ถ้าความเห็นต่างเรื่องประชาธิปไตย เป็นตัวถ่วงการสร้างความปรองดองในชาติ คนไทยจะต้องกลับไปเรียนประชาธิปไตยกันใหม่ เริ่มตั้งแต่หลักการสำคัญ 4 ประการ คือหลักความยินยอมของประชาชนหรือการเลือกตั้ง หลักการรับประกันสิทธิเสรีภาพประชาชน หลักนิติธรรมคือการปกครองที่ยึดกฎหมายเป็นหลัก และหลักตรวจสอบถ่วงดุลอำนาจ
ถ้าทุกฝ่ายยอมรับว่าหลักการทั้งสี่เป็นองค์ประกอบสำคัญของประชา- ธิปไตยจะมีเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ หรือขาดอย่างหนึ่งอย่างใดก็ไม่ได้ ก็จะทำให้เข้าใจได้ว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน อะไรคือประชาธิปไตยแท้? อะไรไม่แท้? การโวยวายกล่าวหาว่าถูกองค์กรต่างๆ “ใช้กฎหมาย” เพื่อไล่ล่าหรือห้ำหั่นตนเป็นคำพูดที่ขัดหลักนิติธรรมหรือไม่?
การไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมรับอำนาจองค์กรตรวจสอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช., กกต. และผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวหาว่าสมคบคิดล้มการเลือกตั้งหรือมุ่งโค่นล้มรัฐบาล และขู่จะฟ้องดะทั้งทางแพ่งทางอาญา ฟ้องประจานสหประชาชาติและนานาประเทศทั่วโลก แบบนี้เป็นหลักการนิติธรรม และหลักตรวจสอบถ่วงดุลหรือไม่?
ถ้ายอมรับการเลือกตั้งอย่างเดียว แต่ไม่ยอมรับหลักนิติธรรม ไม่รับหลัก การตรวจสอบและถ่วงดุลระหว่างองค์กรต่างๆ น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าจะเปิดช่องให้มีการทุจริตโกงกินอย่างเสรี เพราะไม่มีใครเอาเรื่อง ไม่มีใครขัดขวาง ประชาธิปไตยก็จะกลายเป็น “โจราธิปไตย” (kleptocracy) คือระบอบโจรครองเมือง หรือทรราชในที่สุด.
ตัดตแนจากไทยรัฐ
ถ้ายึดถือแค่การเลือกตั้งคือประชาธิปไตย แล้วไม่สนใจองค์ประกอบ มันจะกลายเป็นเผด็จการรัฐสภา
ถ้าทุกฝ่ายยอมรับว่าหลักการทั้งสี่เป็นองค์ประกอบสำคัญของประชา- ธิปไตยจะมีเพียงอย่างหนึ่งอย่างใดไม่ได้ หรือขาดอย่างหนึ่งอย่างใดก็ไม่ได้ ก็จะทำให้เข้าใจได้ว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน อะไรคือประชาธิปไตยแท้? อะไรไม่แท้? การโวยวายกล่าวหาว่าถูกองค์กรต่างๆ “ใช้กฎหมาย” เพื่อไล่ล่าหรือห้ำหั่นตนเป็นคำพูดที่ขัดหลักนิติธรรมหรือไม่?
การไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมรับอำนาจองค์กรตรวจสอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช., กกต. และผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวหาว่าสมคบคิดล้มการเลือกตั้งหรือมุ่งโค่นล้มรัฐบาล และขู่จะฟ้องดะทั้งทางแพ่งทางอาญา ฟ้องประจานสหประชาชาติและนานาประเทศทั่วโลก แบบนี้เป็นหลักการนิติธรรม และหลักตรวจสอบถ่วงดุลหรือไม่?
ถ้ายอมรับการเลือกตั้งอย่างเดียว แต่ไม่ยอมรับหลักนิติธรรม ไม่รับหลัก การตรวจสอบและถ่วงดุลระหว่างองค์กรต่างๆ น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าจะเปิดช่องให้มีการทุจริตโกงกินอย่างเสรี เพราะไม่มีใครเอาเรื่อง ไม่มีใครขัดขวาง ประชาธิปไตยก็จะกลายเป็น “โจราธิปไตย” (kleptocracy) คือระบอบโจรครองเมือง หรือทรราชในที่สุด.
ตัดตแนจากไทยรัฐ