สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 76
จากการพูดคุยเราสรุปได้ดังนี้ค่ะ
1. อดีตแฟน –
1) เราถามเขาว่าเมื่อไหร่ที่คิดจะบอกเรา …รอตอนที่มีเงินมาใช้ให้เราจนครบแล้วถึงจะบอก ที่โทรไปแล้วไม่รับสายเรา ไม่ค่อยมาหาเรา เพราะว่าเราจะได้ชินกับความรู้สึกนั้นและเลิกหวังในตัวเขา คล้ายๆว่าถอดใจไปเอง
2) เรื่องหนี้สินเขายินดีที่จะทำสัญญากู้เงินกับเราและยอมหาคนมาค้ำประกันคนใหม่
3) เขาบอกเราว่าความรู้สึกที่มีให้เราตอนนี้เหมือนความผูกพันมากกว่า (ไม่ได้รักนั่นเอง)
4) เราถามเขาว่าถ้าให้เลือกได้ตอนนี้จะเลือกใคร….เขาบอกว่าขอเลือกทั้งสองคน (หุหุ) เพราะเขารู้สึกอยากดูแลเราแต่ก็ต้องเลี้ยงลูกเช่นกัน
5) เขาบอกว่าต่อไปนี้จะรับโทรศัพท์จากเราตลอดเพราะเขาไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้ว และก็อยากให้เรารับโทรศัพท์ของเขาเช่นกัน (เราเลยบอกเขาไปว่าทันทีที่เราวางหูโทรศัพท์ เราสองคนจะกลายเป็นคนอื่นทันที และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาอาลัยอาวรณ์กันอีกแล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกับความเจ็บปวดหนนี้ที่เขาหยิบยื่นให้เรา)
6) สองประโยคที่ได้ยินซ้ำมากที่สุดคือ “พี่ผิดเอง” กับ “พี่ขอโทษ"
2. ผู้หญิงคนนั้น – เผอิญบนเฟสบุคมีโพสเบอร์ไว้ เราเลยตัดสินใจโทรไปคุย เราถามเธอว่า
1) ตกลงคบกันมากี่ปี …4 ปี
2) แล้วรู้ไหมว่าผู้ชายกำลังคบหากับเราอยู่ด้วย …เธอตอบว่ารู้มาตลอด แต่อยากจะคบ
3) ที่ท้องนี่ตั้งใจหรือเปล่า …เธอบอกว่ามันพลาดเอง พอรู้ว่าพลาดก็ไม่อยากทำร้ายเด็ก เลยต้องปล่อยเลยตามเลย
เธอก็บ่นว่าแฟนยังติดบอล แต่ไม่ใช่แบบโต๊ะแล้วเป็นแบบพนันทางเว็บ แล้วเธอก็ต้องช่วยหาเงินมาโปะหนี้บอลเพราะแฟนไปกู้เงินนอกระบบมา ดอกเบี้ยมหาโหด และเงินเดือนแฟนก็ไม่เคยพอใช้สักเดือน จนตอนนี้เงินที่เธอหมดไปทะยานสู่หลักแสนแล้วเช่นกัน
แล้วเธอบอกอีกว่า เธอได้กระตุ้นอดีตแฟนเราตลอดๆ ว่าให้พูดความจริง แต่จนแล้วจนรอด เราก็ได้รู้เอง
สุดท้ายเธอบอกเราว่า “ขอโทษ”สำหรับเรื่องนี้ ตัวเธอเองเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เข้าใจว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน (หึหึ )
เราตอบเธอไปว่า ตอนนี้ยังขอไม่รับคำขอโทษเพราะรู้สึกว่าไม่มีส่วนไหนที่อยากจะยกโทษให้เลย มันต้องใช้เวลา
3. พ่อแม่ของอดีตแฟน – เรากับแม่เรายังไม่ทันจะอ้าปาก แม่เขารีบชิงขอโทษพวกเราก่อน แล้วบอกว่าพวกเขาอยากจะบอกความจริงเรามาก แต่แฟนเราขอร้องว่าอยากเคลียกับเราเอง อยากให้เราได้ยินจากปากเขาเองมากกว่า ไม่ใช่ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนกับเหตุการณ์นี้
สำหรับเรื่องทั้งหมดพวกเขายอมรับว่าลูกชายพวกเขาเองที่ไม่ดี และยังอยากให้ครอบครัวของเรายังไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม ยังรักเราเหมือนลูกสาวเหมือนเดิม แล้วก็หวังว่าอดีตแฟนเราจะตาสว่างสักวัน
