16 มี.ค.57 แฉ..บินหายก่อสงคราม และเปลี่ยนตัวนกแสก เป็นคากคกตู่ สู่ล๊อคหวย
ตามที่เคยเล่าว่าเครื่องบินเที่ยว MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หายไปนานกว่า 9 วัน โดยมีประเทศที่สมคบคิดกันมากกว่า 2 ประเทศนั้น ให้ดูท่าทีการแสดงออกของมาเลย์ง่ายๆ คือ แต่แรกปากอมสากเงียบ ต่อมาดำน้ำบุ๋งๆ อเมริกา ก็มาสร้างความสับสนให้ชาวโลกต่อไปอีก โดยให้ข่าวว่าเครื่องถูกบังคับไปลงจอดในบริเวณฐานที่มั่นของกลุ่มตอลิบาน บริเวณชายแดนภาคใต้ของอัฟกานิสถาน และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน..เข้ารกเข้าพงไปโน่น..
ถามอินเดียหรือยังว่าเขาให้บินข้าม และเยี่ยวรดหัวประเทศเขา ที่มีหัวรบนิวเคลียร์ 20 ลูก ไปดื้อๆ ได้ไหม หรือให้ข่าวว่ากลุ่มโจรอุยกูร์ ที่จะแบ่งแยกซินเจียงเป็นรัฐอิสระ จากจีนที่มาอาศัยที่มาเลย์จำนวนมากเป็นผู้ทำการนี้..เฮ้อ..กลุ่มนี้มีศักยภาพทำได้ ก็แค่วางระเบิดจตุรัสเทียนอันเหมิน และไล่แทงคนจีนที่สถานีรถไฟฟ้าแค่นั้นแหละ
คนในวงในก็รู้กันทั้งนั้นว่า ก่อนเครื่องบินจะสัญญาณหายไปสู่น่านฟ้าของเวียดนาม ผู้ควบคุมเครื่องที่อาจเป็นนักบิน ลูกเรือ หรือหน่วยพิเศษสหรัฐ ได้พูดคำปริศนาว่า “ออลไรต์ กูดไนท์” กับหอบังคับการภาคพื้นดิน แล้วก็ปิดเครื่องบอกตำแหน่งไปทันที
ต่อมาก็ไขปริศนาคำนี้ เมื่อเครื่องบินลำนั้น ใช้เทคนิคภูมิประเทศเป็นที่กำบังเพื่อหลบเรดาร์ ด้วยการบินพุ่งขึ้นสูงไปสูงโด่งที่ 45,000 ฟุต แล้วลดเพดานบินลงมาทันทีอย่างรวดเร็วที่ 5,000 ฟุตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้โดยสารหมดสติน๊อคหลับไป การต่อต้านการควบคุมเครื่องบินจากผู้โดยสารจึงไม่เกิดขึ้นเลย คือถูกบังคับให้หลับน็อคไปหลายชั่วโมงนั่นเอง
สอดคล้องกับคำให้การของชาวบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว จำนวนมากที่ว่า เห็นไฟสว่างและเสียงดังสนั่นจากการอัดอากาศ ช่วงที่เครื่องบินลดต่ำ พร้อมมีเครื่องบินสีดำคล้ายจานบินๆ ประกบมา ซึ่งก็คือ เครื่องเสตลล์ ล่องหนเราดห์ของสหรัฐนั่นเอง ช่วงนั้นการข่าวจากเรด้าห์ของกองทัพสีฟ้าของไทยที่ภาคใต้ ก็สามารถจับสัญญาณได้ว่ามีเครื่องบินลำหนึ่ง เลี้ยววนย้อนกลับเส้นทางเดิม บินเฉียดด้านเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ และฐานทัพบัตเตอร์เวิร์ธ ของมาเลย์ ก่อนที่มุ่งหน้าไปทางช่องแคบมะละกา และออกทะเลอันดามันทิศตะวันตกประเทศไทยไป
