บทความเรื่องเล่าสั้นๆเกี่ยวกับแม่ลูกคู่หนึ่งครับ
ในเมืองเล็กๆ เมืองหนึ่ง
มีมารดาผู้ซึ่งรักและห่วงใยบุตรชายเล็กๆ ของเธอมาก
จนไม่อยากให้เขาออกไปไหนไกลเกินสายตา
"ตั้งแต่เขาเริ่มคลาน...ออกเดิน และวิ่งได้ เท้าน้อยๆ ที่ซุกซนก็พาเขาออกไปเที่ยวเล่นตามที่ต่างๆ ให้ฉันต้องคอยเป็นห่วงอยู่เสมอๆ"
มารดาผู้กังวลใจพยายามคิดหาวิธีให้บุตรชายอยู่ติดบ้าน
"สิ่งแรกที่ฉันอยากจะทำก็คือ จับเท้าเล็กๆ จอมซุกซนนั่นแหละขังเอาไว้"
วันรุ่งขึ้น ผู้เป็นมารดานำแผ่นหนังผืนใหญ่ที่ทั้งหนาและหนักมาห่อเท้าบุตรชาย พร้อมกับบอกว่า
"ตอนนี้เป็นฤดูหนาว แผ่นหนังนี้จะช่วยไม่ให้เท้าเล็กๆ ของลูกหนาวเย็น
และลูกก็จะไม่เป็นหวัดออกไปเล่นข้างนอกก็ได้ถ้าลูกต้องการ
แต่ห้ามถอดของสิ่งนี้ออกจากเท้าอย่างเด็ดขาด"
เด็กชายเล็กๆ ดีใจมากที่ได้ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกกับเพื่อนๆ ทว่า...
ไม่นานเขาเดินกลับบ้านโดยลำพัง
"แผ่นหนังช่วยให้เท้าของลูกอบอุ่นดี เพียงแต่มันใหญ่จนเดินไม่ถนัด
ลูกจึงกลับมาอยู่ในบ้านก่อนพอพ้นฤดูหนาวแล้ว ค่อยออกไปวิ่งเล่นเท้าเปล่ากับเพื่อนๆ ก็ได้"
เด็กชายกล่าวกับมารดา
เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไป เด็กชายเตรียมจะออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านกับเพื่อนๆ
แต่ทว่ามารดาของเขากลับนำผ้าผืนใหม่ออกมาพันเท้าของเขาเอาไว้ และกล่าวว่า
"หนามและหินมีคมจะบาดเท้าลูกได้ แม่ใช้ผ้าขาวเนื้อละเอียดที่สุดพันเท้าของเจ้าไว้
เวลาออกไปวิ่งเล่น ลูกต้องคอยระวังอย่าทำให้ผ้าผืนดีที่สุดของแม่เสียหายเป็นอันขาด"
เด็กชายมองดูเท้าที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขาวผืนสวนของมารดา และตัดสินใจไม่ออกไปนอกบ้าน
เขาเดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่าง และแกว่งเท้าทั้งสองข้างไปมาขณะมองเพื่อนๆ วิ่งไล่จับกัน
ฤดูร้อนผ่านไป สายฝนเริ่มโปรยปราย
พวกเด็กๆ ชวนกันออกไปวิ่งเล่นในทุ่งหญ้าหลังฝนหยุด
และเช่นเคย มารดาของเด็กชายนำแผ่นยางหนาหนักที่เคี่ยวจากยางไม้ออกมาห่อเท้าของเขา
และกล่าวว่า
"แผ่นยางนี้จะช่วยไม่ให้เท้าของลูกเปียก เมื่อออกไปวิ่งเล่นข้างนอก"
แต่แผ่นยางทั้งหนาและหนักจนเด็กชายแทบจะยกเท้าไม่ได้
...............................
ในที่สุดเขานั่งลง ถอดสิ่งที่หุ้มห่อเท้าทั้งสองข้างของเขาออก
และเดินเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรเลย
หลายวันผ่านไปโดยที่เด็กชายมิได้ร้องขอหรือแสดงอาการว่าอยากออกไปเล่นนอกบ้านอีก
นานๆ ครั้งเขามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างและถอนใจใหญ่
จากที่เคยร่าเริงแจ่มใส เขากลายเป็นเด็กเงียบขรึม และไม่ยิ้มกับใคร
.............................
