เรื่องมีอยู่ว่าแฟนผมทำงานเป็นลูกจ้างที่ร้านหินแกรนิตร้านหนึ่งในชลบุรีมาเป็นเวลาเกือบ 10 ปี ซึ่งระบบร้านเป็นแบบครอบครัว ให้ญาติพี่น้องเข้ามาบริหาร ผมเห็นแฟนผมเป็นคนเก่งมีความสามารถ หาลูกค้าได้เยอะ และเป็นลูกจ้างเค้ามาเป็นเวลานานแล้ว ส่วนตัวผมเองก็มีความรู้เรื่องทำธุรกิจมาหลายด้าน จึงอยากให้แฟนออกมาทำเป็นของตัวเองเอง จึงให้ลาออกจากงานให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเตรียมตัววางแผนเปิดร้าน
ตอนแรกออกมาก็จบกันด้วยดีครับกับงานเก่า เพียงแค่ติดอยู่ที่ยังไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นของเดือนที่ลาออก เห็นบอกว่าจะโอนให้ในอาทิตย์ถัดไป แต่กลายเป็นว่าพอผ่านไปได้อาทิตย์กว่า ๆ ก็มีการโพสข้อความต่อว่า เหน็บแนมจากทางร้าน ทั้งใน Facebook และใน Line กล่าวหาว่าแฟนผมขโมยลูกค้าในช่วงที่ยังเป็นพนักงานอยู่ พอลาออกก็รับงานต่อเนื่องในขณะลาออกมาแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย แฟนผมเลยโทรไปเคลียร์ คำตอบที่ได้รับคือทางร้านได้บอกว่าลูกค้าเป็นคนบอกเองว่าแฟนผมให้ราคาดีกว่าจึงตัดสินใจสั่งหินจากแฟนผม ซึ่งผมกับแฟนก็งงมาก เพราะตั้งแต่ลาออกมา เราก็ไม่ได้ไปรับงานอะไรที่ไหนเลย ได้แต่ไปเที่ยวพักผ่อนและวางแผนในการเปิดร้าน ซึ่งทำให้รู้สึก Fail มาก นอกจากจะใส่ร้ายแล้วก็ยังไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นในส่วนที่เหลืออีกต่างหาก
หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร ถือว่าทำบุญฟาดเคราะห์ไป ตั้งหน้าตั้งตาเตรียมเช่าที่ วางแผนก่อสร้างร้าน หลังจากนั้นไม่นานนัก คนที่รู้จักกับทางร้านก็มาบอกข่าวกับเราว่า คนที่ร้านเก่าพูดจาด่าทอ ว่ากล่าว ปล่อยข่าวต่าง ๆ นา ๆ โพสด่าในเฟสเรื่องโน้นเรื่องนี้ แอบเข้ามาดูในเฟสร้านที่ผมเพิ่งสร้างทิ้งเอาไว้ในขณะที่ยังไม่เปิดร้าน ทั้งดูถูก ว่ากล่าว เหน็บแนมต่าง ๆ นา ผมเลยข้องใจว่าคนพวกนั้นกำลังคิดจะทำอะไรกัน บ้ารึเปล่า หรือกลัวคนอื่นมาเปิดร้านแข่งจนขนาดต้องใช้วิธีสกปรกต่าง ๆ นามาตัดทอนกำลัง หรือแค่อิจฉา
ผมอยากทราบความคิดเห็นว่าผมควรจะทำอย่างไร จะนิ่งเฉยและปล่อยให้เค้าปล่อยข่าวด่าทอใส่ร้ายต่อไปโดยไม่ทำอะไร หรือเข้าไปฉะกันให้รู้เรื่องไปเลยว่าต้องการอะไร ซึ่งผมเป็นเป็นคนใจร้อนและโมโหร้าย กลัวจะทำอะไรรุนแรงเกินเลยไป แต่ใจนึงก็พยายามสงบเอาไว้ พอเปิดร้านค่อยว่ากัน ผมไม่เคยกลัวเลยเวลาทำธุรกิจหรือทำงานแข่งขันกับใคร คนเก่งจริงเค้าวัดกันที่งาน แข่งกันที่ผลงานดีกว่ามาแข่งกันที่ฝีปาก ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่งี่เง่าและปัญญาอ่อนสำหรับผมมาก ทำงานทำธุรกิจมาหลากหลาย ไม่เคยเจอคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะจิตใจคับแคบได้ขนาดนี้
