เราเคยวิเคราะห์แล้วว่าอ้อมแอ้มจะต้องถามค่ะ ถามว่า "ไมค์รักอ้อมแอ้มหรือไม่" และ เราเองก็คิดว่ามันจะต้องเป็นฉากหนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำ เพียงแต่เราเองก็ไม่รู้ว่าคนเขียนบท ผู้กำกับ คนตัดต่อจะทำมันออกมายังไง ฉากบอกรัก .... พูดถึงฉากแบบนี้ดูมาหลายเรื่องหลากรสล้านแปด ทั้งการเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานท่ามกลางฝูงชน กลางโต๊ะใต้แสงเทียนมีแหวนมีดอกไม้มีเพลงเพราะบรรเลงคลอ หรือ ฉากธรรมดาที่มีสารพัดคำหวานประดามีที่จะนึกได้ รักเท่าฟ้า เท่าภูเขา เท่ามหาสมุทร อะไรแบบนี้ มันก็ซึ้งก็น่ารัก กรี๊ดจุงเบย

แต่ไม่มีฉากไหนทำให้เรารู้สึก ... ใช้คำว่าอะไรดีล่ะ ลึกซึ้งได้เท่ากับฉากบอกรัก และ ขอแต่งงานในรถบ้าน มันเป็น once in a life time ของผู้หญิงที่จะได้มาเจออะไรแบบนี้น่ะนะ มันเป็นฟีลลิ่ง มันเป็นอารมณ์ เป็นอะไรที่เรากักกั้นไว้นานนแล้วมันก็เปิดเผยออกมา มันเป็น acting ที่ทรงพลังมากสำหรับเรานะ ทำให้รู้สึกลึกซึ้งไปกับคำสารภาพของไมค์ และ ความซาบซึ้งของอ้อมแอ้ม มันเป็นฉากที่มันควรค่าแก่การพรรณนามากเลย

หลังจากที่เที่ยวเล่นกันมาพอสมควร และ ค้างคืนด้วยกันในรถบ้าน หญิงสาวลุกขึ้นจากอ้อมกอดชายหนุ่มของเธอในเช้าวันหนึ่ง เธอนั่งมองหน้าเขาอยู่อย่างนั้น เธอเห็นสร้อยคอที่คล้องแหวนแต่งงานตกหน้าอกของเขา ตรงจุดนี้มันคือเวลาที่แอ้มเลือกจะให้ไมค์ clarify คำถามที่คาใจมาตลอด แม้จะชัดเจนว่าเรามีความรักต่อกัน แต่นัยยะที่แอ้มถามว่าคุณรักฉันจริง ๆ ใช่ไหม มันน่าจะเป็นทั้ง ... การถามที่กินความไปด้วยว่า ทีนี้คุณพร้อมจะอยู่กับฉันหรือยัง ฉันรออยู่ตรงหน้าคุณตรงนี้รอฟังที่คุณพูด แล้วเพลงก็ขึ้น ... ทำนองแบบนี้มามันบิ้วมาก แอบน้ำตาปริ่มนิดนึง

คาแรคเตอร์ของไมค์ เป็นคนที่ ... ไม่ค่อยแสดงความรู้สึก แล้วก็ไม่ค่อยพูดนะ ถึงพูดก็พูดไม่ค่อยเก่ง มักเลือกที่จะเงียบแล้วให้คนอื่นตีความหมายเอาเองเสมอ แต่ไมค์ก็รู้ว่าวันนี้มันมาถึงปลายทางละ และ ไมค์ก็พร้อม speak his mind out ชอบ acting ของทั้งไมค์และออมตรงนี้ เสียงไมค์ตอนนั้นมันสั่นนิด ๆ นะ ซึ่งมันไม่ใช่ความสั่นเพราะกลัวหรือไม่แน่ใจ มันเหมือนอารมณ์ตอนนี้ที่ท่วมท้น ว่าเรากำลังจะพูดเรื่องสำคัญ สำคัญที่สุดเรื่องนึงในชีวิตตั้งแต่เกิดมา ในแววตาในน้ำเสียงมันสื่อว่าตอนนี้ตั้งใจมาก ภาษากายที่สื่อ ... จับมือแอ้มไว้ตลอดเวลา เหมือนบอกว่าพยายามหน่อยนะ พยายามเข้าใจผมหน่อย ฟังหน่อยนะ มันอาจจะไม่ได้มีฉากหลังที่สวยงาม แต่สิ่งเหล่านี้มันเก็บอยู่ในใจผมมาเนิ่นนาน

เริ่มแรกมันก็ยังควบคุมได้เมื่อบอกว่าชอบทำอะไรกับแอ้ม ชอบมอง ชอบเห็นตอนโมโห ชอบเห็นตอนหัวเราะ แต่ไม่ชอบเห็นตอนร้องไห้ เสียงมันมาเริ่มสั่นเริ่มเครือตอนที่บอกว่า น้ำตาจะไหล ตอนคุณไม่เข้าใจผม เสียงมันสั่นเห็นได้ชัด ว่ามันเป็นความในใจที่อยากจะพูดมานานมาก แต่ได้พูดไม่ได้บอกจนเกือบต้องเสียกันและกันไป สารภาพว่าอยากมาก อยากที่สุดอยากได้ความเข้าใจจากแอ้ม ซึ่งแอ้มก็รับรู้ถึงอารมณ์ตรงนั้น ลูบมือไมค์ตลอด เหมือนกับบอกว่า ดีแล้ว ดีแล้วนะ รู้แล้วว่าพยายามมาก รู้ธรรมชาติว่าผู้ชายของเราไม่พูด ถ้าถ้อยคำมันหลั่งไหลออกมาได้ขนาดนี้ มันก็คือความจริงใจอารมณ์ความรู้สึกที่มันท่วมท้น

ถ้อยคำ ที่พูดมันธรรมดา มันไม่ใช่คำหวานที่บอกว่าจะรักชั่วฟ้าดินสลาย หรือ เท่าฟ้าเท่ามหาสมุทร แต่มันเป็นฟีลลิ่ง ฟีลลิ่งที่ผู้ชายคนนึงที่ทั้งนิ่งทั้งไม่พูด พยายามอย่างที่สุดให้ทุกสิ่งชัดเจนสำหรับคนที่ตัวเองรัก ซึ่งมันกินใจและกินความหมายมากกว่าถ้อยคำสละสลวยหรูหรานับเท่าพันทวี พอพูดจบขอแต่งงงาน แอ้มก็ให้รางวัลกับการ clarify ความจริงในครั้งนี้ด้วยการจูบทั้งน้ำตา มันเป็นซีนที่อารมณ์ล้นแล้วก็หวาบหวิวมาก เหมือนแอ้มบอกว่านี่แหละแค่สิ่งนี้ที่ชั้นต้องการ ... คำบอกรักจากเธอ สมเป็นห้วงเวลาพิเศษหนึ่งเดียวสำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง

ฉากนี้สำหรับเราเป็นฉากที่ชอบที่สุดในละครทั้งเรื่อง ทั้ง ๆ ที่ฉากหลังธรรมดา เมคอัพก็ธรรมดา ไม่ได้มีความพิเศษอะไร แต่ Acting ทรงพลังมาก ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ที่สุด