(5 เม.ย.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. กล่าวสรุปผลการประชุมแกนนำ กปปส. ทั่วประเทศครั้งแรก ว่า การประชุมครั้งนี้พบว่ามีเครือข่ายประมาณ 1,800 กลุ่ม มาร่วม ดังนั้นหลังจากนี้ขอให้แกนนำเครือข่าย ไปทำทะเบียนสมาชิกให้พร้อม หากตนเป่านกหวีด เรียกระดมพลเมื่อใดขอให้เข้ามาร่วมการเคลื่อนไหว โดยจะต่อสู้ยืดยาวประมาณ 15 วัน เพื่อมายึดอำนาจให้เป็นของประชาชน วันเผด็จศึกนั้นจะต่อสู้ให้หนักกว่าเดิม และให้รู้แพ้รู้ชนะไปเลย การออกมาต่อสู้รอบต่อไป คือการต่อสู้ยกสุดท้าย
ส่วนวันเผด็จศึก จะขึ้นอยู่กับ 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 วันที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และกรณีที่ 2 เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นสถานะภาพความเป็นนายกฯ เพราะใช้อำนาจโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. โดยมิชอบ
โดยนายสุเทพกล่าวว่า คราวนี้จะยึดอำนาจประเทศไทย เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยตั้งแต่การประกาศยุบสภา ดังนั้นจึงมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะประกาศความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของประชาชน เหมือนกับสมัยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้ว จะสั่งยึดทรัพย์ตระกูลชินวัตรทั้งหมด แล้วให้ไปพิสูจน์เอาเองว่าทรัพย์ส่วนใดที่ที่หามาได้ด้วยความสุจริต จากนั้นจะออกคำสั่งห้ามคนตระกูลชินวัตร ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง , นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ห้ามออกนอกประเทศ
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า จากนั้นจะออกคำสั่งแต่งตั้ง นายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของประชาชน และตนจะนำรายชื่อนายกฯ และ ครม. กราบบังคมทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้าฯ โดยตนจะเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกฯ ฐานะเป็นร่างทรงของประชาชน จากนั้นจะตั้งสภานิติบัญญัติของประชาชน และรีบปฏิรูปประเทศตามพิมพ์เขียวที่ได้มีการระดมความคิดไว้ก่อนหน้านี้ และเมื่อดำเนินการปฏิรูป แก้ไขกฎหมายและรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ จะปล่อยให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามกระบวนการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบที่แท้จริง
นายสุเทพกล่าวว่า เมื่อทำเสร็จจะกลับบ้าน ไปใช้ชีวิตแบบสามัญชน แต่จะเก็บนกหวีดไว้ หากวันใดที่รัฐบาลหรือสภาฯ ที่เราแต่งตั้งไม่ทำตามที่ประชาชนกำหนด หรือไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็ตามทรยศกับประชาชน เราจะออกมาใหม่ ทั้งนี้ยืนยันว่า กปปส.ไม่ตั้งพรรคการเมือง แต่หากเครือข่ายจะไปเป็นนักการเมืองสามารถทำได้ แต่อย่านำชื่อ กปปส.ไปอ้าง เพราะกปปส.เป็นผู้เฝ้าระวังรักษาผลประโยชน์ชาติและแผ่นดินเท่านั้น
สุเทพประกาศทุลเกล้านายกคนกลาง ยึดทรัพย์ตระกูลชินวัตร ห้ามคนในตระกูลออกนอกประเทศ
ส่วนวันเผด็จศึก จะขึ้นอยู่กับ 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 วันที่ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และกรณีที่ 2 เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พ้นสถานะภาพความเป็นนายกฯ เพราะใช้อำนาจโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการ สมช. โดยมิชอบ
โดยนายสุเทพกล่าวว่า คราวนี้จะยึดอำนาจประเทศไทย เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยตั้งแต่การประกาศยุบสภา ดังนั้นจึงมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะประกาศความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ของประชาชน เหมือนกับสมัยที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อประกาศตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้ว จะสั่งยึดทรัพย์ตระกูลชินวัตรทั้งหมด แล้วให้ไปพิสูจน์เอาเองว่าทรัพย์ส่วนใดที่ที่หามาได้ด้วยความสุจริต จากนั้นจะออกคำสั่งห้ามคนตระกูลชินวัตร ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง , นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ห้ามออกนอกประเทศ
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า จากนั้นจะออกคำสั่งแต่งตั้ง นายกฯ และคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของประชาชน และตนจะนำรายชื่อนายกฯ และ ครม. กราบบังคมทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยโปรดเกล้าฯ โดยตนจะเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกฯ ฐานะเป็นร่างทรงของประชาชน จากนั้นจะตั้งสภานิติบัญญัติของประชาชน และรีบปฏิรูปประเทศตามพิมพ์เขียวที่ได้มีการระดมความคิดไว้ก่อนหน้านี้ และเมื่อดำเนินการปฏิรูป แก้ไขกฎหมายและรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ จะปล่อยให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามกระบวนการประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบที่แท้จริง
นายสุเทพกล่าวว่า เมื่อทำเสร็จจะกลับบ้าน ไปใช้ชีวิตแบบสามัญชน แต่จะเก็บนกหวีดไว้ หากวันใดที่รัฐบาลหรือสภาฯ ที่เราแต่งตั้งไม่ทำตามที่ประชาชนกำหนด หรือไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนก็ตามทรยศกับประชาชน เราจะออกมาใหม่ ทั้งนี้ยืนยันว่า กปปส.ไม่ตั้งพรรคการเมือง แต่หากเครือข่ายจะไปเป็นนักการเมืองสามารถทำได้ แต่อย่านำชื่อ กปปส.ไปอ้าง เพราะกปปส.เป็นผู้เฝ้าระวังรักษาผลประโยชน์ชาติและแผ่นดินเท่านั้น