ขอแชร์ประสบการณ์ชีวิตนะคะแม่เราป่วยเป็นมะเร็งตับคะระยะสุดท้ายคะวันที่1ธันวาคม56ได้พาเเม่ไปตรวเช็คร่างกายที่เชียงใหม่เพราะเเม่มีอาการปวดท้องและไม่ค่อยมีแรงตอนแรกก้อแค่ตั้งใจว่าให้แม่เช็คร่างกายดูเฉยๆปรากฎว่าคุณหมอสั่งแอดมิทแม่เลยและขอทำอัลตราซาวน์แต่ก้อไม่พบอะไรเลยขอทำMRI.เเละCTSCANปรากฎว่าตรวจพบเจอก้อนเนื้อบริเวณรอบตับ8cm. พวกเราตกใจมากพี่สาวก้อเลยถามหมอว่าเเล้วต้องทำอย่างไรหมอบอกว่าก้อตัดออกไม่ต้องตกใจพวกเรามีความหวังว่าเเม่ต้องหายเป็นได้ก็ต้องหายได้ผ่านไป1อาทิตย์แม่ยังไม่ได้ทำอะไรโรงพยาบาลที่เเม่อยู่เป็นของเอกชนค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมากพวกเราเลยปรึกษากันพี่น้องว่าย้ายเเม่เข้าของรัฐบาบดีกว่าเพราะมีอาจารย์หมอที่เก่งๆเฉพาะทางหลายท่านที่คอยดูแลอยู่(เชียงใหม่) แม่อยู่ห้องพิเศษเกือบเดือนต้องเติมเกล็ดเลือดตลอดหมอนัดเเม่เจาะชิ้นเนื้อก้อเลยต้องเพิ่มเกล็ดเลือดเพราะเป็นเกล็ดเลือดต่ำเเม่ต้องให้เกล็ดเลือดทุกวันเป็นเวลา1อาทิตย์เพราะผลเลือดเเม่ยังไม่OK.ให้1วันประมาณ4ถุงพอครบ1อาทิตย์พรุ่งนี้หมอนัดแม่เจาะชิ้นเนื้อเลยเพิ่มเกล็ดเลือดตอนกลางคืนอีก5ถุงรวมตอนกลางวันเอีก4ถุงรวมแล้วในวันนั้นเเม่ต้องให้เกล็ดเลือดทั้งหมด8ถุงวีนนั้นเรานอนเฝ้าแม่เราจับเวลาเกล็ดเลือดเเต่ละถุงใช้เวลาประมาณ30-40นาทีต่อ1ถุงผ่านไป2ถุงพอถุงที่3ใช้เวลาปีะมาณไม่เกิน15นาทีเองแม่เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออกเหนาวสั่นทั้งตัวเราตกใจมากเรากดออดเเรียกพยาบาลให้มาดูให้ตามหมอปรากฎว่าตามไม่ได้หมอไมรับโทรศัพท์เราบอกให้พยาบาลให้ช่วยทำอะไรสักอย่างช่วยแม่เราด้วยเค้าก้อเลยฉีดยาให้แม่น่าจะเป็นยาแก้เเพ้แล้วเอาเครื่องช่วยออกซิเยนมาเสียบที่จมูกแม่จากนั้นก็ออกไปตอนนั้นเป็นเวลาประมาณเที่ยงคืนหลังจากนั้นเราก้อไม่ได้เจอพยาบาลอีกเลยไม่มีใครเข้ามาดูแม่เราเลยณตอนนั้นเรากอดแม่ไว้ว่าแม่อย่าเป็นอะไรนะแม่หนาวสั่นเข้าไปในกระดูกเราเอากระเป๋าน้ำร้อนมาประคบตามตัวแม่เอาผ้าห่มหนาๆมาห่มปฐมพยาบาลทุกอย่างพยาบาลปล่อยเราดูแม่เองไม่มีใครเข้ามาดูเลยเรากดออดเรียกก้อไม่มีใครเข้ามาเราไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของพวกคุณจรรยาบรรณอยู่ตรงไหนน่าจะสนใจกับชีวิตคนไข้ให้มากกว่านี้หากถ้าเป็นพ่อเป็นแม่คุณคุณจะทำแแบบนี้ไหมคุณให้เกล็ดเลือดคนไข้ถุงที่1ถุงที่2ค่อยๆปล่อยพอถุงที่3เป็นพยาบาลอีกคนให้เกล็ดเลือดเร็วมากจนคนไข้เกิดภาวะช้อคคุณน่าจะใส่ใจให้มากกว่านี้เราได้มาเจอพยาบาลอีกทีตอน6โมงเช้าเที่ยงตืนถึง6โมงเช้าเราอยู่กับแม่แค่2คนพอหมอมาตอนเช้าเราพูดกับหมอหมอขอโทษเรากับแม่หมอบอกว่าเกิดจากให้เกล็ด้ลือดเร็วเกินไปหมอเจาะชิ้นเนื้อแม่ไปตรวจไม่ได้ชิ้นเนื้อได้แต่เลือดหมอเลยขอทำMRI