Kantai Collection - จุดจบกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น

(คำนำ - ขออภัยที่ทิ้งช่วงยาว เนื่องจากจขกท.ติดธุระหนัก เลยไม่สามารถมาโพสได้ นอกจากนี้ ประวัติศาสตร์ช่วงนี้หารายละเอียดยากว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้เสียเวลาในการค้นหาข้อมูลมาก อาจจะมีข้อมูลตกหล่นหรือไม่สอดคล้องกับที่ท่านเคยอ่านเจอ ขออภัยอีกครั้งด้วย)


http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=medium&illust_id=41898015

7 ธันวาคม ค.ศ. 1941 ญี่ปุ่นบุกโจมตีเพิร์ลฮาเบอร์
10 ธันวาคม ค.ศ. 1941 กองเรือคิโดะ บุไทจมเรือ HMS Prince of Wales และ HMS Repulse นอกชายฝั่งมาลายา
19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1942 กองเรือคิโดะ บุไทปูพรมท่าเรือเมืองดาร์วินของออสเตรเลีย
18 เมษายน ค.ศ 1942 พลอากาศโทเจมส์ ดูลิตเติ้ลส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด 16 ลำปูพรมกรุงโตเกียว
4 พฤษภาคม ค.ศ. 1942 ยุทธนาวีทะเลคอรัล
4 มิถุนายน ค.ศ. 1942 ยุทธนาวีมิดเวย์
7 สิงหาคม ค.ศ. 1942 เริ่มศึกกัวดาคาแนล
9 มกราคม ค.ศ. 1943 จบศึกกัวดาคาแนล
พฤศจิกายน ค.ศ. 1943 นาวิกโยธินอเมริกันบุกหมู่เกาะมาร์แชล
มีนาคม ค.ศ. 1944 นายพลเรือเอกอิโซโรคุ ยามาโมโตะเสียชีวิต
12 มิถุนายน ค.ศ. 1944 ยุทธนาวีทะเลฟิลิปปินส์
23 ตุลาคม ค.ศ. 1944 ยุทธนาวีอ่าวเลย์เต

เพิร์ลฮาเบอร์, ทะเลคอรัล, มิดเวย์
http://pantip.com/topic/31691149
หมู่เกาะโซโลมอนและ Iron Bottom Sound
http://pantip.com/topic/31673992
ยุทธนาวีทะเลฟิลิปปินส์
http://pantip.com/topic/31696728
ยุทธนาวีอ่าวเลย์เต
http://pantip.com/topic/31715923

หลังจากความพ่ายแพ้ที่ยุทธนาวีอ่าวเลย์เต กองทัพเรือญี่ปุ่นซึ่งกระจัดกระจายไปทั่วน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกลายเป็นเป้านิ่งของฝูงบินและกองเรือดำน้ำสัมพันธมิตร เนื่องจากกองทัพเรือสัมพันธมิตรได้คุมน่านน้ำและน่านฟ้าของมหาสมุทรแปซิฟิกได้เกือบหมด เส้นทางสู่พม่าและดัชซ์อินดี้(อินโดนีเซียในปัจจุบัน)ถูกตัดขาด กองเรือดำน้ำอเมริกันดักจมเรือพาณิชย์ญี่ปุ่นได้เป็นจำนวนมาก จนเกาะญี่ปุ่นขาดวัตถุดิบและอาหารขั้นวิกฤต

(เผื่อทุกคนอยากรู้ว่าคุณแม่มามิยะ เรือเสบียงกองทัพเรือรอดไหม ขอบอกว่าไม่รอด โดน USS Sealion จมตั้งแต่ปี 1943 ...)