ส่วนเรื่องหนี้สินพวกเขาพยายามจะช่วยอีกทางในการหาเงินมาใช้เรา ฉะนั้นเราไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้คืน เรื่องค้ำประกันรถคุณพ่อรับรองว่าจะจ่ายให้ครบทุกงวดไม่ให้เดือดร้อนมาถึงเรา
สุดท้ายเราสองคนได้ยุติความสัมพันธ์ทุกอย่างแล้วในวันนี้ค่ะ และถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี อาจจะมีโมเมนท์ที่น้ำตาไหลเพราะอินไปบ้าง แต่เราถือว่าการเจรจาบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยดีค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้านะคะ ขอให้ทุกท่านโชคดีในความรักค่ะ ^_^
1. อดีตแฟน –
1) เราถามเขาว่าเมื่อไหร่ที่คิดจะบอกเรา …รอตอนที่มีเงินมาใช้ให้เราจนครบแล้วถึงจะบอก ที่โทรไปแล้วไม่รับสายเรา ไม่ค่อยมาหาเรา เพราะว่าเราจะได้ชินกับความรู้สึกนั้นและเลิกหวังในตัวเขา คล้ายๆว่าถอดใจไปเอง
2) เรื่องหนี้สินเขายินดีที่จะทำสัญญากู้เงินกับเราและยอมหาคนมาค้ำประกันคนใหม่
3) เขาบอกเราว่าความรู้สึกที่มีให้เราตอนนี้เหมือนความผูกพันมากกว่า (ไม่ได้รักนั่นเอง)
4) เราถามเขาว่าถ้าให้เลือกได้ตอนนี้จะเลือกใคร….เขาบอกว่าขอเลือกทั้งสองคน (หุหุ) เพราะเขารู้สึกอยากดูแลเราแต่ก็ต้องเลี้ยงลูกเช่นกัน
5) เขาบอกว่าต่อไปนี้จะรับโทรศัพท์จากเราตลอดเพราะเขาไม่มีอะไรต้องปิดบังแล้ว และก็อยากให้เรารับโทรศัพท์ของเขาเช่นกัน (เราเลยบอกเขาไปว่าทันทีที่เราวางหูโทรศัพท์ เราสองคนจะกลายเป็นคนอื่นทันที และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาอาลัยอาวรณ์กันอีกแล้ว เพราะเราไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานแค่ไหนกับความเจ็บปวดหนนี้ที่เขาหยิบยื่นให้เรา)
6) สองประโยคที่ได้ยินซ้ำมากที่สุดคือ “พี่ผิดเอง” กับ “พี่ขอโทษ"
2. ผู้หญิงคนนั้น – เผอิญบนเฟสบุคมีโพสเบอร์ไว้ เราเลยตัดสินใจโทรไปคุย เราถามเธอว่า
1) ตกลงคบกันมากี่ปี …4 ปี
2) แล้วรู้ไหมว่าผู้ชายกำลังคบหากับเราอยู่ด้วย …เธอตอบว่ารู้มาตลอด แต่อยากจะคบ
3) ที่ท้องนี่ตั้งใจหรือเปล่า …เธอบอกว่ามันพลาดเอง พอรู้ว่าพลาดก็ไม่อยากทำร้ายเด็ก เลยต้องปล่อยเลยตามเลย
เธอก็บ่นว่าแฟนยังติดบอล แต่ไม่ใช่แบบโต๊ะแล้วเป็นแบบพนันทางเว็บ แล้วเธอก็ต้องช่วยหาเงินมาโปะหนี้บอลเพราะแฟนไปกู้เงินนอกระบบมา ดอกเบี้ยมหาโหด และเงินเดือนแฟนก็ไม่เคยพอใช้สักเดือน จนตอนนี้เงินที่เธอหมดไปทะยานสู่หลักแสนแล้วเช่นกัน
แล้วเธอบอกอีกว่า เธอได้กระตุ้นอดีตแฟนเราตลอดๆ ว่าให้พูดความจริง แต่จนแล้วจนรอด เราก็ได้รู้เอง
สุดท้ายเธอบอกเราว่า “ขอโทษ”สำหรับเรื่องนี้ ตัวเธอเองเป็นผู้หญิงเหมือนกัน เข้าใจว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน (หึหึ )