ชี้แนะทีครับ ตอนนี้รู้สึกเซ็งและหงุดหงิดพอควร
แฟนจะออกมาเปิดร้านเอง แต่โดนเจ้าของร้านที่เคยทำงานกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายสารพัด
ตอนแรกออกมาก็จบกันด้วยดีครับกับงานเก่า เพียงแค่ติดอยู่ที่ยังไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นของเดือนที่ลาออก เห็นบอกว่าจะโอนให้ในอาทิตย์ถัดไป แต่กลายเป็นว่าพอผ่านไปได้อาทิตย์กว่า ๆ ก็มีการโพสข้อความต่อว่า เหน็บแนมจากทางร้าน ทั้งใน Facebook และใน Line กล่าวหาว่าแฟนผมขโมยลูกค้าในช่วงที่ยังเป็นพนักงานอยู่ พอลาออกก็รับงานต่อเนื่องในขณะลาออกมาแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย แฟนผมเลยโทรไปเคลียร์ คำตอบที่ได้รับคือทางร้านได้บอกว่าลูกค้าเป็นคนบอกเองว่าแฟนผมให้ราคาดีกว่าจึงตัดสินใจสั่งหินจากแฟนผม ซึ่งผมกับแฟนก็งงมาก เพราะตั้งแต่ลาออกมา เราก็ไม่ได้ไปรับงานอะไรที่ไหนเลย ได้แต่ไปเที่ยวพักผ่อนและวางแผนในการเปิดร้าน ซึ่งทำให้รู้สึก Fail มาก นอกจากจะใส่ร้ายแล้วก็ยังไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นในส่วนที่เหลืออีกต่างหาก
หลังจากวันนั้นก็ไม่ได้ติดใจเอาความอะไร ถือว่าทำบุญฟาดเคราะห์ไป ตั้งหน้าตั้งตาเตรียมเช่าที่ วางแผนก่อสร้างร้าน หลังจากนั้นไม่นานนัก คนที่รู้จักกับทางร้านก็มาบอกข่าวกับเราว่า คนที่ร้านเก่าพูดจาด่าทอ ว่ากล่าว ปล่อยข่าวต่าง ๆ นา ๆ โพสด่าในเฟสเรื่องโน้นเรื่องนี้ แอบเข้ามาดูในเฟสร้านที่ผมเพิ่งสร้างทิ้งเอาไว้ในขณะที่ยังไม่เปิดร้าน ทั้งดูถูก ว่ากล่าว เหน็บแนมต่าง ๆ นา ผมเลยข้องใจว่าคนพวกนั้นกำลังคิดจะทำอะไรกัน บ้ารึเปล่า หรือกลัวคนอื่นมาเปิดร้านแข่งจนขนาดต้องใช้วิธีสกปรกต่าง ๆ นามาตัดทอนกำลัง หรือแค่อิจฉา
ผมอยากทราบความคิดเห็นว่าผมควรจะทำอย่างไร จะนิ่งเฉยและปล่อยให้เค้าปล่อยข่าวด่าทอใส่ร้ายต่อไปโดยไม่ทำอะไร หรือเข้าไปฉะกันให้รู้เรื่องไปเลยว่าต้องการอะไร ซึ่งผมเป็นเป็นคนใจร้อนและโมโหร้าย กลัวจะทำอะไรรุนแรงเกินเลยไป แต่ใจนึงก็พยายามสงบเอาไว้ พอเปิดร้านค่อยว่ากัน ผมไม่เคยกลัวเลยเวลาทำธุรกิจหรือทำงานแข่งขันกับใคร คนเก่งจริงเค้าวัดกันที่งาน แข่งกันที่ผลงานดีกว่ามาแข่งกันที่ฝีปาก ผมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่งี่เง่าและปัญญาอ่อนสำหรับผมมาก ทำงานทำธุรกิจมาหลากหลาย ไม่เคยเจอคนที่เป็นเจ้าของธุรกิจจะจิตใจคับแคบได้ขนาดนี้
ชี้แนะทีครับ ตอนนี้รู้สึกเซ็งและหงุดหงิดพอควร