นายกฯ ออสเตรเลีย ก็ปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเครื่องบินลำที่หายไปอยู่ใกล้ประเทศเขา แถมการข่าวจากออสเตรเลีย ระบุตรงกันว่าเครื่องบินดังกล่าว มีเชื้อเพลิงที่สามารถบินต่อได้อยู่ราว 7 ชั่วโมง มีการติดต่อครั้งสุดท้ายของเครื่องบินกับดาวเทียม มุ่งลงใต้ใกล้กับมหาสมุทรอินเดียใต้
ส่วนอินเดีย ก็โดนมาเลย์แกล้งต้ม โดยแกล้งค้นหาทั่วทะเลอันดามัน และอ่าวเบงกอลมุ่งลงใต้ แต่การข่าวอินเดียก็ตรงกันอีกว่า เครื่องบินๆ มาทางพื้นที่เปิดทางทะเล เพราะยากมากที่จะถูกเรดาร์ติดตาม เช่น ไปทางมัลดีฟส์ ซึ่งเขาก็บอกเป็นนัยๆ ชี้ว่าไปทางเกาะแห่งหนึ่งของสหรัฐที่อยู่ทางตอนไต้ของมัลดีฟส์นั่นแหละ
เมื่ออเมริกาและมาเลย์บอกว่ามันบินไปทางขวาของแผนที่ ความจริงมันคือไปทางซ้าย และเขาก็ยอมรับในเวลาต่อมา เมื่อเขาหลอกว่าบินขึ้นไปด้านบนคาซัคสถาน หรืออัฟกานิสถาน มันก็คือลงล่างในมหาสมุทรอินเดียนั่นเอง นี่มันคือพล๊อตเรื่องสไตล์อเมริกา เครื่องไม่ไปไหนหรอกลงจอดที่เกาะดิเอโก้ การเซีย ฐานทัพลัพของอเมริกานั่นแหละ !!
แต่ปัญหา คือ สหรัฐจะจบบทหนังจัดฉากเรื่องนี้อย่างไร ให้เนียน และไม่ถูกประณามจากชาวโลกได้เท่านั้น ซึ่งทำได้ 2 แนวทาง คือ
1. เมื่อได้ของที่ต้องการในเครื่องบินนั้นแล้ว ก็ใช้นักบินของตนเองใส่ชุดประดาน้ำ ควบคุมเครื่องบิน พร้อมผู้โดยสาร และลูกเรือที่ยังหมดสติ บินขึ้น จากเกาะดิเอโก้ การเซีย แห่งนั้น แล้วก็บินต่อต่ำๆ อีกประมาณ 2 ชั่งโมง เพื่อให้น้ำมันหมดเกลี้ยง จมเครื่องลงไต้มหาสมุทรลึก โดยที่ไม่มีคราบน้ำมันที่กระจายตัว หรือชิ้นส่วนเครื่องบินให้เห็น
2. อเมริกาก็ประกาศข่าวไปทั่วโลก ว่าเขาได้ส่งหน่วยซีลปฏิบัติการพิเศษ เข้าไปชิงตัวประกัน มาจากโจรก่อการร้ายอาหรับไม่ทราบสัญชาติ และสังหารจนหมดสิ้น พร้อมได้ช่วยเหลือตัวประกันส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด มาอยู่ในเรือพิฆาตของเขาเรียบร้อยแล้ว แต่เครื่องบินทั้งลำได้ถูกผู้ก่อการร้ายทำลาย จมไต้มหาสมุทรไปแล้ว..อีกประมาณไม่เกิน 7 วันรู้กัน
การข่าวจากนักการเมืองอาวุโส ของอเมริกา ได้รายงานว่า โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทีมงานมีแผนพยายามจะจุดฉนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 ในไม่ช้านี้ โดยสร้างความตึงเครียดระหว่างอเมริกา กับรัสเซีย กรณียูเครน เริ่มจากการไม่ยอมรับ การลงประชามติแยกตนเองของไครเมีย จากยูเครน มันคือ “แผนการครั้งใหญ่” ของสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นเพื่อปูทางสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม ที่อาจจะมีการเปิดฉากสงครามนิวเคลียร์ เกิดขึ้นในไม่ช้า
