว่าสมมติถ้าไม่มีใครมารับจริงๆ เดี๋ยวให้พ่อพี่ขับไปส่งนะ น้องก็ตกลง
เท่าที่ฟังเหมือนน้องคิดกลัวไปว่าที่โรงเรียนไม่มีใครอยู่แล้ว ยามอาจจะกลับบ้านแล้ว โรงเรียนอาจปิดแล้วเลยเดินออกมา
เราเลยบอกน้องไปว่าโรงเรียนไม่ปิดหรอก ยังไงก็ต้องมียามมีเจ้าหน้าที่อยู่ ไม่ว่าพ่อมารับช้าแค่ไหน หนูก็ต้องรออยู่ไหนโรงเรียนนะ
ถ้าเดินออกไปไกลกว่านี้ ใครจับไปแย่เลยนะ แล้วกลับไปจำเบอร์พ่อด้วยนะ ท่องให้ขึ้นใจเลย
เมื่อเดินมาถึงโรงเรียน เราก็จอดจักรยานไว้หน้าประตูใหญ่ แล้วจูงน้องเดินเข้าประตูเล็ก
โรงเรียนยังไม่มืดมาก มีนักเรียนเล่นบาสอยู่หลายคน มีผู้ปกครองมากมายนั่งอยู่ข้างสนาม
แต่ยามไม่อยู่ในป้อม .... เราก็เก้ๆกังๆสักพัก น้องก็ชี้ไปว่ายามอยู่นู่น
อ่อ ยืนโม้อยู่ ฮ่าๆ เมื่อยามกับเราสบตากันที่หน้าประตู เราเลยบอกไปว่าเจอน้องร้องไห้อยู่ตรงนู้น
อยู่ห้องคุณครูคนนี้ บ้านอยู่ที่นี่ แต่จำเบอร์ใครไม่ได้
ยามก็บอกว่ารอกับพี่ เดี๋ยวพ่อมารับ เราก็แบบจะอยู่เป็นเพื่อนด้วยดีมั้ยนะ ขณะที่คิดๆอยู่นั้น
ก็มีเสียงหญิงสาวประกาศมาตามสาย "น้อง.... เด็กชาย.... ชั้นป.3 พ่อมารออยู่ที่ห้องประชาสัมพันธ์..." (ประมาณนี้)
ยามก็ตบมือดังโผง พูดกับน้องว่า "เราใช่มั้ยชื่อ.... เขาประกาศอยู่แปดรอบแล้ว ไปปปป"
น้องก็เลยเดินไปห้องประชาสัมพันธ์ ยามเดินกลับเข้าป้อม เราปั่นจักรยานกลับบ้าน
ทุกอย่างก็จบลง.
จริงๆอยากฝากกับผู้ปกครองว่าอย่างน้อยให้น้องจำเบอร์บ้าน หรือเบอร์ใครสักคนที่บ้านให้ได้
ไม่ก็จดไว้ในสมุด อะไรก็ได้ แล้วกำชับว่าให้รอ ณ จุดใดจุดหนึ่งที่อยู่ในโรงเรียน
เพราะไม่งั้นคงไม่มีใครรู้จุดจบของเรื่องนี้ ซึ่งน่าจะจบไม่ดีแน่นอน
และขอฝากกับเราๆทุกคนค่ะ ถ้าคิดว่ามีใครสักคนกำลังรอการช่วยเหลือ ก็อย่าปล่อยให้เขาได้แต่หวังนะคะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่าาาา