เราตอบเธอไปว่า ตอนนี้ยังขอไม่รับคำขอโทษเพราะรู้สึกว่าไม่มีส่วนไหนที่อยากจะยกโทษให้เลย มันต้องใช้เวลา
3. พ่อแม่ของอดีตแฟน – เรากับแม่เรายังไม่ทันจะอ้าปาก แม่เขารีบชิงขอโทษพวกเราก่อน แล้วบอกว่าพวกเขาอยากจะบอกความจริงเรามาก แต่แฟนเราขอร้องว่าอยากเคลียกับเราเอง อยากให้เราได้ยินจากปากเขาเองมากกว่า ไม่ใช่ไม่รู้สึกทุกข์ร้อนกับเหตุการณ์นี้
สำหรับเรื่องทั้งหมดพวกเขายอมรับว่าลูกชายพวกเขาเองที่ไม่ดี และยังอยากให้ครอบครัวของเรายังไปมาหาสู่กันเหมือนเดิม ยังรักเราเหมือนลูกสาวเหมือนเดิม แล้วก็หวังว่าอดีตแฟนเราจะตาสว่างสักวัน
ส่วนเรื่องหนี้สินพวกเขาพยายามจะช่วยอีกทางในการหาเงินมาใช้เรา ฉะนั้นเราไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้คืน เรื่องค้ำประกันรถคุณพ่อรับรองว่าจะจ่ายให้ครบทุกงวดไม่ให้เดือดร้อนมาถึงเรา
สุดท้ายเราสองคนได้ยุติความสัมพันธ์ทุกอย่างแล้วในวันนี้ค่ะ และถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี อาจจะมีโมเมนท์ที่น้ำตาไหลเพราะอินไปบ้าง แต่เราถือว่าการเจรจาบรรลุวัตถุประสงค์ด้วยดีค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้านะคะ ขอให้ทุกท่านโชคดีในความรักค่ะ ^_^
ความคิดเห็นที่ 3
มาขนาดนี้แล้ว คาดว่าคงไม่ต้องขอคำแนะนำแล้วมั้ง จขกท มีวุฒิภาวะ น่าจะตัดสินใจเองได้
ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับผู้ชาย เหี้..ๆแบบนี้
ตอบคำถาม จขกท.
1
1.1เซ็น สัญญาเงินกู้
1.2หากไม่ยอม ต้องใช่เล่ทางกฏหมาย โดย จขกท ต้องทำให้เป็นคดีทเลาะวิวาท จะใช้วิธีไหนก็แล้วแต่
ขึ้นโรงพัก ลงบันทึกประจำวัน ว่าวิวาทกันเนื่องจาก ตัวฝ่ายชายเป็นหนี้ จำนวนเท่านั้นเท่านี้ ไม่ยอมชดใช้
แล้วใช้บันทึกนั้นฟ้องเอา
1.4 กดดันผ่านผู้บังคับบัญชา ส่งเอกสารทวงหนี้ไป
1.5 กระทืบ ( แต่ต้องมั่นใจว่าเขาไม่พก ไอเท่ม มาด้วย)
1.6ผมเห็นด้วยกับ ข้อ 1.5
1.7 ลืมข้อ 1.3
2
2.1 เปลี่ยนคนค้ำ โดยคุณหรือทางฝ่ายนู้น อันนี้ยาก ถือว่าพลาดไป
จำใว้เป็นบทเรียนแล้วกัน ค้ำประกัน เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแควนคอ
เนะนำให้คุยเรื่องนี้ก่อน เป็นอันดับแรก เปลี่ยนได้แล้วค่อยว่ากันเรื่องเงินแสนสาม
รักษาระดับความสำพันธ์ช่วงนี้ไปก่อน
3
3.1 ได้ ให้ยื่นกับผู้บังคับบัญชาสูงกว่าหนึ่งขั้น หากไม่ได้รับการปลดเปลื่องทุกข์
ให้ยื่นสูงกว่าอีก1 ขั้น
ปัจฉิมลิขิต
ในข้อ1.2 ต้องเนียนนะหา สน อื่น นอกพื้นที่ของฝ่ายชาย จำนวนเงินขอให้ชัดๆ
3 อย่าทำ คุณไม่จดทะเบียน มีวิธีอื่นๆที่เล่นได้แสบกว่านี้อีกมาก หากอยู่ในวงราชการ
เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ อย่างมาก ปั่ง ขั้นไม่ขึ้น อยากทราบหลังไมล์
ว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับผู้ชาย เหี้..ๆแบบนี้
ตอบคำถาม จขกท.