กองเรือกลางที่ยุทธนาวีอ่าวเลย์เตซึ่งหนีไปที่บรูไน ประกอบด้วย ยามาโตะ, นางาโตะ, คองโกว, ยาฮางิ, ฮามาคาเซะ, อิโซคาเซะ, ยูระคาเซะ, ยูกิคาเซะ, คิริและยูเมะ เตรียมที่จะแล่นกลับเกาะญี่ปุ่น แต่ถูกเรือดำน้ำอเมริกัน USS Sealion (แกอีกแล้ว!) ตรวจพบเข้า เลยโดนยิงตอปิโดใส่ไป 9 ลูก คองโกวซึ่งเป็นเรือลำที่สองในขบวนโดนจม(ไม่นะ!!!!)พร้อมกับเรือพิฆาตยูระคาเซะ


http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=medium&illust_id=37705310

เรือลาดตระเวนคุมาโนะที่โดนตอปิโดจนหัวเรือขาดไม่ได้ร่วมกองเรือกลางไปที่บรูไน แต่อยู่ซ่อมที่อ่าวมะนิลา และออกปฎิบัติการคุ้มกันกองเรือในแถบนั้น เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1944 ระหว่างที่คุมาโนะกำลังปฏิบัติการอยู่ เจอฝูงเรือดำน้ำอเมริกัน 5 ลำรุมกินโต๊ะจนหัวเรือขาด(อีกแล้ว)และห้องเครื่องยนต์น้ำท่วม หลังจากซ่อมได้ไม่ถึงเดือนก็เจอเครื่องบินอเมริกันทิ้งระเบิดใส่อีก 4 ลูกกับตอปิโดอีก 5 ลูกจนจมในที่สุด (นายพลเรือวิลเลี่ยม ฮัลซี่ แม่ทัพเรือบ้าดีเดือดจากยุทธนาวีอ่าวเลย์เตถูกถามว่าในบรรดาเรือญี่ปุ่นทั้งหมด ลำไหนน่าสงสารที่สุด ฮัลซี่ตอบว่าคุมาโนะ)


http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=medium&illust_id=40824033

โชวไคที่โดนยิงที่คลังเก็บตอปิโดไฟไหม้ลามหนัก เรือพิฆาตฟูจินามิต้องจมทิ้งหลังช่วยลูกเรือของโชวไคหมดแล้ว แต่อีก 2 วันถัดมาฟูจินามิก็โดนฝูงบินอเมริกันตามเก็บเรียบ โชวไคเลยได้ตำแหน่งพิเศษเป็นเรือลำใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ลูกเรือตายหมดทุกคน! (แถมจมในร่องทะเลลึกมากถึง 8,100 เมตรอีกด้วย เอาชนิดดำลงไปไม่ไหวเลยทีเดียว)

ทาคาโอะที่ถอนตัวก่อนไปถึงอ่าวเลย์เตและเมียวโคที่โดนยำใหญ่ถูกส่งไปซ่อมใหญ่ที่มาลายาแต่ไม่อยู่ในสภาพที่จะแล่นเรือได้เนื่องจากไม่มีวัตถุดิบสำหรับซ่อม ทาคาโอะเลยโดนถอดเสาเรือออกและจับเกยตื้นที่ชายหาดเพื่อใช้เป็นป้อมปืนต่อสู้อากาศยานแทน (แต่เมียวโคไม่โดนเพราะมีพอให้ซ่อมได้นิดหน่อย เลยรอดตัวไป) เรือพิฆาตยูชิโอะซึ่งลากเมียวโคมาสิงคโปร์ได้อยู่ช่วยป้องกันด้วย กองทัพเรืออังกฤษส่งเรือดำน้ำจิ๋วไปติดระเบิดที่ท้องเรือทาคาโอะแล้วจุดระเบิดจนเป็นรูเบ้อเริ่มขนาด 20x10 เมตร!! เลยใช้งานไม่ได้อีกจนจบสงคราม


https://pbs.twimg.com/media/BiSuJy4CIAALeXD.jpg:large


กองเรือใต้ที่รอดไปได้ก็เยินไม่แพ้กัน เรือลาดตระเวนนาจิซึ่งเสียหายหนักหลังชนกับโมงามิอยู่ซ่อมที่อ่าวมะนิลาเช่นดียวกับคุมาโนะ พอถึงคราวออกปฏิบัติการ ก็เจอฝูงบินอเมริกันโจมตี 3 ฝูงบิน นาจิโดนตอปิโด 9 ลูกและจรวดติดเครื่องบินยิงใส่เป็นจำนวนมากจนตัวเรือระเบิดและขาดเป็น 3 ท่อน (เหวอ!)

