ไม่ต่างกัน กับใจฉันหรอก
สิ่งนั้นที่เธอสัมผัส เราต่างรับรู้มันด้วยใจ
บางอย่างไม่อาจมองเห็นมันด้วยตา
แต่เราเรียนรู้มันด้วยใจ
เราไม่ต่างกัน
(มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง)
เพลง ไม่ต่างกันของ 25 Hours ที่ถูกหยิบมาใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ คิดถึงวิทยา ไม่ใช่เพลงใหม่ที่แต่งขึ้นมาเพื่อใช้กับหนังเรื่องนี้ หากแต่เป็นเพลงเก่าที่วง 25 Hours เคยแต่งไว้เป็นเดโม่ซึ่งโปรดิวเซอร์ของหนัง เก้ง จิระ มะลิกุล เห็นว่าเพลงนี้คือเพลงที่เหมาะจะใช้กับหนังเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ได้แต่งมาเพื่อหนังเรื่องนี้แต่กลับสอดคล้องกับเรื่องราวของหนังอย่างบังเอิญ ราวกับว่า
เป็น เดสตินี่
(มันก็คือ Destiny โชคชะตาฟ้าลิขิตนั่นเอง)
เรื่องราวของหนังก่อเกิดจากความบังเอิญที่ชายหนุ่มอดีตนักกีฬามวยปล้ำต้องไปสอนหนังสือเด็กในพื้นที่อันแสนกันดาล (เราอาจจะคุ้นเรื่องราวที่ครูบ้านนอกสอนหนังสือตามป่าตามเขา พื้นที่ห่างไกลความเจริญแบบต่างๆ แต่กับเรื่องนี้ ไม่ใช่) เป็นโรงเรียนที่อยู่บนแพน้ำรองรับเด็กที่อยู่อาศัยกับครอบครัวที่ทำมาหากินด้วยการจับปลาเสียเป็นส่วนใหญ่
ครูสองต้องทั้งสอนหนังสือและอาศัยอยู่ร่วมกับเด็กตลอดห้าวัน แล้วจึงสามารถกลับบ้านหรือไปหาคนรักตามแต่ต้องการได้ในวันเสาร์อาทิตย์ ความเหงาจึงก่อเกิด แต่แล้วก็ได้พบสมุดไดอารี่ของครูแอน ครูสาวคนก่อนที่เคยสอนที่นี่มาก่อน สิ่งที่เขียนในไดอารี่มีทั้งเรื่องการสอนหนังสือและเรื่องส่วนตัว แต่ดูเหมือนเรื่องส่วนตัวจะเยอะมากกว่า นั่นทำให้ครูหนุ่มอารมณ์เปลี่ยวเกิดรู้สึกคลายเหงาไปได้มากและรู้สึกสนิทสนมกับครูแอนเจ้าของไดอารี่ราวกับรู้จักกันมานาน
แค่เรื่องราวก็ได้กลิ่นหนังรักอารมณ์โชคชะตาฟ้าลิขิต บางคนบอกคิดถึง Il Mare หนังรักเกาหลีที่เล่นกับห้วงเวลาแบบอัศจรรย์ ซึ่งมันก็แตกต่างกันมากอยู่ดี เพราะ คิดถึงวิทยา เล่นกับห้วงเวลาแบบบังเอิญที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง มีสมุดไดอารี่เป็นสื่อกลางของการสื่อสารของคนสองคน
นอกจากนี้หนังยังสะท้อนเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางการศึกษาของเด็กไทยไว้อย่างค่อนข้างแนบเนียนพอควร แต่ในส่วนของความเป็นครูนั้นโดยเฉพาะครูแอนที่หนังต้องการสื่อถึงความเป็นครูหัวสมัยใหม่ กล้าคิด กล้าทำ กลับดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก มีความจงใจให้เห็นค่อนข้างชัดเจนหลายครั้ง ในขณะที่บทครูสอง กลับดูเป็นธรรมชาติมากกว่า บี้ แสดงออกมาได้ดูใสซื่อ และเชื่อได้ว่าคือครูอ่อนหัดคนหนึ่ง
