สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
รู้ได้อย่างไร ว่าใครดี
รู้ได้อย่างไร ว่าใครเลว
รู้ได้อย่างไร ว่าเรื่องที่เขาเจอ เป็นเรื่องดี
รู้ได้อย่างไร ว่าเรื่องที่คุณเจอ เป็นเรื่องเลว
มีนิทานจีนเรื่องหนึ่ง อยากจะแบ่งปันให้อ่านดูครับ
ผู้เฒ่าซ่าย เสียม้า (นิทานจีน)
ผู้เฒ่าซ่าย เป็นคนที่เข้าใจโลกและชีวิตมากคนหนึ่ง เขามีความเห็นว่า เรื่องราวบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นโชคดีโดยเด็ดขาดและก็ไม่มีอะไรที่เป็นโชคร้ายโดยสิ้นเชิง ทุกอย่างจะต้องมองทั้งสองด้านเสมอ ดังนั้น เมื่อเขาพบกับเคราะห์ร้ายก็ไม่เศร้าโศก เมื่อพบกับโชคดีก็ไม่ดีอกดีใจจนเกินไป มีท่าทีต่อเรื่องต่างๆ ที่ตนประสบพบด้วยความสงบนิ่ง
มีอยู่วันหนึ่ง ม้าตัวหนึ่งของเขาวิ่งหายไป เพื่อนฝูงของเขาเมื่อรู้ข่าวต่างก็พากันมาเยี่ยมปลอบใจเขา แต่ผู้เฒ่าซ่ายกลับตอบว่า “ขอบคุณทุกท่านที่มีน้ำใจแต่ทว่าข้าพเจ้าไม่รู้สึกเสียใจด้วยเรื่องนี้ เสียม้าไปแล้วไม่แน่อาจเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งก็ได้”
ผ่านไปไม่กี่วัน เจ้าม้าตัวนั้นได้กลับมาเอง และยังพาม้าพันธุ์ดีอันล้ำค่ามาด้วยอีก 1 ตัว เพื่อนฝูงเมื่อทราบข่าวต่างพากันมาแสดงความยินดี แต่เขาพูดว่า “ไม่มีอะไรที่มีคุณค่าจนจำเป็นต้องแสดงความยินดี ได้ม้ามาอีกตัว ไม่แน่อาจเป็นคราวเคราะห์อย่างหนึ่งก็ได้”
ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายชอบม้าพันธุ์ดีตัวนั้นมาก มักขี่ออกไปเที่ยวเล่นเสมอ ม้าตัวนั้นก็วิ่งเร็วมาก มีอยู่คราวหนึ่ง ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายตกจากหลังม้าจนขาพิการข้างหนึ่ง เพื่อนฝูงของผู้เฒ่าซ่ายทราบข่าวนี้ ต่างพากันมาแสดงความเสียใจกับเขา ผู้เฒ่าซ่ายกลับพูดตอบเพื่อนๆ ด้วยท่าทีสงบเยือกเย็นอย่างยิ่งว่า “ขาพิการไปข้างหนึ่ง ถึงที่สุดแล้ว เป็นเรื่องเคราะห์ร้ายหรือโชคดี ยังตัดสินยาก”
ต่อมาภายหลังไม่นาน เกิดสงครามระหว่างประเทศจีนกับชนเผ่าหู ชายฉกรรจ์ทั้งประเทศต่างก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารปกป้องประเทศ สงครามคราวนั้นรบกันอย่างดุเดือดติดพันยาวนาน แต่ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายเนื่องจากขาพิการจึงไม่ต้องไปเป็นทหาร พำนักอยู่ในบ้านดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข
รู้ได้อย่างไร ว่าใครเลว
รู้ได้อย่างไร ว่าเรื่องที่เขาเจอ เป็นเรื่องดี
รู้ได้อย่างไร ว่าเรื่องที่คุณเจอ เป็นเรื่องเลว
มีนิทานจีนเรื่องหนึ่ง อยากจะแบ่งปันให้อ่านดูครับ
ผู้เฒ่าซ่าย เสียม้า (นิทานจีน)
