ผมเห็นในการประมูลข้าววันที่ 10 เมษายน นอกจากจะมีการประมูลข้าวแล้ว ยังมีให้เสนอราคาซื้อ ข้าวที่เสื่อมสภาพด้วย
ซึ่งถ้าเป็นของฤดูกาลเก่ามากๆ ก็พอเข้าใจ ว่าอาจเสื่อมสภาพตามเวลา ดังนั้น รีบๆ ขายให้หมด ก็จะได้ล้างโกดังปิดบัญชีเป็นทางการได้สักที
แต่พอเป็นของข้าวที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์รับจำนำมา อย่างกรณีนี้ เป็นของปี 55/56 รอบที่ 1 คือเริ่มตั้งแต่ ตุลาคม 55 มาถึงวันนี้ ก็ไม่เกิน 18 เดือน
มีข้าวที่เรียกว่าสภาพดี ประมาณ 60% แต่ข้าวเกือบ 25% เสื่อมสภาพแล้ว
การเสื่อมสภาพแบบนี้ ไม่น่าจะใช่กรณีปกติแน่ๆ
ดังนั้น ทำไมรัฐบาลถึงต้องนำมาขายเอง
ทำไมไม่ให้คนที่ต้องรับผิดชอบดำเนินการชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น
อาจจะเป็นบริษัทประกัน หรือเจ้าของโกดังก็ว่าไป
เพราะหลักการน่าจะเป็นไปในลักษณะ คนรับผิดชอบเอาข้าวไป แล้วจ่ายเงินเต็มมูลค่าที่ประกันเอาไว้ ให้รัฐบาล ก็เป็นธรรมกันทุกฝ่าย
ทำประกันภัยข้าวไว้ ตันละ 15,000 บาท เอาข้าวเสื่อมสภาพไปขาย สมมติได้ 7,000 บาท บริษัทประกันจะยอมจ่ายตันละ 8,000 มั้ย
ดังนั้นทางที่เห็นทำกัน ไม่ต้องทะเลาะเรื่องขายได้ถูกเกินไป
เหมือนกับประกันรถยนต์ ถ้ารถเสียหายทั้งคัน ก็ชดเชยให้เจ้าของรถตามมูลค่ารถที่ทำประกันไว้ แล้วบริษัทประกันก็เอาซากรถไป
ดังนั้นการที่รัฐเอาข้าวเสื่อมสภาพมาขายแบบนี้ เป็นการตัดตอนความรับผิดชอบ ในช่วงราคาข้าวขาลงหรือไม่
ขายได้ถูกยังไง ก็มองไม่ค่อยออก เพราะราคามันลงเรื่อยๆ อยู่แล้ว ค่าเฉลี่ยราคาขายก็ต่ำลงตามลำดับอยู่แล้ว
สุดท้ายคนที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละกรณีก็ลอยตัว เอาภาษีประเทศชาติไปรับผิดชอบให้แทนไป
ข้าวเสื่อมสภาพ ใครรับผิดชอบ
ซึ่งถ้าเป็นของฤดูกาลเก่ามากๆ ก็พอเข้าใจ ว่าอาจเสื่อมสภาพตามเวลา ดังนั้น รีบๆ ขายให้หมด ก็จะได้ล้างโกดังปิดบัญชีเป็นทางการได้สักที
แต่พอเป็นของข้าวที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์รับจำนำมา อย่างกรณีนี้ เป็นของปี 55/56 รอบที่ 1 คือเริ่มตั้งแต่ ตุลาคม 55 มาถึงวันนี้ ก็ไม่เกิน 18 เดือน
มีข้าวที่เรียกว่าสภาพดี ประมาณ 60% แต่ข้าวเกือบ 25% เสื่อมสภาพแล้ว
การเสื่อมสภาพแบบนี้ ไม่น่าจะใช่กรณีปกติแน่ๆ
ดังนั้น ทำไมรัฐบาลถึงต้องนำมาขายเอง
ทำไมไม่ให้คนที่ต้องรับผิดชอบดำเนินการชดเชยความสูญเสียที่เกิดขึ้น
อาจจะเป็นบริษัทประกัน หรือเจ้าของโกดังก็ว่าไป
เพราะหลักการน่าจะเป็นไปในลักษณะ คนรับผิดชอบเอาข้าวไป แล้วจ่ายเงินเต็มมูลค่าที่ประกันเอาไว้ ให้รัฐบาล ก็เป็นธรรมกันทุกฝ่าย
ทำประกันภัยข้าวไว้ ตันละ 15,000 บาท เอาข้าวเสื่อมสภาพไปขาย สมมติได้ 7,000 บาท บริษัทประกันจะยอมจ่ายตันละ 8,000 มั้ย
ดังนั้นทางที่เห็นทำกัน ไม่ต้องทะเลาะเรื่องขายได้ถูกเกินไป
เหมือนกับประกันรถยนต์ ถ้ารถเสียหายทั้งคัน ก็ชดเชยให้เจ้าของรถตามมูลค่ารถที่ทำประกันไว้ แล้วบริษัทประกันก็เอาซากรถไป
ดังนั้นการที่รัฐเอาข้าวเสื่อมสภาพมาขายแบบนี้ เป็นการตัดตอนความรับผิดชอบ ในช่วงราคาข้าวขาลงหรือไม่
ขายได้ถูกยังไง ก็มองไม่ค่อยออก เพราะราคามันลงเรื่อยๆ อยู่แล้ว ค่าเฉลี่ยราคาขายก็ต่ำลงตามลำดับอยู่แล้ว
สุดท้ายคนที่ต้องรับผิดชอบในแต่ละกรณีก็ลอยตัว เอาภาษีประเทศชาติไปรับผิดชอบให้แทนไป