"นี่ฉันทำอะไรลงไป" ผู้เป็นมารดาเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
"ความรัก ความห่วงใยที่มากเกินไปทำให้เขาไม่มีความสุข
ฉันต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิม"
วันต่อมา เมื่อเด็กชายตื่นขึ้นในตอนเช้า
เขาพบว่ามีของบางอย่างที่รูปทรงคุ้นตา
วางรอเขาอยู่หน้าประตูบ้าน วัตถุที่ทำขึ้นจากหนัง ผ้า และยางไม้....
สามสิ่งซึ่งเคยขวางกั้นไม่ให้เด็กชายออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน
บัดนี้กลับมาอยู่รวมกันอย่างพอเหมาะ ขนาดพอดีเท้า ดูนุ่มสบาย
และแข็งแรงปราดเปรียว คล้ายกับจะชวนให้ออกท่องเที่ยวไปอยู่ในที
"ความรัก ความห่วงใยของแม่จะไม่ขวางกั้นลูกไว้ให้อยู่แต่ในบ้านอีก
ออกไปวิ่งเล่น และพาเอาความห่วงใยของแม่ไปกับลูกด้วย"
ผู้เป็นมารดากล่าว ขณะใช้มือรองฝ่าเท้าน้อยๆ ของบุตรชายเอาไว้
ก่อนจะสวมสิ่งที่เธอทำขึ้นด้วยความรัก ความห่วงใย...ให้กับเขา
และนี่คือกำเนิดของรองเท้าที่ถูกเล่าต่อๆ กันมา จากข้างซ้ายไปข้างขวา...
........มาจนถึงทุกวันนี้ .......
ราตรีสวัสดิ์พี่น้องชาวไทย
CR : รักษิตา. "เรื่องเล่าประจำสวน"
ตามนั้นย์...ครับ
[>รักยามดึก<]...รองเท้ากับเด็กน้อย
มีมารดาผู้ซึ่งรักและห่วงใยบุตรชายเล็กๆ ของเธอมาก
จนไม่อยากให้เขาออกไปไหนไกลเกินสายตา
"ตั้งแต่เขาเริ่มคลาน...ออกเดิน และวิ่งได้ เท้าน้อยๆ ที่ซุกซนก็พาเขาออกไปเที่ยวเล่นตามที่ต่างๆ ให้ฉันต้องคอยเป็นห่วงอยู่เสมอๆ"
มารดาผู้กังวลใจพยายามคิดหาวิธีให้บุตรชายอยู่ติดบ้าน
"สิ่งแรกที่ฉันอยากจะทำก็คือ จับเท้าเล็กๆ จอมซุกซนนั่นแหละขังเอาไว้"
วันรุ่งขึ้น ผู้เป็นมารดานำแผ่นหนังผืนใหญ่ที่ทั้งหนาและหนักมาห่อเท้าบุตรชาย พร้อมกับบอกว่า
"ตอนนี้เป็นฤดูหนาว แผ่นหนังนี้จะช่วยไม่ให้เท้าเล็กๆ ของลูกหนาวเย็น
และลูกก็จะไม่เป็นหวัดออกไปเล่นข้างนอกก็ได้ถ้าลูกต้องการ
แต่ห้ามถอดของสิ่งนี้ออกจากเท้าอย่างเด็ดขาด"
เด็กชายเล็กๆ ดีใจมากที่ได้ออกไปวิ่งเล่นข้างนอกกับเพื่อนๆ ทว่า...
