มหาโชดกโกหกเรื่องหลวงพ่อวัดปากน้ำ - [18] "นี้อย่างนี้"

ก่อนจะถึงประเด็นข้อความในภาพถ่าย   ผมขอเขียนเรื่อง "นี้อย่างนี้" ก่อน

เพราะว่าสำคัญและเกี่ยวข้องกัน   

และยังแสดงให้เห็นถึงอัจฉริยภาพของหลวงพ่อวัดปากน้ำด้วย

ขอยกผลของการเจริญสติปัฏฐาน ดังนี้ :


ผลแห่งการเจริญสติปัฏฐาน
   [151] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ผู้ใดผู้หนึ่ง พึงเจริญสติปัฏฐาน 4 นี้ อย่างนี้ ตลอด 7 ปี เขาพึงหวังผล 2 ประการ อย่างใดอย่างหนึ่ง คือ พระอรหัตตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีขันธบัญจกเหลืออยู่ เป็นพระอนาคามี

ข้อความว่า "นี้ อย่างนี้" อยู่คู่กับสติปัฏฐาน 4 ตลอด

คือ เป็นข้อความที่ว่า "สติปัฏฐาน 4 นี้ อย่างนี้"

ตรงข้อความ "นี้ อย่างนี้" แสดงให้เข้าใจอย่างชัดเจนว่า สติปัฏฐาน 4 ที่พระพุทธองค์ทรงสอน   และเขียนอยู่ในพระไตรปิฎกนั้น   คนในปัจจุบันไม่มีทางรู้ว่าเป็นอย่างไรแน่ๆ เพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นั้น

ขอยกตัวอย่างเชิงเปรียบเทียบอย่างนี้


สมมุติว่า มี 2 คนเป็นเพื่อนกัน เดินไปด้วยกัน  คนหนึ่งชี้ให้เพื่อนดูรถ แล้วพูดว่า "รถคนนี้ สวยจัง"

จากคำว่า "รถคันนี้ สวยจัง"   คนที่จะเข้าใจจริงๆ ว่า รถคันดังกล่าวนั้น สวยอย่างไร ก็มีแค่ 2 คนในเหตุการณ์เท่านั้น  

คนที่ได้รับฟังเรื่องต่อมาอีกที   จะไม่รู้จริงๆ ว่ารถคนนั้นสวยอย่างไร

หมายถึง คำว่ารถนั้นรู้จัก คำว่ารถสวยนั้นก็รู้จัก   แต่รถสวยที่ว่าในเรื่องนั้น จะไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร


ดังนั้น สติปัฏฐาน 4 อย่างที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั้น   จึงไม่น่าจะตรงกับสติปัฏฐาน 4 ในพระสูตร

ถึงได้ไม่มีใครบรรลุมรรคผล ภายใน 7 ปี 7 เดือน 7 วันอีกเลย  

ขอบอกว่า ไม่เกี่ยวกับพระพม่า   

เพราะที่พระพม่าสอนอยู่นั้น   ไม่ใช่สติปัฏฐาน 4   และไม่ใช่วิปัสสนา
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่