ผู้เฒ่าซ่าย เป็นคนที่เข้าใจโลกและชีวิตมากคนหนึ่ง เขามีความเห็นว่า เรื่องราวบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นโชคดีโดยเด็ดขาดและก็ไม่มีอะไรที่เป็นโชคร้ายโดยสิ้นเชิง ทุกอย่างจะต้องมองทั้งสองด้านเสมอ ดังนั้น เมื่อเขาพบกับเคราะห์ร้ายก็ไม่เศร้าโศก เมื่อพบกับโชคดีก็ไม่ดีอกดีใจจนเกินไป มีท่าทีต่อเรื่องต่างๆ ที่ตนประสบพบด้วยความสงบนิ่ง
มีอยู่วันหนึ่ง ม้าตัวหนึ่งของเขาวิ่งหายไป เพื่อนฝูงของเขาเมื่อรู้ข่าวต่างก็พากันมาเยี่ยมปลอบใจเขา แต่ผู้เฒ่าซ่ายกลับตอบว่า “ขอบคุณทุกท่านที่มีน้ำใจแต่ทว่าข้าพเจ้าไม่รู้สึกเสียใจด้วยเรื่องนี้ เสียม้าไปแล้วไม่แน่อาจเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งก็ได้”
ผ่านไปไม่กี่วัน เจ้าม้าตัวนั้นได้กลับมาเอง และยังพาม้าพันธุ์ดีอันล้ำค่ามาด้วยอีก 1 ตัว เพื่อนฝูงเมื่อทราบข่าวต่างพากันมาแสดงความยินดี แต่เขาพูดว่า “ไม่มีอะไรที่มีคุณค่าจนจำเป็นต้องแสดงความยินดี ได้ม้ามาอีกตัว ไม่แน่อาจเป็นคราวเคราะห์อย่างหนึ่งก็ได้”
ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายชอบม้าพันธุ์ดีตัวนั้นมาก มักขี่ออกไปเที่ยวเล่นเสมอ ม้าตัวนั้นก็วิ่งเร็วมาก มีอยู่คราวหนึ่ง ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายตกจากหลังม้าจนขาพิการข้างหนึ่ง เพื่อนฝูงของผู้เฒ่าซ่ายทราบข่าวนี้ ต่างพากันมาแสดงความเสียใจกับเขา ผู้เฒ่าซ่ายกลับพูดตอบเพื่อนๆ ด้วยท่าทีสงบเยือกเย็นอย่างยิ่งว่า “ขาพิการไปข้างหนึ่ง ถึงที่สุดแล้ว เป็นเรื่องเคราะห์ร้ายหรือโชคดี ยังตัดสินยาก”
ต่อมาภายหลังไม่นาน เกิดสงครามระหว่างประเทศจีนกับชนเผ่าหู ชายฉกรรจ์ทั้งประเทศต่างก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารปกป้องประเทศ สงครามคราวนั้นรบกันอย่างดุเดือดติดพันยาวนาน แต่ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายเนื่องจากขาพิการจึงไม่ต้องไปเป็นทหาร พำนักอยู่ในบ้านดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข
แสดงความคิดเห็น
***ทำไมคนเลวๆ ถึงได้รับในสิ่งที่ดีตลอดเวลา แล้วคนดีๆ จะทำยังไง***
หลอกใช้เรา ทั้งที่เราจริงใจกับเค้า และไม่เคยนอกใจ
วันหนึ่งเค้านอกใจเราไปกับคนอื่น และหายไปจากชีวิตเฉยๆ
และทิ้งความรู้สึกไม่ดีไว้กับเรา มาวันนี้ได้ข่าวอีกที
เค้าแต่งงานแล้ว ปลูกบ้านใหม่ เปิดบริษัทของตัวเอง
กับคนใหม่ที่รวยแต่แก่แล้ว
แต่เรายังแค่พนักงานออฟฟิต ธรรมดาๆ คนหนึ่ง
แวบแรกที่รู้สึกคือ โลกไม่ยุติธรรมกับเราเลย
คนที่ทำไม่ดี กลับได้ในสิ่งที่ดีๆ ทุกอย่าง
และไม่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำไว้เลย
เจอแบบนี้แล้วเหนื่อย ท้อเลย ทำให้ไม่อยากทำดีแล้ว
เผื่อจะได้ดีกับเค้าบ้าง อยากถามเพื่อนๆ ว่า มีใครเคยทำดีแล้วไม่ได้ดีบ้าง
แล้วคิดเห็นยังไงกัน