ไม่นานเขาเดินกลับบ้านโดยลำพัง
"แผ่นหนังช่วยให้เท้าของลูกอบอุ่นดี เพียงแต่มันใหญ่จนเดินไม่ถนัด
ลูกจึงกลับมาอยู่ในบ้านก่อนพอพ้นฤดูหนาวแล้ว ค่อยออกไปวิ่งเล่นเท้าเปล่ากับเพื่อนๆ ก็ได้"
เด็กชายกล่าวกับมารดา
เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไป เด็กชายเตรียมจะออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านกับเพื่อนๆ
แต่ทว่ามารดาของเขากลับนำผ้าผืนใหม่ออกมาพันเท้าของเขาเอาไว้ และกล่าวว่า
"หนามและหินมีคมจะบาดเท้าลูกได้ แม่ใช้ผ้าขาวเนื้อละเอียดที่สุดพันเท้าของเจ้าไว้
เวลาออกไปวิ่งเล่น ลูกต้องคอยระวังอย่าทำให้ผ้าผืนดีที่สุดของแม่เสียหายเป็นอันขาด"
เด็กชายมองดูเท้าที่ห่อหุ้มด้วยผ้าขาวผืนสวนของมารดา และตัดสินใจไม่ออกไปนอกบ้าน
เขาเดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่าง และแกว่งเท้าทั้งสองข้างไปมาขณะมองเพื่อนๆ วิ่งไล่จับกัน
ฤดูร้อนผ่านไป สายฝนเริ่มโปรยปราย
พวกเด็กๆ ชวนกันออกไปวิ่งเล่นในทุ่งหญ้าหลังฝนหยุด
และเช่นเคย มารดาของเด็กชายนำแผ่นยางหนาหนักที่เคี่ยวจากยางไม้ออกมาห่อเท้าของเขา
และกล่าวว่า
"แผ่นยางนี้จะช่วยไม่ให้เท้าของลูกเปียก เมื่อออกไปวิ่งเล่นข้างนอก"
แต่แผ่นยางทั้งหนาและหนักจนเด็กชายแทบจะยกเท้าไม่ได้
...............................
ในที่สุดเขานั่งลง ถอดสิ่งที่หุ้มห่อเท้าทั้งสองข้างของเขาออก
และเดินเข้าห้องไปโดยไม่พูดอะไรเลย
หลายวันผ่านไปโดยที่เด็กชายมิได้ร้องขอหรือแสดงอาการว่าอยากออกไปเล่นนอกบ้านอีก
นานๆ ครั้งเขามองเหม่อออกไปนอกหน้าต่างและถอนใจใหญ่
จากที่เคยร่าเริงแจ่มใส เขากลายเป็นเด็กเงียบขรึม และไม่ยิ้มกับใคร
.............................
"นี่ฉันทำอะไรลงไป" ผู้เป็นมารดาเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมาก
"ความรัก ความห่วงใยที่มากเกินไปทำให้เขาไม่มีความสุข
ฉันต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ลูกกลับมาเป็นเหมือนเดิม"
วันต่อมา เมื่อเด็กชายตื่นขึ้นในตอนเช้า
เขาพบว่ามีของบางอย่างที่รูปทรงคุ้นตา
วางรอเขาอยู่หน้าประตูบ้าน วัตถุที่ทำขึ้นจากหนัง ผ้า และยางไม้....
สามสิ่งซึ่งเคยขวางกั้นไม่ให้เด็กชายออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน
บัดนี้กลับมาอยู่รวมกันอย่างพอเหมาะ ขนาดพอดีเท้า ดูนุ่มสบาย
และแข็งแรงปราดเปรียว คล้ายกับจะชวนให้ออกท่องเที่ยวไปอยู่ในที
"ความรัก ความห่วงใยของแม่จะไม่ขวางกั้นลูกไว้ให้อยู่แต่ในบ้านอีก
ออกไปวิ่งเล่น และพาเอาความห่วงใยของแม่ไปกับลูกด้วย"
ผู้เป็นมารดากล่าว ขณะใช้มือรองฝ่าเท้าน้อยๆ ของบุตรชายเอาไว้
ก่อนจะสวมสิ่งที่เธอทำขึ้นด้วยความรัก ความห่วงใย...ให้กับเขา
และนี่คือกำเนิดของรองเท้าที่ถูกเล่าต่อๆ กันมา จากข้างซ้ายไปข้างขวา...
........มาจนถึงทุกวันนี้ .......
ราตรีสวัสดิ์พี่น้องชาวไทย
CR : รักษิตา. "เรื่องเล่าประจำสวน"