ลองไปดูสถานการณ์ในคาบสมุทรไครเมีย ตอนนี้ที่ตึงเครียดสุดๆ ดูก็ได้ ที่ประชาชนออกไปลงประชามติ ว่าต้องการกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย อีกครั้งหรือไม่ หลังมีสถานะภาพเป็นเขตปกครองตัวเองของประเทศยูเครนมานานถึง 60 ปีแล้ว ทหารรัสเซีย ทั้งฐานทัพเรือ ฐานทัพอากาศ รวมถึงฐานยิงขีปนาวุธ ยึดไว้หมดแล้ว และยังเปิดการซ้อมรบใหญ่ใกล้พรมแดนยูเครนอีก ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรนาโต้ ก็เคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยต่างๆ ไปประจำการไว้ใกล้พรมแดนยูเครนเช่นกัน ส่วนยูเครนเองก็สั่งระดมพลครั้งใหญ่เพื่อปกป้องประเทศเต็มที่
ให้จับตาว่าวันใดที่สหรัฐฯ ประกาศโจมตีรัสเซีย ด้วยการแสนยานุภาพนิวเคลียร์ วันนั้นแหละคือสงครามโลกครั้งที่ 3 จะอุบัติขึ้น แต่สงครามโลกครั้งนี้ จะไม่ใช่สงครามของสหภาพยุโรป หรือสงครามของนาโต้เท่านั้น แต่จะเป็นสงครามที่แสดงแสนยานุภาพของนิวเคลียร์โลก และมันจะขยายครอบคลุมทั่วทุกมุมโลกด้วย
ในขณะทั่วโลก เขาจะก่อสงครามโลกกันแล้ว และเครื่องบินโดยสารหายไปลำเดียว ทำให้ทุกประเทศเขาตกใจไปทั่วโลก แต่ปรากฏว่าในประเทศเราข้าวหายเป็นล้านๆ ตัน แอบไซฟ่อนเงินไปฮ่องกงอีก 6 หมื่นล้าน รัฐอั้งยี่แดง กลับไม่สนใจยอมรับผิด แถมแกนนำเลวแล้วรวย ยังมัวแต่แย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างหนัก ดังนี้
ตัดเฉพราะเกี่ยวกับเครื่องบินมา คิดยังไงกันบ้างครับ
เสธ. น้ำเงิน แฉ อเมริกาปล้น MH370 กลางอากาศ
ตามที่เคยเล่าว่าเครื่องบินเที่ยว MH370 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ หายไปนานกว่า 9 วัน โดยมีประเทศที่สมคบคิดกันมากกว่า 2 ประเทศนั้น ให้ดูท่าทีการแสดงออกของมาเลย์ง่ายๆ คือ แต่แรกปากอมสากเงียบ ต่อมาดำน้ำบุ๋งๆ อเมริกา ก็มาสร้างความสับสนให้ชาวโลกต่อไปอีก โดยให้ข่าวว่าเครื่องถูกบังคับไปลงจอดในบริเวณฐานที่มั่นของกลุ่มตอลิบาน บริเวณชายแดนภาคใต้ของอัฟกานิสถาน และภาคตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน..เข้ารกเข้าพงไปโน่น..
ถามอินเดียหรือยังว่าเขาให้บินข้าม และเยี่ยวรดหัวประเทศเขา ที่มีหัวรบนิวเคลียร์ 20 ลูก ไปดื้อๆ ได้ไหม หรือให้ข่าวว่ากลุ่มโจรอุยกูร์ ที่จะแบ่งแยกซินเจียงเป็นรัฐอิสระ จากจีนที่มาอาศัยที่มาเลย์จำนวนมากเป็นผู้ทำการนี้..เฮ้อ..กลุ่มนี้มีศักยภาพทำได้ ก็แค่วางระเบิดจตุรัสเทียนอันเหมิน และไล่แทงคนจีนที่สถานีรถไฟฟ้าแค่นั้นแหละ