ขอพูดถึงบทสมทบของพี่เวียร์ ที่เล่นได้ดีมากจนถึงขั้นแย่งซีนหลายครั้งหลายครา ผมว่าอาจถึงขั้นทำบี้หมองไปเลยก็ว่าได้ นั่นอาจจะด้วยบุคลิกของตัวละครดังกล่าวซึ่งเป็นครูที่ค่อนข้างเนี้ยบและแน่วแน่กับชีวิต ในขณะที่ครูสองเพิ่งจะมาเป็นครูและยังมีบุคลิกที่ดูขี้เล่นติดตัวอยู่เสมอ พี่เวียร์เลยเท่ระเบิดสิครับ
หลายครั้งที่คาดเดาเหตุการณ์ในหนังผิดจนรู้สึกได้เลยว่า หนังมีบทที่ค่อนข้างแน่นและมีจังหวะการเล่นกับคนดูที่สนุก ทำให้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ขนาดตอนจบ ก็ยังเดาผิดเพราะคิดว่าหนังอาจจะไม่จบแบบ Happy ending เหมือนหนังทั่วไปแต่อาจจะจบแบบเท่ๆอย่าง กวนมึนโฮ ที่ไม่สุดว่าจะ Happy หรือจะ Sad
โดยรวมแล้วรู้สึกชอบและประทับใจมากกว่าที่คิดไว้พอสมควร ในส่วนของความเต็มอิ่มและความสุขนั้นหนังมีให้เราอย่างค่อนข้างเต็มที่ ทั้งจากภาพสถานที่แสนสวยในหนัง ตัวละครที่สร้างมาเพื่อความน่ารักใสๆ เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างครูและเด็ก และความรักความผูกพันธ์ของตัวละครที่เกิดขึ้นผ่านช่องทางที่น่าประหลาดใจ
หนังเรื่องนี้จึงทำหน้าที่ในความเป็นหนัง ในแบบที่ตั้งใจไว้ได้อย่างสมบูรณ์
หากว่าจะไม่ถูกใจใครนั่นก็อาจเป็นเพราะ คุณคาดหวังสิ่งอื่นจากหนังซึ่งหนังเรื่องนี้ ไม่มี
ฝากเพจคุยเรื่องหนังของผมหน่อยครับ
facebook.com/watchnwrite
คิดถึงวิทยา คิดถึงหนังรักดีๆสักเรื่อง
ไม่ต่างกัน กับใจฉันหรอก
สิ่งนั้นที่เธอสัมผัส เราต่างรับรู้มันด้วยใจ
บางอย่างไม่อาจมองเห็นมันด้วยตา
แต่เราเรียนรู้มันด้วยใจ
เราไม่ต่างกัน
(มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนัง)
เพลง ไม่ต่างกันของ 25 Hours ที่ถูกหยิบมาใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ คิดถึงวิทยา ไม่ใช่เพลงใหม่ที่แต่งขึ้นมาเพื่อใช้กับหนังเรื่องนี้ หากแต่เป็นเพลงเก่าที่วง 25 Hours เคยแต่งไว้เป็นเดโม่ซึ่งโปรดิวเซอร์ของหนัง เก้ง จิระ มะลิกุล เห็นว่าเพลงนี้คือเพลงที่เหมาะจะใช้กับหนังเรื่องนี้ ทั้งที่ไม่ได้แต่งมาเพื่อหนังเรื่องนี้แต่กลับสอดคล้องกับเรื่องราวของหนังอย่างบังเอิญ ราวกับว่า
เป็น เดสตินี่
(มันก็คือ Destiny โชคชะตาฟ้าลิขิตนั่นเอง)
เรื่องราวของหนังก่อเกิดจากความบังเอิญที่ชายหนุ่มอดีตนักกีฬามวยปล้ำต้องไปสอนหนังสือเด็กในพื้นที่อันแสนกันดาล (เราอาจจะคุ้นเรื่องราวที่ครูบ้านนอกสอนหนังสือตามป่าตามเขา พื้นที่ห่างไกลความเจริญแบบต่างๆ แต่กับเรื่องนี้ ไม่ใช่) เป็นโรงเรียนที่อยู่บนแพน้ำรองรับเด็กที่อยู่อาศัยกับครอบครัวที่ทำมาหากินด้วยการจับปลาเสียเป็นส่วนใหญ่