1
1.1เซ็น สัญญาเงินกู้
1.2หากไม่ยอม ต้องใช่เล่ทางกฏหมาย โดย จขกท ต้องทำให้เป็นคดีทเลาะวิวาท จะใช้วิธีไหนก็แล้วแต่
ขึ้นโรงพัก ลงบันทึกประจำวัน ว่าวิวาทกันเนื่องจาก ตัวฝ่ายชายเป็นหนี้ จำนวนเท่านั้นเท่านี้ ไม่ยอมชดใช้
แล้วใช้บันทึกนั้นฟ้องเอา
1.4 กดดันผ่านผู้บังคับบัญชา ส่งเอกสารทวงหนี้ไป
1.5 กระทืบ ( แต่ต้องมั่นใจว่าเขาไม่พก ไอเท่ม มาด้วย)
1.6ผมเห็นด้วยกับ ข้อ 1.5
1.7 ลืมข้อ 1.3
2
2.1 เปลี่ยนคนค้ำ โดยคุณหรือทางฝ่ายนู้น อันนี้ยาก ถือว่าพลาดไป
จำใว้เป็นบทเรียนแล้วกัน ค้ำประกัน เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกแควนคอ
เนะนำให้คุยเรื่องนี้ก่อน เป็นอันดับแรก เปลี่ยนได้แล้วค่อยว่ากันเรื่องเงินแสนสาม
รักษาระดับความสำพันธ์ช่วงนี้ไปก่อน
3
3.1 ได้ ให้ยื่นกับผู้บังคับบัญชาสูงกว่าหนึ่งขั้น หากไม่ได้รับการปลดเปลื่องทุกข์
ให้ยื่นสูงกว่าอีก1 ขั้น
ปัจฉิมลิขิต
ในข้อ1.2 ต้องเนียนนะหา สน อื่น นอกพื้นที่ของฝ่ายชาย จำนวนเงินขอให้ชัดๆ
3 อย่าทำ คุณไม่จดทะเบียน มีวิธีอื่นๆที่เล่นได้แสบกว่านี้อีกมาก หากอยู่ในวงราชการ
เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ อย่างมาก ปั่ง ขั้นไม่ขึ้น อยากทราบหลังไมล์
ความคิดเห็นที่ 65
ลองวิธีนี้นะคะ
บอกว่าคุณกำลังจะกู้ซื้อบ้านหรือรถก็ได้
แล้วจำเป็นต้องเคลียร์หนี้บัตรให้หมด ถ้าเขาหามาไม่ได้
ก็บอกเขาว่าคุณจะไปขอให้ญาติจ่ายแทนด้วยจำนวนเงินเท่านี้
แต่ต้องยืนยันกับญาติว่า คุณไม่ได้สุรุ่ยสุร่ายแต่แฟนยืมมีสัญญากันด้วย
เลยต้องเอาสัญญาไปให้ญาติดูว่าคุณยืมจริงๆ
แบบนี้เขาถึงจะให้ยืม และบอกขัอดีด้วยว่า
ดอกจะถูกกว่าบัตร ถ้าเขาไม่เซ็นต์ก็ดราม่าร้องห่มร้องไห้อะไรกดดีนจนต้องเซ็นต์
ส่วนค้ำประกันก็บอกว่าจากการจะกู้อะ ต้องปลอดหนี้และไม่เซ็นต์ค้ำประกันใคร
ขอให้ทางเขาหาคนมาค้ำแทน
ตอนเซ็นต์แนะให้ไปที่ทำงานเขา เกิดร้องไห้ขึ้นมาเขาจะได้อาย รีบๆเซ็นต์ให้คุณ
คนชั่วทั้งตระกูลแบบนี้ ต้องเล่ห์เหลี่ยมเข้าสู้อะค่ะ
บอกว่าคุณกำลังจะกู้ซื้อบ้านหรือรถก็ได้
แล้วจำเป็นต้องเคลียร์หนี้บัตรให้หมด ถ้าเขาหามาไม่ได้