ปรากฎว่าก้อนเนื้อที่มันยู่บริเวณรอบตับแม่ตอนนี้มันเริ่มกระจายแล้วสรุปคือไม่สามารถทำอะไรได้แล้วหมอบอกให้พาแม่กลับบ้านไม่สามารถทำการผ่าตัดได้เเล้วเวลาของแม่เหลือไม่นาน เราเสียใจพี่น้องทุกคนเสียใจแม่เสียใจที่หมอไม่รักษาให้แม่แต่ตอนต้นเดือนทำไมบอกว่ารักษาได้ทำให้พวกเรามีความหวังว่าแม่ต้องหายและได้มีชีวิตอยู่กับลูกๆต่อไปแต่มาวันนี้ผ่านไปไม่ถึง20วันบอกว่ารักษาไม่ได้แล้วให้พาแม่กลับบ้านพวกเราร้องไห้เสียใจกันมากพวกเราพาแม่กลับบ้านแล้วบอกเเม่ว่าหมอไม่รักษาแม่ไม่เป็นไรเดี๋ยวลูกๆจะรักษาแม่เองพวกพี่น้องเราก้อเลยเปิดในอินเตอร์เน็ทศึกษาข้อมูลเเล้วในที่สุดพวกเราก็เลือกรักษาแม่แบบแพทย์ทางเลือกให้แม่กินอาหารชีวจิตงดเนื้อสัตว์กินน้ำผลไม่ปั่นกินหญ้าปักกิ่งคั้นข้าวลูกเดือยอาหารสำหรับผู้ป่วยมะเร็งอะไรที่เค้าว่าดีดีในที่นี้ไม่ใช่ว่ากินได้ทุกอย่างแต่ละอย่างที่ให้แม่กินต้องได้รับการวิจัยและการรับรองจากสถาบันแต่ละที่ว่าดีพวกเราหามาให้แม่ แม่เรามีลูกทั้งหมด5คนคะเรานึกย้อนไปในตอนที่เรายังเด็กเเม่เราทำทุกอย่างยอมลำบากทุกอย่างเพื่อให้ลูกได้เรียนหนังสิอในที่ดีๆมีทุกอย่างไม่น้อยหน้าใครขายส้มตำส่งลูกเรียนจนจบปริญญาทุกคนลูกๆทุกคนได้ดีทุกคนลูกๆทุกคนสัญญากับแม่ว่าถ้าโตขึ้นเราจะเลี้งดูแม่ให้สบายแต่พวกเรากัอได้ทำหน้าที่ลูกที่ดีกันทุกคนคอยปรนนิบัติแมตลอดเวลา24ชั่วโมงเพราะตอนกลางคืนแม่จะนอนไม่หลับแม่บอกว่าเหมือนมีตัวอะไรวิ่งอยู่ในร่างกายเราก้อต้องคอยนวดให้แม่ตลอดเวลาทุกวันพวกเราทุกคนให้กำลังใจแม่ทุกครั้งเเม่ทำทุกอย่างที่ลูกบอกให้ทำเพราะแม่ต้องการที่จะหายและได้มีชีวิตอยู่ดูแลลูกต่อไปพวกเราไม่ได้บอกแม่ว่าแม่เป็นอะไรบอกเพียงแต่ว่าแม่เป็นเนื้องอกจนในที่สุดตัวแม่เองรู้ว่าแม่เป็นอะไรแม่กอดพวกลูกๆแล้วร้องไห้เราถามแม่ว่าแม่ร้องไห้ทำไมแม่บอกว่าแทนที่แม่จะเป็นฝ่ายดูแลปกป้องลูกกลายเป็นลูกต้องคอยมาดูแลแม่น้องก้อยังเรียนไม่จบพวกเราสงสารแม่มากเลยได้แต่บอกแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงพวกเราพวกเราจะคอยดูแลกันพี่น้องจะรักกันจะไม่ทิ้งกันจะจำคำที่แม่สอนทุกคำน้องชายบวชให้แม่เราจัดการปลงผมน้องที่บ้านเพราะแม่ขาเริ่มไม่มีแรงแล้วต้องนั่งรถเข็นแม่ปลงผมน้องแล้วกอดน้องร้องไห้แม่บอกว่าแม่ขอโทษนะที่ไปส่งลูกที่วัดไม่ได้พวกเรากอดกันแล้วร้องไห้อาการแม่เราในตอนนั้นทรงๆทรุดๆแต่หน้าตาแม่เราไม่โทรมเลยเหมือนคนปกติเหมือนไม่ได้เป็นอะไรพวกเรานวดใ้เเม่ทุกวันให้แม่ฝึกสมาธิแบบSKGบำบัดฟังพรพักตระหนักรู้กินอาหารเสริมทำทุกอย่างเพราะเราเชื่อว่าต้องมีปฏิหารย์แม่เราต้องหายเพราะเเม่เราเป็นคนดีมีศีลธรรมเพราะถ้าผู้ใดมีธรรม