รากเน่า : อันเป็นผลดี หรือ ไม่ดี กับสังคมการเมืองไทย

กระทู้สนทนา
แม้ไม่ใช่ประเด็นร้อนแรงของการเมืองในเวลานี้ แต่อยากเสนอไว้ก่อนถึงเวลาที่จะได้เห็นการจบสิ้นบทบาทของ ประชาธิปัตย์ กับ การเมืองไทย

"จบแล้ว"  ไร้ราคา  ไม่เหลือความสำคัญใดที่จะให้ประชาชนได้กล่าวถึง จะเหลือก็แค่คำว่า "พรรคการเมืองเก่า" ที่ล้มคว่ำอย่างไม่เป็นท่า ภายใต้การนำของ นายอภิสิทธิ์ฯ  ผู้ซึ่งหลายคนคาดหมายว่าจะเป็นนักการเมืองอนาคตไกล  แต่เวลาพิสูจน์ว่าไม่ใช่แค่เพียง "มะม่วงจำบ่ม"  ที่นักการเมืองอาวุโสท่านหนึ่งเคยปรามาสไว้  กลับยังเป็นผลไม้ "เน่าใน" ที่ไร้คุณค่าและไม่มีประโยชน์ใดๆในทางการเมือง

ที่ผ่านมานั้น พรรคการเมืองนี้ไม่ใส่ใจที่จะพัฒนาพรรคเพราะหวังอำนาจการเมืองที่จะได้รับและแสวงหาได้จากอำนาจอื่น  ดังนั้นจึงไม่เคยหวังความไว้วางใจจากประชาชน  ประชาชนจึงถูกละเลยและไม่เห็นความสำคัญมาโดยตลอด  แม้จะมีสมาชิก และอดีตผู้อาวุโสในพรรค ท้วงติง นำเสนอเพื่อหวังจะเห็นการปรับปรุง  เปลี่ยนวิธีการคิดเพื่อเป็นจุดเรื่มซึ่งเป็นแนวทางเหมาะสมและถูกต้อง  แต่ก็ถูกผู้มีอำนาจในพรรคละเลยไม่เห็นความสำคัญแต่อย่างใด

บทบาทในเวทีรัฐสภา  กักขฬะ  ถ่อยเถื่อน ที่กระทำ  ไม่รู้สำนึก ประชาชนไทยเสียอีกที่กลับรู้สึกละอายต่อสิ่งที่สื่อออกสู่สาธารณะ   การเลือกวิธีการต่อสู้เพื่อล้มฝ่ายตรงข้าม  ทั้งการปฎิเสธการเลือกตั้ง  การอยู่เบื้องหลังการขัดขวางการเลือกตั้ง  การนำมวลชนเข้าสู่การเรียกร้องโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของผู้อื่น  ล้วนนำมาซึ่งความเสื่อมของพรรค  เป็นการนำพรรคมา "ปู้ยี่ปู้ยำ" อย่างไม่มีชิ้นดี

สมาชิกพรรคหลายคนมีพฤติกรรมที่สังคมไม่อาจจะยอมรับและทนได้  ทั้ง ฆ่าผู้อื่นในคดีอาญาทั่วไป  คดีสั่งฆ่าประชาชนในทางการเมือง และอื่นๆที่จะตามมาอีกมาก  ผู้ที่เคยมีบทบาท มีหลักการ  กลับละเลยหลักการสำคัญไปได้อย่างนึกไม่ถึง เพียงตอบสนองผู้ที่มีอิทธิพลเบื้องหลังพรรค  

เหล่านี้  ล้วนเสมือนน้ำกรดชนิดรุนแรงเทราด ตรงโคน หรือ รากฐานของพรรค ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก  ในที่สุด "รากของพรรค" ก็ถึงเวลา "เน่า" ชนิดลึกลงไปถึงปลายราก และคงไม่สามารถจะฟื้น  แตกใบใหม่ได้  หวังเพียงที่จะเหลือ "หน่อ" ใหม่ที่รอเวลาฟื้นตัว   หากยังมีวันนั้น

งานแรกที่จะเป็นข้อพิสูจน์ คือ การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.

.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่