ก็บอกเขาว่าคุณจะไปขอให้ญาติจ่ายแทนด้วยจำนวนเงินเท่านี้
แต่ต้องยืนยันกับญาติว่า คุณไม่ได้สุรุ่ยสุร่ายแต่แฟนยืมมีสัญญากันด้วย
เลยต้องเอาสัญญาไปให้ญาติดูว่าคุณยืมจริงๆ
แบบนี้เขาถึงจะให้ยืม และบอกขัอดีด้วยว่า
ดอกจะถูกกว่าบัตร ถ้าเขาไม่เซ็นต์ก็ดราม่าร้องห่มร้องไห้อะไรกดดีนจนต้องเซ็นต์
ส่วนค้ำประกันก็บอกว่าจากการจะกู้อะ ต้องปลอดหนี้และไม่เซ็นต์ค้ำประกันใคร
ขอให้ทางเขาหาคนมาค้ำแทน
ตอนเซ็นต์แนะให้ไปที่ทำงานเขา เกิดร้องไห้ขึ้นมาเขาจะได้อาย รีบๆเซ็นต์ให้คุณ
คนชั่วทั้งตระกูลแบบนี้ ต้องเล่ห์เหลี่ยมเข้าสู้อะค่ะ
แสดงความคิดเห็น
เเฟนเราที่คบกันมาเกือบ 10 ปี ไปอยู่กินฉันท์สามีภรรยาและมีลูกด้วยกันกับหญิงอื่น รบกวนขอคำแนะนำด้วยค่ะ
เรากับเเฟนคบกันมาตั้งเเต่เดือนตุลาคม ปี 2547 ซึ่งปีนี้ก็เข้าปีที่ 10 เเล้ว เราอยู่กันคนละที่นะคะ เเต่นัดเจอกันเรื่อยๆ ใช้ชีวิตแบบคนที่เป็นเเฟนกันทั่วๆไป โดยทางบ้านทั้ง 2 ฝ่ายรับรู้มาตลอด
มาระยะหลังๆช่วง 2-3 ปีนี้เเฟนเราไม่ค่อยมาหา ไม่ค่อยโทรมา เราถามว่าทำไม เขาบอกเหนื่อยบ้าง ติดม๊อบบ้าง (เเฟนเราเป็นตำรวจชั้นประทวนค่ะ) เราก็พอเข้าใจเหตุผล เเต่เราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ความรู้สึกมันบอกว่าน่าจะมีอะไรผิดปกติ จนกระทั่งวันนี้ทุกอย่างมันก็กระจ่าง
วันนี้ตอนแรกเราว่าจะเข้านอนเร็วเพราะไม่มีรายการอะไรน่าดู เเต่มันนึกตะหงิดๆ เลยลองเข้าไปเช็คอีเมล์ของเเฟน ก็ไปพบกับอีเมล์ฉบับนึง แจ้งมากจากจีเมล์ว่า ได้มีการเปลี่ยนแปลงเบอร์โทรสำรองสำหรับอีเมล์คุณที่จีเมล์ ดราม่ามันเริ่มตรงนี้ละค่ะ
เราก็สงสัยไปสมัครอีเมล์อะไรอีกเนี่ย จนเอาอีเมล์ของจีเมล์นั้นไปเสิชดูจนพบเฟสบุ๊คอันใหม่ของเเฟนเรา ภาพคัพเวอร์ด้านหลังเป็นรูปเด็กผู้หญิง ภาพโพรไฟล์ต่างๆ ก็ถ่ายคู่กันกับผู้หญิงคนอื่น ซึ่งใครดูก็รู้ว่า 3 คนนี้คือพ่อแม่ลูกกัน พอเจอช็อตนี้คำถามต่างๆมันก็พรั่งพรูมาในสมองเรามากมาย