ธรรมก็จะรักษาผู้นั้นแต่ปฏิหารย์ก็ไม่มีจริงอาการแม่เราเริ่มทรุดลงจากที่แม่เราเดินได้อาบน้ำสระผมเองได้ขาแม่เราเริ่มไม่มีแรงกินอาหารได้น้อยลงแน่นหน้าอกมากขึ้นตัวเเม่เองเริ่มรู้ว่าไม่ไหวแม่บอกให้พวกเราพาแม่ไปหาหมอหน่อยพวกเราเลยพาแม่ไปหาหมอที่โรงพยาบาลลำพูนหมอบอกว่าแม่บวมน้ำตอนนั้นแม่อยู่ห้องรวมมีผู้คนที่นอนเจ็บมีสายท่อระโยงระยางสภาพแวดล้อมที่รอบตัวแม่ดูแล้วหดหู่แม่บอกว่ากลับบ้านพวกเราเลยบอกแม่ว่ากำลังขอหมอย้ายห้องแม่อยู่แม่รอก่อนนะตอนนั้นพวกเราทำเรื่องย้ายห้องให้แม่ตอนแีกเราไปขอหมอหมอไม่อนุญาติเพราะถ้าเป็นห้งเดี่ยวหากเกิดอะไรขึ้นเครื่องมือมันไม่พร้อมพยาบาลที่นั่นก้อมีไม่กี่คนพวกเราบอกคุณหมอว่าหากเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีการให้อาหารทางสายยางจะไม่มีการเสียบท่อหายใจหรืออะไรก็ตามที่ต้องสอดใส่เข้าไปทางปากหรือรูจมูกแม่เพราะเเม่เคยสั่งไว้ตอนที่แม่ไม่เป็นอะไรบอกว่าห้ามทำแบบนี้กับแม่เราขอแค่ให้แม่ได้อยู่ในห้องที่สบายมีหมอคอยดูแลมีภาวะรอบตัวที่น่าอยู่ถ้าแม่จะจากไปขอให้แม่จากไปอย่างสงบหมอจึงอนุญาติเเม่ได้อยู่ห้องวีไอพีห้องวีไอพีนี้เป็นเคสที่มีไว้ให้ในกรณีที่ผู้ป่วยที่พักฟื้นที่ใกล้จะออกจากโรงพยาบาลกับในกรณีอย่างแม่ของเรา. พวกเราเฝ้าแม่ตลอด24ชั่วโมงอาการแม่ทรุดลง้รื่อยๆช่วงนั้นแม่ฝึกสมาธิพวกเรานิมนต์พระมาเทศน์ให้แม่ฟังให้แม่ถวายพระพุทธรูปถวายสังฆทานตอนเช้าซื้อของให้แม่ใส่บาตรให้แม่จบหัวก่อนแล้วไปใส่บาตรให้แม่แล้วให้แม่กรวดน้ำทุกวันให้เจ้ากรรมนายเวรเรานั่งมองแม่ที่เตียงต้องแอบร้องไห้ทุกครั้งพวกเราเปิดธรรมให้แม่ฟังทุกวันแม่เริ่มเดินไม่ได้กินอาหารไม่ได้ตาเริ่มฟางจำอะไรไม่ค่อยได้ขับถ่ายไม่ได้ไม่มีแรงเบ่งเราช่วยแม่สวนก้นทำทุกอย่างกลัวของเสียมันตีขึ้นอาการแม่เริ่มมาเป็นตามลำดับจนคืนวันที่3กุมภาพันธ์57นี้ แม่เริ่มมีภาวะน้ำท่วมปอดตอนแรกเราคิดว่าสเลดติดคอแม่พี่สาวเอานิ้วพันผ้าก้อตมาล้วงที่ปากแม่ก็ไม่มีอะไรออกมาแต่ไม่ใช่มันคืออาการน้ำท่วมปอดมะเร็งมันเริ่มกระจายขึ้นสมองแม่จับที่หัว เราก็นวดที่หัวเอาลองกานอยทาให้เย็นพี่น้องทุกคนมารวมกันนั่งสมาธิให้แม่สวดมนต์ให้แม่ให้แม่กำหนดจิต ครั้งนึงเราเคยไหว้พระขอพรพระขอสิ่งศักดิ์บุญกุศลผลบุญที่ลูกได้ทำไว้ลูกขออุทิศให้เจ้ากรรมนายเวรทุกภพทุกชาติของแม่ของลูกขอให้พวกท่านจงรับไว้แล้วได้โปรดไว้ชีวิตแม่ของลูกด้วยเถิดอย่าเพิ่งเอาชีวิตแม่ของลูกไปหากแลกชีวิตกันได้ลูกขอแลกให้ลูกตายแทนแม่ของลูกด้วยเถิดแต่ท่านก็ไม่ให้ พอมาวันนี้พวกเราทุกคนพี่น้องทุกคนไหว้พระแล้วนั่งสมาธิไหว้พระไหว้สิ่งศักดิ์หากแม่ลูกมีอายุขัยเพียงเท่านี้ขอให้แม่ของลูกได้จากไปอย่างสงบอย่าได้ทรมานเลย เพราะเราไม่อยากให้แม่ทรมานเราคงทนเห็นไม่ได้แต่แม่ไม่ทรมานเลย แม่มองลูกๆแล้วค่อยๆหลับตาลงในวันที่4กุมภาพันธ์2557 เวลาตี1ครึ่ง. แม่ได้จากไปอย่างสงบณตอนนั้นเรารู้สึกมากกว่าคำว่าเสียใจมันเป็นอะไรทีทรมานมากเราไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันนี้แม่เราอายุ67ปีแม่น่าจะอยู่อีกสัก10ปีก็ได้ เราไม่เคยคิดเลยว่าวันนึงเราต้องไปเคาะโรงเรียกแม่เรามากินข้าวแม่เราอยู่ในนั้นหรอที่นอนในนั้นคือแม่เราหรอเวลาผ่านไปเดือนกว่าไม่มีวันไหนเวล่ไหนที่เราไม่คิดถึงแม่เลยเราร้องไห้หาแม่ทุกวันไม่เคยฝันหาแม่เลยบางครั้งไหว้พระขอพระให้พาแม่มาหาทีขอกอดทีแค่นั้นมันเป็นอะไรที่เศร้าที่สุดในชีวิตหากชาติหน้ามีจริงขอให้ปอได้เกิดมาเป็นลูกของแม่สุพิศทุกภพทุกชาตินะคะ. เราอยากจะถ่ายทอดประสบการณ์ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆได้อ่านคะหากใครที่ยังมีแม่อยู่ให้รักและดูแลท่านให้มากๆนะคะเพราะวันนึงที่ท่านจากเราไปมันเป็นอะไรที่เศร้าที่สุดในชีวิต และใครที่มีคุณพ่อคุณแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งกำลังใจเป็นสิ่งสำคัญคะแนะนำให้ฝึกสมาธิเพราะสมาธิข่วยได้เพร่ะแม่เราจากไปอย่างสงบไม่ทรมาน และถ้าใครที่พาพอเเม่เช็คร่างกายตลอดอย่าเพิ่งมั่นใจว่าพ่อเเม่เราไม่เป็นอะไรคะเพราแม่เราเช็คร่างกายตลอดทุกๆ3เดือน 6เดือนตรวจใหญ่1ปี เป็นเวลาเกือบ10ปีแต่ก็ไม่มีวี่เเววที่จะเป็นมะเร็ง แต่ย้อนไป5ปีที่แล้วตรวจพบแม่เป็นเกล็ดเลือดต่ำเต่หมอก็ไม่ได้ว่าอะไรให้ยามากินแค่นั้นคะขอแนะนำถ้าใครไปตรวจร่างกายแล้วพบเกล็ดเลือดต่ำให้ตรวจมะเร็งทันทีคะเพราะโอกาสที่จะเปผ็นมีแต่ถ้าไม่เป็นก็โชคดีไปคะ เราได้ถ่ายทอดเรื่องราวให้ได้อ่านไว้เป็นประสบการณ์อาจเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยเพราะครั้งนึงที่เรารู้สึกท้อหมดกำลังเราก็ได้เข้ามาอ่านในพันธ์ทิพทำให้เราได้มีกำลังสู้ต่อเราจึงได้เขียนเรื่องราวของเราเพื่อเเชร์ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นของครอบครัวเรา ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคนได้อ่านอาจยาวไปหน่อยนะคะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้สำหรับคนที่สูญเสียพ่อหรือแม่ไปนะคะ.
ถ่ายทอดประสบการณ์เมื่อแม่ป่วยเป็นมะเร็ง