[CR][SR] First Time in Japan เที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรก ตอน นารา โอซากะ เมืองแห่งฝันความฝัน ❤ Part 2

กลับมาแล้วววว กับรีวิวเที่ยวญี่ปุ่นของเรานะ ก็มีคนติดตามกระทู้นิดหน่อย
และก็มีคอมเม้นดีๆเยอะเลย ขอบคุณทุกคนมากนะค่ะที่ติดตามและกดถูกใจรีวิว มีกำลังใจในการเขียนต่ออย่างยิ่ง
ใครที่ไม่เคยอ่านกระทู้แรกเข้าไปตามลิงค์นี้เลยนะค่ะ http://pantip.com/topic/31861689
ต่อจะกระทู้ที่แล้วเราไปเที่ยวเกียวโตกันมา เช้านี้เราก็ยังอยู่เกียวโตกันแต่เราก็จะเดินทางออกจากเกียวโตกันล่ะ ไปโอซาก้ากันแทน

เช้าแล้วที่นอนก็ปล่อยให้มันรกไป มีความสุขมากเมื่อคืน ฝันดี
เช้ามาก็มีเรื่องเล่าจะแชร์ให้ฟังเลย คือเรื่องของเรื่องคนเราไปอาบน้ำตอนเช้าที่ห้องน้ำของชั้นไม่มีคนเลย เยี่ยม!
พอเราอาบน้ำเสร็จก็เป่าผมในห้องน้ำ(นี้โฮสเทลเดรียมไว้ให้) แต่ก็ยังใส่ผ้าคลุมอาบน้ำอยู่นะ

นี้คือหน้าตาทางเดิน จะเห็นว่าทางเดินมันไม่กว้างนัก ห้องก็ใกล้ๆกัน
เราออกจากห้องน้ำและกำลังเดินกลับห้อง ถึงกับสตั้นเลยทีเดียว!!!!
มีฝรั่งผิวขาวคนหนึ่งนอนอยู่หน้าห้องแบบ นอนกางแขนกางขาเหมือนตายแล้วอ่ะ
ผิวขาวโอเค แต่ถ้าหุ่นดีจะฟินมากนี้ไม่ใช่เลย!! หุ่นอย่างกับซานต้าตกรถกวาง อ้วนมากน่ากลัว
ใส่บ๊อกเซอร์ขาสั้นตัวเดียว ผมก็ทองๆขาวๆ คนแก่ชัดๆ หน้าเหมือนอาจาร์ยดับเบิลดอล
เค้านอนอยู่หน้าห้องเรา!!!ตอนนั้นแบบกลัว เพราะไอคนนั้นมันก็หน้าแดงก่ำเลย กินเหล้ามาแหงๆ นอนเหมือนปลิงติดประตูห้องเรา
เราก็พยายามยื่นมือไปกดออด(ประตูล็อกอัตโนมัติต้องใช้คีย์การ์ดเปิด หรือเปิดจากด้านใน) เพราะจะเหยียบหัวไอฝรั่งก็ไม่ได้ ถ้าข้ามหัวพี่แกก็อาจลืมตาขึ้นมาเห็นของลับ OMFG
เราก็เอื้อมมือไปกดอีกรอบ และเผลอไปแตะหัวฝรั่ง สาบานได้เลยว่าไม่ได้ตั้งใจแตะนะค่ะ ฝรั่งนั้นก็ตื่นเลย แล้วก็มองหน้าเรา พี่แกก็ลุกขึ้นยืน
เข้าใจฟิวคนเมาป่ะ หน้าแดงๆ ตาสลัวๆ หน้าหื่นอ่ะ เป็นลุงอีกต่างหาก เราแบบเปิดประตูซะทีดิ!!! พอน้องมาเปิดประตูเรารีบเข้าไปแล้วปิดประตูเลยอ่ะ
น่ากลัวมากกกกก ประสบการ์ณชีวิตจริงๆ ใครเมามากก็จะเป็นแบบนี้ น่ากลัวจริงๆ จบ...