คนในวงในก็รู้กันทั้งนั้นว่า ก่อนเครื่องบินจะสัญญาณหายไปสู่น่านฟ้าของเวียดนาม ผู้ควบคุมเครื่องที่อาจเป็นนักบิน ลูกเรือ หรือหน่วยพิเศษสหรัฐ ได้พูดคำปริศนาว่า “ออลไรต์ กูดไนท์” กับหอบังคับการภาคพื้นดิน แล้วก็ปิดเครื่องบอกตำแหน่งไปทันที
ต่อมาก็ไขปริศนาคำนี้ เมื่อเครื่องบินลำนั้น ใช้เทคนิคภูมิประเทศเป็นที่กำบังเพื่อหลบเรดาร์ ด้วยการบินพุ่งขึ้นสูงไปสูงโด่งที่ 45,000 ฟุต แล้วลดเพดานบินลงมาทันทีอย่างรวดเร็วที่ 5,000 ฟุตอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้โดยสารหมดสติน๊อคหลับไป การต่อต้านการควบคุมเครื่องบินจากผู้โดยสารจึงไม่เกิดขึ้นเลย คือถูกบังคับให้หลับน็อคไปหลายชั่วโมงนั่นเอง
สอดคล้องกับคำให้การของชาวบ้านในช่วงเวลาดังกล่าว จำนวนมากที่ว่า เห็นไฟสว่างและเสียงดังสนั่นจากการอัดอากาศ ช่วงที่เครื่องบินลดต่ำ พร้อมมีเครื่องบินสีดำคล้ายจานบินๆ ประกบมา ซึ่งก็คือ เครื่องเสตลล์ ล่องหนเราดห์ของสหรัฐนั่นเอง ช่วงนั้นการข่าวจากเรด้าห์ของกองทัพสีฟ้าของไทยที่ภาคใต้ ก็สามารถจับสัญญาณได้ว่ามีเครื่องบินลำหนึ่ง เลี้ยววนย้อนกลับเส้นทางเดิม บินเฉียดด้านเหนือของกรุงกัวลาลัมเปอร์ และฐานทัพบัตเตอร์เวิร์ธ ของมาเลย์ ก่อนที่มุ่งหน้าไปทางช่องแคบมะละกา และออกทะเลอันดามันทิศตะวันตกประเทศไทยไป
นายกฯ ออสเตรเลีย ก็ปฏิเสธว่าไม่มีข้อมูลยืนยันว่าเครื่องบินลำที่หายไปอยู่ใกล้ประเทศเขา แถมการข่าวจากออสเตรเลีย ระบุตรงกันว่าเครื่องบินดังกล่าว มีเชื้อเพลิงที่สามารถบินต่อได้อยู่ราว 7 ชั่วโมง มีการติดต่อครั้งสุดท้ายของเครื่องบินกับดาวเทียม มุ่งลงใต้ใกล้กับมหาสมุทรอินเดียใต้
ส่วนอินเดีย ก็โดนมาเลย์แกล้งต้ม โดยแกล้งค้นหาทั่วทะเลอันดามัน และอ่าวเบงกอลมุ่งลงใต้ แต่การข่าวอินเดียก็ตรงกันอีกว่า เครื่องบินๆ มาทางพื้นที่เปิดทางทะเล เพราะยากมากที่จะถูกเรดาร์ติดตาม เช่น ไปทางมัลดีฟส์ ซึ่งเขาก็บอกเป็นนัยๆ ชี้ว่าไปทางเกาะแห่งหนึ่งของสหรัฐที่อยู่ทางตอนไต้ของมัลดีฟส์นั่นแหละ
เมื่ออเมริกาและมาเลย์บอกว่ามันบินไปทางขวาของแผนที่ ความจริงมันคือไปทางซ้าย และเขาก็ยอมรับในเวลาต่อมา เมื่อเขาหลอกว่าบินขึ้นไปด้านบนคาซัคสถาน หรืออัฟกานิสถาน มันก็คือลงล่างในมหาสมุทรอินเดียนั่นเอง นี่มันคือพล๊อตเรื่องสไตล์อเมริกา เครื่องไม่ไปไหนหรอกลงจอดที่เกาะดิเอโก้ การเซีย ฐานทัพลัพของอเมริกานั่นแหละ !!