เรือพิฆาตชิรานุอิออกค้นหาเรือคินุและยูระนามิที่หายไปหลังเสร็จศึก แต่ช่วยได้แต่ลูกเรือฮายาชิโมะ อีก 2 วันถัดมาก็โดนฝูงบินจากกองเรือบรรทุกเครื่องบินรุมถล่ม จมไปอีกลำ

เรือลาดตระเวนอิซุสุซึ่งรอดจากยุทธนาวีแหลมเอ็นกาโนไปซ่อมที่โอกินาว่าได้และทำหน้าที่ลำเลียงทหารไปสู้ที่ฟิลิปปินส์ แต่โดนฝูงบินอเมริกันโจมตีอย่างหนักจนต้องไปซ่อมที่สิงคโปร์

เรือประจันบานฮิวงะกับอิเสะ ซึ่งโดนจับติดลานบิน แต่ไม่สามารถช่วยเรือบรรทุกเครื่องบินรุ่นน้องได้เลย หนีไปที่สิงคโปร์เพื่อคุ้มกันเรือบรรทุกน้ำมันไปญี่ปุ่น ซึ่งสามารถกลับไปได้ด้วยดี (กัปตันเรือสัมพันธมิตรเจ็บใจพอสมควรที่ปล่อยให้รอดไปได้ เพราะทำให้ญี่ปุ่นมีน้ำมันใช้ไปอีกระยะหนึ่ง)

วันสิ้นปี ค.ศ. 1944 เรือบรรทุกเครื่องบินริวโฮพร้อมเรือพิฆาตคุ้มกัน 5 ลำส่งคามิคาเซะโจมตีเกาะไต้หวัน หลังจากนั้นก็กลับท่าเรือคุเระ ฐานทัพเรือหลักจักรวรรดิญี่ปุ่น ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวเท่าไหร่ เพราะเป็นคามิคาเซะแบบพิเศษชื่อโอกะ ซึ่งปล่อยจากเครื่องบินทิ้งระเบิด เครื่องบินขับไล่อเมริกันเลยสามารถยิงเครื่องบินทิ้งระเบิดตกก่อนที่จะส่งคามิคาเซะเสียอีก (ไร้ประโยชน์สิ้นดี)

(ความจริง กองทัพบกยังคงปักหลักอยู่ที่เกาะอิโวจิม่า พม่าและหมู่เกาะเล็กๆที่โดนอเมริกันตัดเส้นทางหมดเกลี้ยง โดยสู้แบบยอมตายและฆ่าตัวตายในหน้าที่ไปเยอะมาก แต่กองทัพเรือไม่สามารถช่วยได้ เนื่องจากขาดน้ำมันอย่างหนัก แค่รวมเรือที่เหลือทั้งหมดกลับมาที่ญี่ปุ่นก็แทบแย่แล้ว)

ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1945 ทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ มีเพียงแค่อาชิการะ ฮางุโระและอิซุสุที่เยินเป็นพิเศษเท่านั้นที่ใช้งานได้ (ตอนหลังโดนเรือดำน้ำจมทิ้งหมดไม่มีเหลือ อิซุสุกลับมาอีกตอนช่วงต้นเดือนเมษายน ค.ศ. 1945 ก็ถูกฝูงเรือดำน้ำอเมริกันตรวจพบและรุมยิงตอปิโดใส่ USS Gabilan ยิงไป 5 โดนลูกเดียวแต่ทำให้น้ำทะลักเข้าตัวเรือจนสปีดตก USS Charr เลยซ้ำอีก 4 ลูก โดน 2 เข้าที่ห้องเครื่องยนต์จนนิ่งสนิท เลยยิงซ้ำอีก 2 ลูกจนหัวเรือขาดและจมลงในที่สุด อาชิการะที่คุ้มกันเรือพิฆาตที่จะใช้เป็นคามิคาเซะเรือ เจอเรือดำน้ำ USS Blueback, HMS Trenchant, HMS Stygian รุม จนในที่สุดก็โดนจมและเรือพิฆาตคามิคาเซะต้องเป็นเรือช่วยลูกเรืออาชิการะที่รอดซะงั้น ฮางุโระชะตากรรมคล้ายกับอาชิการะมากจนเกือบจะลอกแบบมากันเลย แค่ต่างเวลากับสถานที่เท่านั้น)