จบเรื่องเล่าประหลาดๆไปล่ะ ต่อเรื่องเที่ยวดีกว่า ออกเดินทางกันเลยค่ะ 9 โมงแล้วตื่นสายกันหมดเลย
คิดไว้ว่าจะนัดเจอกันทำอะไรเสร็จตอน7โมงเพราะต้องเก็บกระเป๋าเตรียมเอาไว้ เช็คเอาท์จากโฮสเทลไว้ก่อนเลย
แต่ฝากกระเป๋าไว้กับพนักงานจะเอาไปเที่ยวด้วยมันก็ลำบาก

ที่ๆเราจะไปในวันนี้ก็คือ .... "NARA" นั้นเองงงง เดินไปKyoto Stationนั่งรถไฟไปลงNaraเลยมันมีเขียนไว้

บัตรที่เราใช้คือKAnsei Thru Pass แบบ3Day ใช้ได้3วัน วันไหนก็ได้ วันแรกเราใช้ไปแล้วเพื่อนั่งจากสนามบินมาเกียวโต
ครั้งนี้เรานั่งจากเกียวโตไปนารา มันสะดวกมากๆ ราคา5000 yen


ภายในรถไฟไม่ค่อยมีคน แปลกๆ แต่ก็มีหนุ่มหล่อนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดูจากในรูป ไม่ใช่คนผมทองนะ ผมดำ


นารา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่หนึ่งเลย เมืองแห่งกวาง มีกวางเยอะมาก เดินไปเดินมาตามถนนเลยทีเดียว รถที่นี้จึงต้องขับช้าเป็นพิเศษ เพราะมีกฎห้ามชนกวาง และเจ้าหน้าที่ที่นี้ก็ไม่ได้จับกวางใส่กรงด้วย กวางมีอิสระมาก เหมือนสวรรค์ของกวางอ่ะ มีนักท่องเที่ยวมาให้อาหาร เดินก็สะดวก อากาศก็ดี มีเพื่อนเป็นกวางด้วยกัน Happy Ending

เดินผ่านฝูงกว้างแล้ว ก็จะเจอกับวัด มีค่าเข้านิดหน่อย ไม่ได้เป็นคนออกตังค์เลยจำไม่ได้ ไม่ถึง100บาทค่ะ

ที่วัดโทไดจิ
เด็กน้อยอีกแล้ววววว น่ารักสุดๆ วันนี้มีหมวกแดง และหมวกเหลือง น่ารักอ่ะ ชอบบบบบบบ


ข้างในวัด อย่างสวยอ่ะ

ไปขอเค้าถ่ายรูปมา เด็กน้อยคณะใหม่เพิ่งไปเจอข้างในวัด หมวกสีม่วงงงงอยู่กับคุณครูหน้าเด็กมาก

ก็เดินชมรอบๆวัดไป ไม่ค่อยมีอะไรให้ถ่ายมาก ก็เดินไปเล่นกับกวางแทน
แล้วก็ไปขึ้นรถเมล์เพื่อที่จะไปที่ ถนนHashimotocho

หน้าตาถนนคนเดิน น่าเดินสุดๆ ได้ของมาเยอะไม่น้อย หุหุ
ตอนนี้ก็บ่ายกว่า อากาศร้อนโฮกมากกกก หาอะไรกินดีกว่า

รีวิวของกินมาถึงแล้ววววว!!!

ร้านที่เรากิน คือ หิวมากไม่มีเวลาเลือกร้านหรอกพอถึงเวลา กินอะไรได้ก็กินไปเหอะ555555
ร้านนี้ตำแหน่งมองเห็นชุดมาก อยู่สุดถนนคนเดินเลยพอดีเป๊ะ

นั่งอยู่ชั้นสองมองลงไปก็เป็นถนนคนเดินเลย

สิงที่กินวันนี้คือ แกงกะหรี่ อร่อยเลย อร่อยมากกกกกกก กินอะไรก็อร่อย ฉะนั้นร้านไหนก็อร่อยค่ะ


กินอาหารเสร็จ ก็ลงไปเดินถนนคนเดินกัน ไปจนสุดทางเลยนะจะเจอถนนใหญ่ๆ ติดกับสถานีรถไฟใต้ดิน
ตรงนั้นก็จะมีน้ำพุ ก็ตกลงกันว่าจะกลับกันเลย ไปเอากระเป๋าที่เกียวโต และก็นั่งโอซาก้าเลย
มันก็บ่ายกว่าแล้วไปถึงคงได้หมดแรงฟ้ามืดกันแน่ๆ เลยกลับกันเลย

ขึ้นรถไฟไปไหนไม่รู้ พี่ที่เคยมา นำเราไปขึ้นรถไฟ ต่อนู่นต่อนี้
สุดท้ายก็มาขึ้นรถไฟคันนี้...

