ความประทับใจต่อชาวจีนคริสเตียน (มาฟังด้านดีของชาวจีนบ้างนะคะ)

จขกท. เรียนอยู่ที่อังกฤษ และ จขกท. มีนิสัยชอบที่จะไปลัลล้าตามชมรมต่างๆ คือไม่ได้ปักหลักแค่ชมรมหลักชมรมเดียว เพราะชอบไปเจอผู้คนใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ ทีนี้เมื่อวาน จขกท. เดินอยู่ในมหาลัย ก็ไปโป้ะเช้ะ เจอกระดาษแปะอยู่หน้าบอร์ด



ดิฉันเห็นว่าน่าสนใจดี เพราะชอบศิลปะอยู่แล้ว ก็เลยว่าจะลองไป แต่เอ้ะ เห็นเขาเขียนว่า เป็นกลุ่มจีนคริสเตียน จะมีแต่คนจีนรึเปล่า อีกอย่างเราไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ด้วย แต่เห็นเขียนว่า All are welcomed ก็เลยตัดสินใจไปค่ะ ยอมออกจากบ้านไปตอน ทุ่มครึ่งเลย

เป็นห้องเรียนธรรมดาในมหาลัยนี่แหละค่ะ ที่เปิดให้นร.ขออนุญาติเพื่อใช้สำหรับชมรมโดยเฉพาะ

ภาพกลุ่มของเค้าค่ะ ดิฉันไม่ได้ถ่ายรูปพวกเค้า เกรงใจถ้าจะไปแอบถ่าย รูปนี้นำมาจากกลุ่มชมรมเค้าค่ะ แต่ไม่ใช่ของเมื่อวาน


เข้าไปแรกๆ มีคนจีนอยู่ 4-5 คน และมีสาวจีนคนนึงเล่นเปียโนซ้อมร้องเพลงระหว่างรอเวลา จขกท.แอบเอ๋อๆ เขินๆ เกร็งๆ มีแต่คนจีนจริงๆด้วย เค้าก็แลดูงงๆว่าอินี่ใคร มาทำอะไรที่นี่ ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลย

แต่แทนที่เค้าจะปล่อยทิ้งเราไว้มึนๆคนเดียว เค้าเดินมาทักทายทันทีค่ะ ถามว่ามาจากประเทศอะไร ชื่ออะไร เรียนคณะอะไร รู้จักกลุ่มเค้าจากไหน และอธิบายชวนคุยมากมายระหว่างรอเวลา

ดิฉันก็ตอบไปตามตรงว่ามาจากไทย และเป็นชาวพุทธ ไม่ได้เป็นคริสเตียนนะ ขอมาร่วมกิจกรรมได้มั้ย คือแวะมาเพราะเห็นที่บอร์ด เค้าก็บอกว่ายินดีต้อนรับแขกใหม่ๆอยู่แล้ว

เมื่อคนครบแล้ว สิ่งแรกที่เค้าทำคือแนะนำตัวทีละคน (เหมือนจะเพื่อดิฉันโดยเฉพาะ เพื่อให้รู้จักทุกคน) และบอกว่าดิฉันมาเป็นแขกพิเศษ Special Guest โออออ รู้สึกพิเศษมากมายค่ะ ดิฉันไม่รู้สึกเป็นแกะดำชาวไทยหลงฝูงมาอีกต่อไป น้ำตาจะไหล

และเค้าก็เล่นเกมกัน และให้ดิฉันเล่นด้วย คือให้ทุกคนยื่นมืออกมาและให้จับมือคนที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ทีนี้มือมันจะพันกันค่ะ ต้องหาวิธีแก้มือพันกันให้ได้ โดยไม่ปล่อยมือกัน ทีนี้ตัวก็จะอีรุงตุงนัง ต้องมุดบ้าง โดดข้ามแขนกันบ้าง แม้ดูเหมือนจะแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแก้ออกมา แต่สุดท้ายก็แก้ออกมาได้เป็นการแสดงออกถึงความสามัคคีและการร่วมมือกันแก้ปัญหา

