ซ่อมเครื่องรถแล้วมีปัญหาเรื่องหม้อน้ำเป็นไปได้ไหมครับ?

ต้องแนะนำก่อนว่ารถคันนี้เป็นรถ ford everest ใช้มาแล้ว 7 ปี ครับ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อประมาณวัน วันที่ 28 ก.พ. ได้เอารถไปเข้าศูนย์เพื่อเช็คระยะและเช็คเอาการกระตุกของรถ ช่างแนะนำให้เปลี่ยนกากบาท ค่าใช้จ่าย 10000 กว่าบาท จึงได้ทำการเปลี่ยน หลังจากรับรถมารถก็ใช้ได้ปกติ แต่ไม่ได้วิ่งทางไกล จนเมื่อวันที่ 5 มี.ค. ต้องใช้รถออกต่างจังหวัด พอขับรถออกจากบ้านได้ 30 ก.ม. รถความร้อนขึ้นสูงมาก จึงจอดรถและดับเครื่อง(ดับเครื่องเองนะครับ รถไม่ได้น็อค) พอโทร.เข้าศูนย์ที่ซ๋อม เขาบอกให้ลากห้ามขับต่อ เราก็ทำตาม พอรถไปถึงศูนย์ช่างก็บอกว่า หม้อน้ำรั่ว ต้องเปลี่ยน เราก็ตกลงเปลี่ยนครับ ต่อมาช่างเอารถไปลองแต่ความร้อนยังขึ้นอยู่ เขาเลยบอกว่า ฝาสูบโก่ง ทีนี้หละครับ ค่าใช้จ่ายอีก 50000 บาท ผมกับครอบครับจึงได้โทรปรึกษาฟอร์ดประเทศไทยแต่คำตอบที่ได้ก็เหมือนช่างที่ศูนย์บอกคือ มันพึ่งรั่วตอนเราขับเพราะว่าหม้อน้ำหมดอายุ ตอนเช็ครอบยังไม่รั่ว เราจึงถามต่อไปว่าแล้วทำไมในเมื่อหม้อน้ำหมดอายุแล้วถึงไม่บอกให้เราเปลี่ยนเพราะเปลี่ยนหม้อน้ำค่าใช้จ่ายไม่ถึง 10000 แต่นี่ทำเราต้องมาเสียเงิน 50000 บาท คำตอบที่ได้คือเขากลับไปอธิบายว่าเราต้องดูที่เกรถเอาว่าเครื่องร้อนแล้ว!!! เหตุการณ์ทำให้ผมกับครอบครัวมีปัญหาที่สงสัยอย่างมากว่า ทำไมศูนย์ถึงไม่ตรวจเช็คให้เราแล้วการที่เราเอารถเช้าศูนย์เป็นประจำมันไม่ช่วยอะไรเราได้เลยหรอ แล้วถ้าสมมติว่าเครื่องน็อคจนรถดับแล้วเบรกไม่ทำงานผมจะไม่ตายไปแล้วหรอครับ ผมจึงอยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำหน่อยครับว่า
- ปัญหาหม้อน้ำรั่วกระทันหันจนฝาสูบโก่งมันเกิดขึ้นได้จริงหรือเกิดจากความผิดพลาดของช่างครับ