แต่ปัญหา คือ สหรัฐจะจบบทหนังจัดฉากเรื่องนี้อย่างไร ให้เนียน และไม่ถูกประณามจากชาวโลกได้เท่านั้น ซึ่งทำได้ 2 แนวทาง คือ
1. เมื่อได้ของที่ต้องการในเครื่องบินนั้นแล้ว ก็ใช้นักบินของตนเองใส่ชุดประดาน้ำ ควบคุมเครื่องบิน พร้อมผู้โดยสาร และลูกเรือที่ยังหมดสติ บินขึ้น จากเกาะดิเอโก้ การเซีย แห่งนั้น แล้วก็บินต่อต่ำๆ อีกประมาณ 2 ชั่งโมง เพื่อให้น้ำมันหมดเกลี้ยง จมเครื่องลงไต้มหาสมุทรลึก โดยที่ไม่มีคราบน้ำมันที่กระจายตัว หรือชิ้นส่วนเครื่องบินให้เห็น
2. อเมริกาก็ประกาศข่าวไปทั่วโลก ว่าเขาได้ส่งหน่วยซีลปฏิบัติการพิเศษ เข้าไปชิงตัวประกัน มาจากโจรก่อการร้ายอาหรับไม่ทราบสัญชาติ และสังหารจนหมดสิ้น พร้อมได้ช่วยเหลือตัวประกันส่วนใหญ่เกือบทั้งหมด มาอยู่ในเรือพิฆาตของเขาเรียบร้อยแล้ว แต่เครื่องบินทั้งลำได้ถูกผู้ก่อการร้ายทำลาย จมไต้มหาสมุทรไปแล้ว..อีกประมาณไม่เกิน 7 วันรู้กัน
การข่าวจากนักการเมืองอาวุโส ของอเมริกา ได้รายงานว่า โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และทีมงานมีแผนพยายามจะจุดฉนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 ในไม่ช้านี้ โดยสร้างความตึงเครียดระหว่างอเมริกา กับรัสเซีย กรณียูเครน เริ่มจากการไม่ยอมรับ การลงประชามติแยกตนเองของไครเมีย จากยูเครน มันคือ “แผนการครั้งใหญ่” ของสหรัฐฯ ที่เริ่มต้นเพื่อปูทางสู่การเกิดสงครามโลกครั้งที่สาม ที่อาจจะมีการเปิดฉากสงครามนิวเคลียร์ เกิดขึ้นในไม่ช้า
ลองไปดูสถานการณ์ในคาบสมุทรไครเมีย ตอนนี้ที่ตึงเครียดสุดๆ ดูก็ได้ ที่ประชาชนออกไปลงประชามติ ว่าต้องการกลับไปอยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย อีกครั้งหรือไม่ หลังมีสถานะภาพเป็นเขตปกครองตัวเองของประเทศยูเครนมานานถึง 60 ปีแล้ว ทหารรัสเซีย ทั้งฐานทัพเรือ ฐานทัพอากาศ รวมถึงฐานยิงขีปนาวุธ ยึดไว้หมดแล้ว และยังเปิดการซ้อมรบใหญ่ใกล้พรมแดนยูเครนอีก ขณะที่สหรัฐและพันธมิตรนาโต้ ก็เคลื่อนย้ายอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยต่างๆ ไปประจำการไว้ใกล้พรมแดนยูเครนเช่นกัน ส่วนยูเครนเองก็สั่งระดมพลครั้งใหญ่เพื่อปกป้องประเทศเต็มที่
ให้จับตาว่าวันใดที่สหรัฐฯ ประกาศโจมตีรัสเซีย ด้วยการแสนยานุภาพนิวเคลียร์ วันนั้นแหละคือสงครามโลกครั้งที่ 3 จะอุบัติขึ้น แต่สงครามโลกครั้งนี้ จะไม่ใช่สงครามของสหภาพยุโรป หรือสงครามของนาโต้เท่านั้น แต่จะเป็นสงครามที่แสดงแสนยานุภาพของนิวเคลียร์โลก และมันจะขยายครอบคลุมทั่วทุกมุมโลกด้วย
ในขณะทั่วโลก เขาจะก่อสงครามโลกกันแล้ว และเครื่องบินโดยสารหายไปลำเดียว ทำให้ทุกประเทศเขาตกใจไปทั่วโลก แต่ปรากฏว่าในประเทศเราข้าวหายเป็นล้านๆ ตัน แอบไซฟ่อนเงินไปฮ่องกงอีก 6 หมื่นล้าน รัฐอั้งยี่แดง กลับไม่สนใจยอมรับผิด แถมแกนนำเลวแล้วรวย ยังมัวแต่แย่งชิงผลประโยชน์กันอย่างหนัก ดังนี้
ตัดเฉพราะเกี่ยวกับเครื่องบินมา คิดยังไงกันบ้างครับ