หลังจากนั้นเค้าก็ร้องเพลงกัน เป็นเพลงคริสต์แต่ร้องเป็นภาษาจีน ประทับใจที่สาวจีนข้างๆดิฉันพยายามแปลเป็น English ให้ตลอด ดิฉันบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องแปลก็ได้ ร้องกันไปเถอะ แต่เค้าก็พยายามแปลให้ตลอด น่ารักม้ากกกกก แต่แอบเกรงใจ แหะๆ

กิจกรรมสุดท้าย เขาให้วาดรูปกันเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองคิด ดิฉันก็แอบไปนั่งมุมหลืบ แอบมองทุกคนและได้วาดสิ่งนี้ให้พวกเค้าค่ะ (แอบเขียนขวาล่างด้วยว่า Thailand อิอิ) ขนมที่พวกเค้าเตรียมให้ จขกท.ไม่ว่างกินเลย ปั่นสุดๆ


เนื่องจากเวลามีจำกัด เลยออกแนวเห่ยๆไปนิด ไม่ได้สมส่วนเลย แต่พยายามตวัดสุดๆแล้ว (ในรูป จขกท.ใส่เสื้อแดงหันหลังคนเดียว กะสาวเสื้อฟ้าลายจุดด้านขวามือที่คอยแปลภาษาจีนเป็นอังกฤษให้) และสุดท้ายก็มอบรูปนี้ให้กับ หัวหน้ากลุ่มไปค่ะ พวกๆเพื่อนคนจีนก็มามุงดูรูป และบอกว่าชอบมาก หล่อกว่าตัวจริงอีก ขอบคุณมากๆ มารุมถ่ายรูปกับรูปที่จขกท.วาดกันใหญ่ และชวนให้มาอีกอาทิตย์หน้า น่ารักสุดๆ

สรุปแล้วสิ่งที่ดิฉันเรียนรู้จากพวกเค้าเมื่อวานนี้คือ

- แม้จะต่างชาติ ต่างศาสนา ก็ไม่ได้หมายความว่า เราสมควรจะเกลียดเค้า หรือแบ่งแยกกัน
- ไม่ควรแอนตี้คนต่างศาสนา แต่จงอธิบายว่าสิ่งที่เคารพรักนั้นคืออะไร ให้เค้าร่วมกิจกรรม เป็นส่วนหนึ่ง เพื่อให้รู้ว่า สิ่งทีเราเชื่อคืออะไร อย่าบังคับใคร
- เค้าต้อนรับเรามาดี แล้วเราล่ะจะตอบแทนน้ำใจเค้าได้แค่ไหน
- และการทำอะไรเพื่อคนแปลกหน้า มันดีนะที่เราทำไปโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน แค่ให้ความสุขคนอื่นแค่นั้นเอง

- จงกล้าที่จะเรียนรู้พบเจอคนใหม่ๆ แล้วคุณจะรู้ว่าโลกจากสื่อ หรือการฟังจากปากคนอื่นเพียงด้านเดียว จะทำให้โลกคุณแคบกว่าที่คิด และ Hate Speech จะทำให้เป็น Racist เกลียดเพื่อนร่วมโลกกันไปโดยไม่รู้ตัว

- หลายครั้งที่ดิฉันเห็นคนไทยบางคนที่นี่กระทำผิด และชอบอ้างว่าคนจีนเป็นคนทำ รู้สึกไม่ดีเลย ที่เห็นชนชาติเดียวกันไม่ยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง แต่ไปโทษชนชาติที่ตัวเองดูถูกเสมอ

จะดีกว่าไหม ถ้ามองทุกคนเป็นเพื่อน เพราะมันแย่นะ ที่อีกฝ่ายไม่ได้คิดว่าเราเป็นศัตรู แต่เราดันออกตัวเป็นศัตรูกับพวกเค้าซะเอง

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ แสดงความคิดเห็นได้เต็มที่ค่ะ