เราเข้าไปดูเฟสบุคของผู้หญิงคนนั้น เราเลยเข้าใจไม่ผิดว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ลูกกันแน่นอน มีทั้งวันคลอด วันโกนผมไฟ การไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ เเล้วที่เเย่ไปกว่านั้นก็คือพ่อเเม่เเฟนเราก็รับรู้ถึงการมีตัวตนของผู้หญิงคนนี้และเด็ก เเต่พวกเขาปิดบังเรามาตลอด ปัจจุบันเด็กคนนี้อายุ 2 ขวบ 2 เดือนเเล้ว
คำตอบเรื่องความสัมพันธ์ คือ ยังไงเราคงต้องเป็นฝ่ายไป เเต่เรามีประเด็นดังนี้ที่ยังคาราคาซังอยู่ จึงรบกวนสอบถามเพื่อนๆในพันทิปหน่อยค่ะ
1. เเฟนเรายืมเงินเราไปผ่านบัตรเครดิตโดยกดมาเป็นเงินสดเเละกู้เป็นเงินก้อนผ่านธนาคาร ยังมีหนี้ที่ต้องจ่ายคืนธนาคารเจ้าของบัตรเเต่ละเดือน เฉลี่ย 5,000 บาท ถ้าหากจ่ายหมดจะตกอยู่ราวๆ 130,000 บาท ซึ่งหลักฐานการยืมระหว่างเราสองคนไม่มี (มันอาจจะเเย่ตรงนี้) เขายืมเราแบบสะสมมาเรื่อยๆจนเป็นเงินก้อนใหญ่ เขาบอกเอาไปใช้หนี้บอล ซ่อมรถบ้าง และที่แย่คือเขาเเทบไม่ใช้คืนเลยในเเต่ละเดือน เราต้องแบกภาระตรงนี้ มีเพียงไม่กี่เดือนที่ทางบ้านเขาช่วยมาบ้างแต่ตอนนี้ไม่ได้ช่วยเเล้ว เราอยากจะถามว่าเราพอมีทางได้คืนไหมคะ (เงินที่เราสำรองออกไปก่อนเราจดไว้ตลอดนะคะ)
2. เราเป็นคนค้ำประกันเช่าซื้อรถยนต์ให้กับน้องสาวเขา ซึ่งจะครบสัญญาในปี 2561 (ผ่อน 7 ปี 84 งวดค่ะ) เราสามารถถอนค้ำประกันได้ไหมค่ะ เเล้วทำได้ด้วยวิธีไหนบ้างค่ะ
3. เราไม่รู้ว่าเขาได้จดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนั้นหรือยัง เราสามารถเอาความผิดทางวินัยกับเขาได้ไหมค่ะ อาจจะดูอาฆาตแค้น เเต่เราอยากทราบเเนวทางไว้บ้างค่ะ
อาจจะโพสดึกไปหน่อย เพราะเรามัวตั้งสติให้พิมพ์เเล้วอ่านรู้เรื่องมากที่สุดค่ะ
ปล. เราไม่ใช่วัยรุ่นเเล้ว เเต่เราหาเเท็คความรักวัยทำงานไม่เจอ เลยขอเลือกใช้ของวัยรุ่นไปก่อน
เราโทรไปคุยกับเเม่แล้ว แม่บอกว่าพรุ่งนี้ (วันนี้ตอนเช้า) ต้องไปคุยที่บ้านผู้ชาย เราก็แอบหวั่นๆเล็ก ไม่รู้จะออกมารูปแบบไหน
ขอบคุณที่เเวะมาอ่านนะคะ ขอรับรองว่าทั้งหมดเป็นเรื่องจริงค่ะ
+ + ขอขอบคุณทุกความเห็นและกำลังใจนะคะ คืนนี้จะมาสรุปเรื่องราวหลังจากการคุยกับเเฟนเรา ผู้หญิงคนนั้น และพ่อแม่เเฟนค่ะ
ปล. บทสรุปอยู่ที่ความเห็น 76 ค่ะ