ขนของไปโอซาก้ากันเลยยยยยยยยย เย้เย้ จะได้ไปกุลิโกะแล้วววววว


โอซาก้าาาาาาาาาาาาาาาาาา ถึงแล้ววววววววววว นั่งJRแปปเดียวก็ถึง เร็วดีเหมือนกันไม่ถึงชั่วโมงเลย

โผล่มาที่นี้! ไม่รู้สถานีอะไรแต่เราไม่ได้จะมาที่นี้!!!!คนเยอะมากๆ
หลงทาง...
ขึ้นผิดสถานีค่ะ ก็ย้อนกลับไปใหม่

ขึ้นรถไฟไปต่ออออ ไปลงสถานีทีจองโรงแรมเอาไว้

โอ้ ... ถึงแล้วววววว ลงสถานี Kintetsu Nipponbashi
เดินจากสภานี1นาที ถึงเลยสะดวกเอามากๆ
ที่ๆเราไปพัก คือ Super hotel namba nipponbashi

ข้างหน้าเป็นแบบนี้ รูปจากกูเกิลค่ะ ไม่ได้ถ่ายมา ข้างๆเป็นFamily martหิวก็ลงมากินได้เลย
รีวิวโรงแรมนะค่ะ เพราะปลื้มที่นี้มาก แบบมากถึงมากที่สุด โรงแรมไม่ถึง5ดาว แต่เราให้10ดาวเลย

ขึ้นลิฟท์ไปจะเจอกับล็อบบี้ ก็ไปเช็คอินให้เรียบร้อยแล้วทางโรงแรมจะอธิบายว่าโรงแรมให้อะไรบ้างใน1วัน

จากในรูปภาพคือ หมอน! เรียงกับเป็นระเบียบ มันคือหมอนแบบต่างๆ ถ้าเราอยากนอนหมอนแบบไหนให้เราหยิบขึ้นไป
หมอน1ใบต่อ1คน เลือกได้ตามความชอบ ต้องหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำและผ้าเช็ดตัวขึ้นไปเองสำหรับคนที่ผ้าไม่พอหยิบเพิ่มได้
แล้วสิ่งที่เราชอบมากๆคือ ที่นี้มีของฟรี!!!เช่น ผงอาบน้ำรสส้ม รสเลม่อน รถแอปเปิ้ล ผ้าคาดผมตอนแาบน้ำ ใยขัดตัว ที่มาร์คหน้าแบบต่างๆมีหลายแบบเลย เยอะจริงๆเราจำได้แค่นี้ 1คนสามารถหยิบได้5ชิ้นต่อคืน!!!(เราหยิบมันทุกวันที่พักเลย ได้ของมาเพียบ)

ห้องที่เราอยู่เป็นแบบนี้ แคบได้ใจ- - แคบจริงๆทางเดิน เดินได้แค่คนเดียวแค่วางกระเป๋าก็ไม่มีทางเดินล่ะ
ใช้วิธีเดินบนเตียงแทน ที่นี่มีรองเท้าอยู่บ้านให้ด้วย สบายเท้ามาก

ห้องน้ำหน้าตาเป็นแบบนี้ แคบจริงๆแต่อยู่สบาย เปิดไปเจอชักโครกเลย มองจรงไปเป็นอ่างน้ำที่เล็กแต่กว้าง ติดใจมาก
สิ่งที่ชอบมากคือชักโครก