ส่วนเรือที่เหลือที่ผ่านด่านกองเรือดำน้ำอเมริกันมาได้ก็มารวมตัวกันที่ญี่ปุ่น


http://www.pixiv.net/member_illust.php?mode=medium&illust_id=42194916

-ปฏิบัติการเทนโงะ-

หลังอเมริกันยึดหมู่เกาะมาริอาน่าได้ ก็ส่งฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิดปูพรมเกาะญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง นายพลอากาศเคอร์ติส เลอเมย์ เจ้าของกลยุทธปูพรมเรียงหน้ากระดานอันเลื่องชื่อ บินจากยุโรปมาที่หมู่เกาะมาริอาน่า เพื่อนำเครื่องบินปูพรมใส่กรุงโตเกียวแบบไม่เลือกว่าจะเป็นโรงงานหรือบ้านคน หลังจากที่ทำลายเยอรมันจนแทบจะเป็นซากปรักหักพังมาแล้ว (เลอเมย์ยอมรับเลยว่า ถ้าหากอเมริกันแพ้ เขาจะต้องขึ้นศาลทหารเป็นอาชญากรสงครามแน่นอน) หลังเผาพลเรือนญี่ปุ่นไปเกือบ 260,000 คน (ตายเยอะกว่าที่ญี่ปุ่นโดนระเบิดปรมาณู 2 ลูกรวมกันเสียอีก ถ้าไม่รวมคนที่ตายภายหลังจากกัมมันตรังสีนะ) เลอเมย์ใช้วิธีโปรยใบปลิวบอกว่าจะปูพรมที่ไหนแทน ทำให้ชาวบ้านที่รอดแตกตื่นหนีไปชนบทจนโตเกียวแทบจะเป็นป่าช้าของจริง

สำหรับกองทัพบก หลังจากที่สั่งให้ทหารบกสู้ตาย ห้ามโดนจับเป็นเชลยจนตายหมู่ทั้งหมดที่อิโว จิม่า ตอนนี้กองเรืออเมริกันได้นำกองทัพบกและนาวิกโยธินแสนกว่าคนเตรียมขึ้นบกที่เกาะริวกิวหรือโอกินาว่าแล้ว ศึกโอกินาว่ากำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1945 โดยกองทัพบกญี่ปุ่นได้เตรียมขุดอุโมงค์ ป้อมปืนและเครื่องบินไว้รอพุ่งใส่กองเรืออเมริกันแล้ว ส่วนกองทัพเรือไม่มีน้ำมันพอจะทำอะไรได้อีก เรือจอดอยู่ที่ท่าเรือคุเระและโยโกซุกะ

กองทัพบกสั่งให้กองทัพเรือเตรียมเรือยามาโตะสำหรับภารกิจสุดท้าย ผู้บัญชาการกองเรือคุ้มกัน กัปตันอาซิชิ โออิและนายทหารชั้นสูงคนอื่นเห็นว่าศึกนี้ตายเปล่าเลยไม่อยากจะปฏิบัติตามสักเท่าไหร่ พอถามว่าส่งไปเพื่ออะไร แล้วได้คำตอบว่า "เพื่อประเพณีและศักด์ศรีของกองทัพเรือ" โออิโกรธจัดและด่ากลับจนได้เป็น Quote ในวิกิพีเดียดังนี้

"สงครามครั้งนี้คือความเป็นความตายของชาติ ทำไมเกียรติและศักด์ศรีของเรือธงถึงสำคัญกว่าห่ะ? ใครยังจะมาสนใจเรื่องพวกนี้ตอนนี้อีก? ไอ้พวกโง่!"