ครูสองต้องทั้งสอนหนังสือและอาศัยอยู่ร่วมกับเด็กตลอดห้าวัน แล้วจึงสามารถกลับบ้านหรือไปหาคนรักตามแต่ต้องการได้ในวันเสาร์อาทิตย์ ความเหงาจึงก่อเกิด แต่แล้วก็ได้พบสมุดไดอารี่ของครูแอน ครูสาวคนก่อนที่เคยสอนที่นี่มาก่อน สิ่งที่เขียนในไดอารี่มีทั้งเรื่องการสอนหนังสือและเรื่องส่วนตัว แต่ดูเหมือนเรื่องส่วนตัวจะเยอะมากกว่า นั่นทำให้ครูหนุ่มอารมณ์เปลี่ยวเกิดรู้สึกคลายเหงาไปได้มากและรู้สึกสนิทสนมกับครูแอนเจ้าของไดอารี่ราวกับรู้จักกันมานาน
แค่เรื่องราวก็ได้กลิ่นหนังรักอารมณ์โชคชะตาฟ้าลิขิต บางคนบอกคิดถึง Il Mare หนังรักเกาหลีที่เล่นกับห้วงเวลาแบบอัศจรรย์ ซึ่งมันก็แตกต่างกันมากอยู่ดี เพราะ คิดถึงวิทยา เล่นกับห้วงเวลาแบบบังเอิญที่สามารถเกิดขึ้นได้จริง มีสมุดไดอารี่เป็นสื่อกลางของการสื่อสารของคนสองคน
นอกจากนี้หนังยังสะท้อนเรื่องความไม่เท่าเทียมกันทางการศึกษาของเด็กไทยไว้อย่างค่อนข้างแนบเนียนพอควร แต่ในส่วนของความเป็นครูนั้นโดยเฉพาะครูแอนที่หนังต้องการสื่อถึงความเป็นครูหัวสมัยใหม่ กล้าคิด กล้าทำ กลับดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาตินัก มีความจงใจให้เห็นค่อนข้างชัดเจนหลายครั้ง ในขณะที่บทครูสอง กลับดูเป็นธรรมชาติมากกว่า บี้ แสดงออกมาได้ดูใสซื่อ และเชื่อได้ว่าคือครูอ่อนหัดคนหนึ่ง
ขอพูดถึงบทสมทบของพี่เวียร์ ที่เล่นได้ดีมากจนถึงขั้นแย่งซีนหลายครั้งหลายครา ผมว่าอาจถึงขั้นทำบี้หมองไปเลยก็ว่าได้ นั่นอาจจะด้วยบุคลิกของตัวละครดังกล่าวซึ่งเป็นครูที่ค่อนข้างเนี้ยบและแน่วแน่กับชีวิต ในขณะที่ครูสองเพิ่งจะมาเป็นครูและยังมีบุคลิกที่ดูขี้เล่นติดตัวอยู่เสมอ พี่เวียร์เลยเท่ระเบิดสิครับ
หลายครั้งที่คาดเดาเหตุการณ์ในหนังผิดจนรู้สึกได้เลยว่า หนังมีบทที่ค่อนข้างแน่นและมีจังหวะการเล่นกับคนดูที่สนุก ทำให้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ขนาดตอนจบ ก็ยังเดาผิดเพราะคิดว่าหนังอาจจะไม่จบแบบ Happy ending เหมือนหนังทั่วไปแต่อาจจะจบแบบเท่ๆอย่าง กวนมึนโฮ ที่ไม่สุดว่าจะ Happy หรือจะ Sad
โดยรวมแล้วรู้สึกชอบและประทับใจมากกว่าที่คิดไว้พอสมควร ในส่วนของความเต็มอิ่มและความสุขนั้นหนังมีให้เราอย่างค่อนข้างเต็มที่ ทั้งจากภาพสถานที่แสนสวยในหนัง ตัวละครที่สร้างมาเพื่อความน่ารักใสๆ เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างครูและเด็ก และความรักความผูกพันธ์ของตัวละครที่เกิดขึ้นผ่านช่องทางที่น่าประหลาดใจ
หนังเรื่องนี้จึงทำหน้าที่ในความเป็นหนัง ในแบบที่ตั้งใจไว้ได้อย่างสมบูรณ์
หากว่าจะไม่ถูกใจใครนั่นก็อาจเป็นเพราะ คุณคาดหวังสิ่งอื่นจากหนังซึ่งหนังเรื่องนี้ ไม่มี
ฝากเพจคุยเรื่องหนังของผมหน่อยครับ
facebook.com/watchnwrite