ว่าด้วยเรื่องชักโครก เชื่อเถอะค่ะ ถ้าคุณไป100%ที่ต้องเจอคือชักโครกแบบเซนเซอร์
ทุกทีมี ค้าพัฒนากันทั่วประเทศแล้วค่ะ ที่เราไปมาไม่เจอชักโครกแบบนั่งยองๆเลย ขนาดวัดที่เราไปก็มีชักโครกแบบเซนเซอร์แล้ว แบบนั่งยองๆมีอยู่ประมาณสอง-สามห้องเป็นส่วนน้อย เรารู้ว่ามีหลายคนไม่กล้าที่จะใช้มันเพราะดูหนังตลกกันมา เช่น หนังเรื่องกวนมึนโฮ ที่พระเอกกดไปโดนปุ่มอะไรไม่รู้แล้วปิดไม่ได้ เลยได้กินน้ำที่ออกมาจากชักโครก นั้นเป็นแค่ในหนังตลกนะค่ะ อย่าเข้าใจผิดและกลัวชักโครกนี้กัน เรายอมรับตอนแรกที่ไปไม่กล้าใช้เลย มันน่ากลัวจริง คิดในใจมันจะเซนเซอร์ตรงรูตูดจริงๆหรอ มันทำได้จริงอ่ะ ช่วงแรกๆที่ไปเลยยังไม่ใช้ จนถึงมาที่โรงแรมนี้ บอกกับตัวเองมาญี่ปุ่นไม่ได้ใช้ชักโครกแบบนี้มันเสียชาติเกิดที่มีโอกาสได้มาแล้วไม่ลอง! เลยตัดสินใจใช้ค่ะ !! ลองใช้เสร็จแล้ว...ความรู้สึกที่แบบ เอ่อมันใช่อ่ะ555555 ต้องการชักโครกแบบนี้มานาน ไม่ต้องล้างเองมันก็ดีเหมือนกัน น้ำที่ออกมาเป็นน้ำอุ่น สบายจริง เขียนเองก็อายแต่มันรู้สึกงั้นจริงๆ สำหรับคุณผู้ชายเราไม่รู้ว่าใช้ยังไงนะ ไม่เคยเข้าไปในห้องน้ำชายหรือถามผู้ชายว่า "เห้ยแก แกได้ไปใช้ห้องน้ำที่ญี่ปุ่นป่ะ มันเป็นไงหรอ เล่าความรู้สึกให้ฟังหน่อยดิ" มันแปลกๆไปเนอะ ฮ่าๆ เราไม่ทำแน่นอนอ่ะจริงๆ เราเขียนเรื่องนี้ไว้เพื่อสำหรับคนที่ไม่กล้าใช้ จะบอกว่าใช้เถอะค่ะรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน หลังจากครั้งแรกที่เราใช้เราก็ใช้มาโดยตลอดกลายเป็นว่าชอบมาก กลับมาไทยแล้วก็ยังอยากบินไปเข้าที่ญี่ปุ่น ไม่ต้องกลับว่าจะกดปุ่มผิดนะค่ะ สำหรับผู้หญิงปุ่มไหนสีชมพู ปุ่มนั้นแหละค่ะ กดเลย
จบเรื่องชักโครก

ต่อ

วางกระเป๋าเสร็จ จัดของเรียบร้อยล่ะ เราก็ออกไปเดินหาอะไรกินกันที่นัมบะ มีความสุขมาก(ใช้บัตรรถไฟ3วันนั้นแหละ ใช้ให้คุ้ม)
แสงสีเสียงที่นี้เป็นอะไร ชีวิตนี้เราไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้อ่ะ สวยมากกกก ปาจิงโกะเยอะไปหมด
ร้านอาหารต่างๆก็ยังเปิดอยู่ คนวัยทำงานที่นี้หลังจากทำงานก็จะมาสังสรรค์กันแถวนี้แหละ
แต่เราไม่ได้เดินไปถึงกุลิโกะที่อยากไปมากๆนะ เพราะหมดแรง ปวดขาไปหาอะไรกินแล้วก็กลับเลย
ได้เห็นชีวิตกลางคนของคนที่นี่ คือ เที่ยงกลางคืนกันเป็นงานอดิเรกรึเปล่าเนี่ย เมืองนี้มันอะไรกันนนนนนน
คนละโลกเลย ใช่โลกเดียวกันรึเปล่า มันแบบ สวยมากกกกก คนยังเยอะ ยิ่งดึกเหมือนยิ่งคึกอ่ะ แต่ร้านค้าส่วนใหญ่ปิดตองสองทุ่มนะค่ะ
บางร้านก็ปิดสามทุ่ม บางร้านก็สี่ทุ่ม(ตามความคึกของลูกค้า ลูกค้าหมดก็ปิด) ห้าทุ่มนี้เหมือนป่าช้า เงียบมาก คนละฟิวกันเลย งง

วันนี้รีวิวของเราก็ขอจบลงตรงนี้นะค่ะ เขียนตั้งแต่สองทุ่มครึ่งตอนนี้สี่ทุ่มกว่าก็ยังไม่เสร็จเลย หารูปเพิ่มเติมและก็ต้องย่อรูปเลยทำให้ช้า
ไว้วันหลังจะเขียนให้เร็วและอัพเร็วกว่านี้ กระทู้นี้ยังมีต่ออีกแน่นอนนะค่ะ ก็อยากให้ติดตามกันเพราะมีอีกหลายเรื่องที่อยากเล่ามาก เก็บกดมาจากไหนหึ- -
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นนะค่ะ คนที่ถูกใจก็ขอบคุณมากๆ ไม่คิดว่าจะมีใครมาถูกใจเลยด้วยซ้ำ ฮ่าๆๆ รอกันหน่อยนะค่ะ