กองทัพบกสั่งกำชับให้เติมน้ำมันเรือยามาโตะให้พอแค่ไปถึงโอกินาว่าก็พอ ไม่ต้องกลับมา ให้มันจมอยู่แถวนั้นแหละ ถ้าโดนยิงจนจะจมก็ให้มันเกยตื้นอยู่ตรงชายหาดนั้นแหละ ยิงใส่กองเรืออเมริกันจนกว่าจะไม่มีกระสุนให้ยิง ไม่มีก้อนหินให้ขว้าง กองทัพเรือพยายามขัดคำสั่งโดยเติมน้ำมันที่เหลืออยู่ทั้งหมดให้ (แต่นักประวัติศาสตร์ประเมินว่ายังไงก็ไม่พอให้ยามาโตะกลับมาได้อยู่ดี)

เรือประจันบานประจำชาติยามาโตะพร้อมกองเรือคุ้มกัน 9 ลำแล่นสู่ภารกิจสุดท้ายประจันหน้ากับกองเรืออเมริกันที่มีเรือบรรทุกเครื่องบิน 11 ลำ เรือประจันบาน 6 ลำ เรือลาดตระเวน 11 ลำและเรือพิฆาตมากกว่า 30 ลำที่ระดมยิงปืนใส่โอกินาว่าท่ามกลางฝูงบินคามิคาเซะที่บินเข้าใส่ (โดยที่จมได้แต่เรือตรวจตราหรือเรือพิฆาตเท่านั้น แถมหยุดเรือลำเลียงพลไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ตายไปฟรีๆทั้งนั้น) และเหมือนมูซาชิน้องสาวที่โดนถล่มระหว่างทาง ยามาโตะถูกพบซะก่อนจะไปถึงกองเรืออเมริกัน และถูกโจมตีโดยเครื่องบิน 400 ลำจากเรือบรรทุกเครื่องบิน 8 ลำ

ยามาโตะใช้ป้อมปืนต่อสู้อากาศยาน 150 กระบอกระดมยิงแบบหลังพิงฝา เรือลาดตระเวนยาฮางิที่ช่วยคุ้มกันเจอระเบิด 12 ลูกกับตอปิโดอีก 6 ลูกจนพลิกคว่ำ เรือพิฆาตอิโซคาเซะที่มาช่วยก็โดนลูกหลงจมตามไปด้วย ถึงตอนบ่ายยามาโตะโดนตอปิโดไป 8 ลูกกับระเบิดอีกอย่างน้อย 15 ลูกจนเรือเริ่มจะเอียงตะแคงซ้ายและช้าลง เครื่องบินทิ้งระเบิดและตอปิโดเลยเล็งซ้ำที่หางเสือเรือ เพื่อให้หนีไปไหนไม่ได้ จากนั้นจึงระดมโจมตีใส่ตัวเรืออย่างหนัก จนในที่สุดก็พลิกคว่ำและเริ่มจมลง

ตอนบ่าย 2 ของวันนั้น เรือยามาโตะระเบิดอย่างรุนแรงเป็นกลุ่มควันสูงถึง 6,100 เมตร เครื่องบินอเมริกันที่กำลังยิงคามิคาเซะที่โอกินาว่ายังเห็นเลย


http://en.wikipedia.org/wiki/Japanese_battleship_Yamato

ในบรรดากองเรือที่มาพร้อมกับยามาโตะ มีเพียงซุสุทซุกิ ฟุยุซุกิ ฮัทซึชิโมะและยูกิคาเซะเท่านั้นที่รอดไปได้ (ซึ่งในภายหลังเหลือแต่ยูกิคาเซะเท่านั้นที่รอดจนจบสงคราม นอกนั้นแล่นไปชนกับระเบิดที่อเมริกันทิ้งไว้ล้อมกรอบญี่ปุ่น เอาชนิดให้อดตายกันไปเลย)

ยามาโตะ เรือประจันบานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ผู้สืบทอดชื่ออันเก่าแก่ของญี่ปุ่น สัญลักษณ์ของความเกรียงไกรของราชนาวีจักรวรรดิญี่ปุ่นจบลงเพียงเท่านี้ พร้อมทั้งนำความหวังและความภูมิใจของกองทัพเรือจมสู่ก้นทะเลพร้อมกับเธอด้วย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่